ประวัติ ของ สติง_(นักมวยปล้ำ)

สติงเป็นแชมป์โลก 14 สมัย (แชมป์โลกเฮฟวี่เวท NWA 2 สมัย ,แชมป์โลก WCW 6 สมัย ,แชมป์โลกอินเตอร์เนชั่นแนล WCW 2 สมัย และ แชมป์โลก TNA 4 สมัย)

NWA/WCW (1987–2001)

สติงสามารถเอาชนะริก แฟลร์ ในการชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท NWA ได้สำเร็จ ในThe Great American Bash ต่อมาในศึก WCW Monday Nitro (26 มีนาคม 2001) สติงได้เจอกับแฟลร์ โดยเป็นคู่เอกและแมตช์สุดท้ายของ WCW ก่อนที่วินซ์ แม็กแมนจะซื้อกิจการ และสามารถเอาชนะแฟลร์ไปได้ด้วยท่า Scorpion Deathlock หลังแมตช์ได้มากอดแฟลร์ และขอบคุณที่อยู่สมาคมนี้มายาวนานมาก

TNA (2003–2014)

ปี 2003 สติงได้เซ็นสัญญาปล้ำกับสมาคม TNA โดยมาช่วยโปรโมดสมาคม ต่อมาในวันที่ 18 มิถุนายน 2003 สติงได้จับคู่กับเจฟ จาเรต เจอกับเอเจ สไตส์ และเอกซ์ แพ็ก และสามารถเอาชนะไปได้ ต่อมาในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2003 สติง ได้กลับมาที่ TNA อีกครั้งและได้ชิงแชมป์โลก NWA มาจาก เจฟ จาเรต ได้สำเร็จในแมทช์การปล้ำไมีมีกฎกติกา ต่อมาในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2003 สติงได้จับคู่กับ เอ.เจ. เจอกับ จาเรต และเล็ค ลูเกอร์ และสามารถเอาชนะไปได้ ต่อมาในวันที่ 17 ธันวาคม 2003 สติงได้เจอกับจาเรต โดยแมตช์นี้ไม่มีการชิงแชมป์โลก NWA และสามารถเอาชนะไปได้

สติงกับมิสเตอร์แอนเดอร์สันในสแลมไมเวอร์เซรี่ IX

ใน Impact! (24 กุมภาพันธ์ 2011) สติงได้กลับมาที่ TNA อีกครั้งและคว้าแชมป์โลก TNA มาจาก เจฟฟ์ ฮาร์ดี ได้สำเร็จ ต่อมาในศึก ล็อกดาวน์ (2011) สติงได้ป้องกันแชมป์โลก TNA กับร็อบ แวน แดม และมิสเตอร์แอนเดอร์สัน แต่สุดท้ายก็สามารถป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ ต่อมาสติงจะต้องป้องกันแชมป์โลก TNA กับร็อบ แวน แดม ในศึก แซซริฟฟิค (2011) แต่ก็สามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้[10] แต่ต่อมาได้เสียแชมป์ให้กับแอนเดอร์สัน ในสแลมไมเวอร์เซรี่ IX[11]

ผ่านมาอีกไม่กี่สัปดาห์ถัดไปสติงได้ปรากฏตัวขึ้นแบบบ้าคลั่งมากขึ้นคล้ายกันในลักษณะและรูปแบบในการวาดภาพของHeath Ledger ในรูปของโจ๊กเกอร์ จากภาพยนตร์เรื่อง The Dark Knight ได้ไปทำร้ายฮัลค์ โฮแกน และเอริก บิสชอฟฟ์[12][13] ต่อมาสติงสามารถคว้าแชมป์โลก TNA กลับคืนมาได้เป็นสมัยที่4 ใน Impact Wrestling (14 กรกฎาคม 2011) ก่อนเสียแชมป์ให้กับเคิร์ต แองเกิล ในฮาร์ทคอร์ จัสติค (2011) จากการที่แองเกิลใช้เก้าอี้ที่โฮแกนนำมาตีใส่ ต่อมาใน Impact Wrestling (18 สิงหาคม 2011) สติงได้มาพูดเรื่องเกี่ยวกับคู่แข่งเก่าแก่คือ ริก แฟลร์ ตั้งแต่สมัยอยู่สมาคมดับเบิลยูซีดับเบิลยู(WCW) และทำเขากลับมาที่ TNA และท้าทายให้เจอกัน ต่อมาในบาวด์ฟอร์กลอรี (2011) สติงได้เปิดศึกกับโฮแกน หลังจากที่ก่อนนี้เคยมีเรื่องกันตั้งแต่สมัยอยู่สมาคม WCW และสมาคมเอาชนะไปได้

ใน Impact Wrestling (9 กุมภาพันธ์ 2012) สติงได้จับคู่กับเจฟฟ์ ฮาร์ดี เจอกับแชมป์โลก TNA บ๊อบบี้ รู๊ด และบูลลี เรย์ และสามารถเอาชนะไปได้ ต่อมาในVictory Road (2012) สติง ได้เจอกับ บ๊อบบี้ รู๊ด ในแมทช์การปล้ำไม่มีกฎกติกา และสามารถเอาชนะไปได้ ในปี 2012 สติง ได้รับการบรรจุเข้าสู้หอเกียรติยศทีเอ็นเอ[14]

