ประวัติ ของ สมชาย_เข็มกลัด

เป็นชาวไทยเชื้อสายมอญที่เกิดในครอบครัวฐานะยากจน โดยมีผู้เป็นยายเลี้ยงดูมาตลอด เริ่มเข้าศึกษาชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนท่าเรือวิทยา และได้ศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา พ.ศ. 2544

เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงจากการชักนำของ พจน์ อานนท์ ให้ไปถ่ายแบบลงหนังสือ เธอกับฉัน จากนั้นก็ก้าวสู่วงการจอแก้วในละครโทรทัศน์เรื่อง "นางฟ้าสีรุ้ง" ทางช่อง 7 เมื่อปี พ.ศ. 2533 ในฐานะตัวประกอบ และเข้าสู่บทบาทในจอเงินภายใต้ชื่อเรื่องว่า “สะแด่วแห้ว” จากนั้นได้เข้าเซ็นสัญญาเป็นนักร้องในสังกัด อาร์เอส โปรโมชั่น มีอัลบั้มเป็นของตัวเองชื่อ “เต๋า หัวโจก” ในปี พ.ศ. 2536 ซึ่งถือเป็นผลงานสร้างชื่อให้เต๋ากลายเป็นขวัญใจวัยรุ่นด้วยแฟชั่นผ้าโพกหัวและเสื้อลายสก๊อตจากมิวสิกวีดีโอเพลง "บอดี้การ์ด" คู่กับ สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ซึ่งทำให้ทั้งคู่ต่อมาเหมือนเป็นดาราคู่ขวัญกัน ตามมาด้วยอัลบั้มชุดที่ 2 “สมชายจดปลายเท้า” และอัลบั้มพิเศษ “สมชายโอที” ในปี พ.ศ. 2538 และอัลบั้มชุดที่ 3 "สมชาย 100 แรงม้า" ในปี พ.ศ. 2541

นอกจากนี้ยังมีผลงานทางการแสดงทั้งละครและภาพยนตร์อีกมากมาย อาทิเช่น ละครเรื่อง “เวลาในขวดแก้ว”, "น้ำใสใจจริง" และโด่งดังเป็นพลุแตกในบทบาทของ “เฮียเมฆ” ในเรื่อง "ข้าวเปลือก" ตามมาด้วยบทของ “เผดิมพงศ์” แห่ง "เกาะสวาท หาดสวรรค์" คู่พระคู่นางและคู่กัดของ “ยายตุ่มแตก” หรือ “นภาพร” ที่สวมบทโดย สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา

ในส่วนของภาพยนตร์ เรื่องที่สร้างชื่อเสียงให้อย่างมากคือ "โลกทั้งใบให้นายคนเดียว" ในปี พ.ศ. 2538 ที่เล่นคู่กับนางเอกคู่ขวัญ นุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ตามมาด้วย "ล่องจุ๊น ขอหมอนใบนั้นที่เธอฝันยามหนุน", "แตก 4 รัก โลภ โกรธ เลว", "มือปืน โลก/พระ/จัน", "สายล่อฟ้า" และที่เข้าฉายในปี พ.ศ. 2550 คือเรื่อง "โอปปาติกะ" พ.ศ. 2553 "นาคปรก"

รับเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา ให้กับสินค้ารถจักรยานยนต์ฮอนด้า สำหรับกลุ่มวัยรุ่นชายตั้งแต่เริ่มเข้าวงการใหม่ ๆ ในรุ่น ฮอนด้า โนวา จนถึงปัจจุบันเป็นเวลาเกือบ 20 ปีแล้ว ก็ยังเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับรุ่น ฮอนด้า โซนิก ซึ่งเน้นจับกลุ่มลูกค้าที่เป็นวัยรุ่นชายเช่นกัน

รวมถึงเคยเป็นพิธีกรรายการ 4+1 ถึงจะเท่ห์ ร่วมกับ สายฟ้า เศรษฐบุตร, ปราโมทย์ แสงศร และจักรกฤษณ์ อำมะรัตน์[1]

นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นนักฟุตบอล เคยติดทีมชาติไทยชุดเยาวชนมาแล้ว[2]