สนธิสัญญาไม่รุกรานกันระหว่างจีน-โซเวียต (
อังกฤษ: Sino-Soviet Non-Aggression Pact
จีน: 中蘇互不侵犯條約) ได้มีการลงนามเมื่อวันที่
21 สิงหาคม ค.ศ. 1937 ระหว่าง
สาธารณรัฐจีนและ
สหภาพโซเวียต ระหว่าง
สงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สองสนธิสัญญาดังกล่าวเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสาธารณรัฐจีน ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของ
พรรคก๊กมินตั๋ง กับสหภาพโซเวียต หลังจากการเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว สหภาพโซเวียตได้ส่งเครื่องบินรบให้แก่รัฐบาลชาตินิยมจีนใน
ปฏิบัติการเซท และให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจเพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้นจากการยึดครองของญี่ปุ่น ผู้นำจีน นายพล
เจียงไคเช็คเชื่อว่านี่จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าสหภาพโซเวียตเตรียมตัวจะมทำสงคราม อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็รู้สึกตัวว่าสหภาพโซเวียตนั้นได้จำกัดการให้ความช่วยเหลือของตัวเอง รวมไปถึงไม่ได้เตือนจีนในกรณีการตกลงเป็นพันธมิตรกันอย่างเงียบๆ กับ
อังกฤษ ฝรั่งเศส และในภายหลัง คือ
สหรัฐอเมริกา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อจีน ซึ่งจีนและญี่ปุ่นจะอ่อนแอลงกันทั้งคู่สนธิสัญญาดังกล่าวยังเป็นการมุ่งความสนใจของสหภาพโซเวียตมาสนใจทางด้านแนวชายแดนตะวันออก ขณะที่
นาซีเยอรมนีเตรียมทำสงครามกับสหภาพโซเวียต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่
สนธิสัญญาความเป็นกลางโซเวียต-ญี่ปุ่นได้ลงนามไปแล้ว ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและนาซีเยอรมนีเลวร้ายลงไป และในที่สุดเยอรมนีก็ยุติ
ความร่วมมือทางการทหารกับจีน ที่มีมาตั้งแต่ปี
ค.ศ. 1911สนธิสัญญาดังกล่าวนี้เป็นหนึ่งในสนธิสัญญาทางการทูตฉบับแรกๆ หลังจากจักรวรรดิจีนล่มสลาย และเป็นหนึ่งในเอกสารเบื้องต้นที่ชี้ถึงความร่วมมือกันระหว่างสหภาพโซเวียตและสาธารณรัฐประชาชนจีน สหภาพโซเวียต ในฐานะของผู้อัปถัมภ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทางเศรษฐกิจ และจีนซึ่งเป็นรัฐบริวาร ซึ่งได้ลงเอยกันด้วยสนธิสัญญามิตรภาพจีน-โซเวียตแห่งปี
ค.ศ. 1950