WWE (2014–2016)

สติงได้เซ็นสัญญากับสมาคม ดับเบิลยูดับเบิลยูอี และมาปรากฏตัวใน WWE ผ่าน ดับเบิลยูดับเบิลยูอี เน็ตเวิร์ค โดยมาพูดเกี่ยวกับการจากไปของ ดิ อัลติเมท วอร์ริเออร์[15][16][17]

สติงในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 31

ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2014) (23 พฤศจิกายน 2014) สติงได้มาปรากฏตัวในฐานะแขกรับเชิญโดยมาเล่นงานทริปเปิลเอช และมาช่วยทีมซีนา จนสามารถเอาชนะทีมออธอริตี ในแมตช์อิลิมิเนชั่น แท็กทีม ทำให้ทริปเปิลเอชแค้นมาก[18] ในรอว์ (19 มกราคม 2015) สติงได้มาปรากฏตัวในรอว์ครั้งแรกโดยมาก่อกวนพวกออธอริตี และมาช่วยจอห์น ซีนา เอาชนะในแมตช์แฮนดิแคป 3 รุม 1 ทำให้ ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์, อีริก โรแวน และไรแบ็ก กลับมาทำงานอีกครั้งหลังจากถูกออธอริตีไล่ออกเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว

ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 31 สติงได้มีแมตช์เจอกับทริปเปิลเอช เป็นเรสเซิลเมเนียครั้งแรก และเป็นแมตช์แรกของเขาใน WWE แต่สติงก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป[19] ในคืนต่อมาหลังจากจบรอว์ (30 มีนาคม 2015) มี post-show segment สั้นๆถ่ายทอดสดทาง WWE Network ซึ่งสติงออกมาปรากฏตัวให้เรเน ยังสัมภาษณ์บนเวที โดยพูดถึงเรสเซิลเมเนีย 31 ซึ่งเขาได้เจอกับทริปเปิลเอช ถึงแม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้ แต่ในที่สุดเขาสามารถพูดได้แล้วว่าเขาได้มีส่วนร่วมกับเรสเซิลเมเนีย เรเนถามถึงอนาคของสติงใน WWE ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป (แฟนๆพากันตะโกนอันเดอร์เทเกอร์) สติงตอบว่าเขาไม่รู้เหมือนกันว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เขาไม่รู้ เขาไม่รู้จริงๆ แต่เมื่อไหร่ที่ WWE มอบโอกาสให้กับเขา ไม่ว่าอะไรก็ตาม เขาจะคว้ามันไว้ ทันใดนั้นโบ ดัลลัสออกมาขัดจังหวะ เลยโดน Scorpion Death Drop

ในรอว์ 24 สิงหาคม 2015 สติงได้กลับมา และเล่นงานเซท โรลลินส์ ก่อนจะประกาศขอท้าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE กับโรลลินส์ ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2015) ในรอว์ (14 กันยายน 2015) สติงมีแมตช์แรกของเขาในรอว์ เจอกับบิ๊กโชว์ สู้กันได้แป๊บเดียว โรลลินส์ก็ออกมาช่วยบิ๊กโชว์ รุมกระทืบสติง จอห์น ซีนาวิ่งออกมาช่วยสติงไล่อัดโรลลินส์กับบิ๊กโชว์จนตกเวทีไป ทริปเปิลเอช เลยสั่งให้เป็นแมตช์แท็กทีมสติงจับคู่กับซีนา เจอกับโรลลินส์ กับบิ๊กโชว์ สุดท้ายสติงใช้ท่า Scorpion Death Drop เล่นงานโรลลินส์จากนั้นสติงก็ต่อด้วย Scorpion Deadlock จนโรลลินส์ตบพื้นยอมแพ้ไป ทำให้สติงกับซีนาเป็นฝ่ายชนะ ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ สติงไม่สามารถคว้าแชมป์โลกมาได้ ระหว่างแมตช์สติงได้รับบาดเจ็บที่ต้นคอ และอาการค่อนข้างจะรุนแรงด้วย[20][21]

วันที่ 11 มกราคม 2016 ในรอว์ WWE ได้ประกาศว่า สติงได้เข้าสู่หอเกียรติยศดับเบิลยูดับเบิลยูอี เป็นคนแรกในปี 2016 และในช่วงระหว่างการกล่าวคำพูดหลังจากรับรางวัล สติงก็ประกาศรีไทร์ ถือเป็นการอำลาสังเวียนผืนผ้าใบอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 2 เมษายน 2016[6][22][23]

แหล่งที่มา

WikiPedia: สติง_(นักมวยปล้ำ) http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/Bios/sting.htm... http://www.100megsfree4.com/wiawrestling/pages/pwi... http://www.100megsfree4.com/wiawrestling/pages/pwi... http://www.100megsfree4.com/wiawrestling/pages/pwi... http://www.100megsfree4.com/wiawrestling/pages/pwi... http://www.100megsfree4.com/wiawrestling/pages/pwi... http://www.100megsfree4.com/wiawrestling/pages/pwi... http://www.100megsfree4.com/wiawrestling/pages/pwi... http://www.100megsfree4.com/wiawrestling/pages/pwi... http://www.allmusic.com/album/tna-wrestling-3rd-de...