แชมป์โลกประวัติศาสตร์ ของ สมาน_ส.จาตุรงค์

สมาน (กางเกงขาว) ขณะชกกับกอนซาเลซ

จนกระทั่งเมื่อสมานได้มีโอกาสชิงแชมป์โลกอีกครั้ง ในวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 กับนักชกอันตรายอีกคนหนึ่งชาวเม็กซิกัน อุมเบร์โต "ชิกิตา" กอนซาเลซ ที่เวทีมวยอิงเกิลวูด แคลิฟอร์เนีย ซึ่งก่อนไป ทุกคนต่างคาดไว้ว่า สมานต้องแพ้แน่ ๆ จะแพ้น็อกหรือแพ้คะแนนเท่านั้น เพราะกอนซาเลซถือเป็นนักมวยระดับโลก ที่หวังว่าสมานจะชนะ มีแค่เพียงกลุ่มผู้สนับสนุน คือ สหสมภพ ศรีสมวงศ์ กับ สุชาติ ธีรวุฒิชูวงศ์ เท่านั้น แต่ผลการชกกลับพลิกล็อกถล่มทลาย เมื่อสมานเป็นฝ่ายชนะกอนซาเลซไปได้ และเป็นการชนะน็อกทีเคโออย่างเด็ดขาดในยกที่ 7 ชนิดที่ตัวเองก็เจียนไปเจียนอยู่เหมือนกัน

สมาน ส.จาตุรงค์ จึงกลายเป็นแชมป์โลกคนที่ 21 ของไทย โดยได้แชมป์ในรุ่นไลท์ฟลายเวท 2 สถาบันทันที คือ ทั้งสภามวยโลก (WBC) และสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) เป็นคนแรกของไทยและของทวีปเอเชีย ที่ครองแชมป์พร้อมกัน 2 สถาบันในคราวเดียวกัน ซึ่งไฟท์นี้นับว่าเป็นไฟท์สุดท้ายของชีวิตการชกของกอนซาเลซด้วย เพราะหลังการชกกอนซาเลซก็ได้ประกาศแขวนนวมไป เมื่อสมานกลับมาถึงเมืองไทยจึงกลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของแฟนมวยชาวไทยไปโดยทันที สมานป้องกันตำแหน่งครั้งแรกกับ ยูอิจิ โฮโซโนะ นักชาวญี่ปุ่น โดยเป็นการป้องกันตำแหน่งทั้ง 2 สถาบัน โดยสมานก็เป็นฝ่ายชนะน็อกไปอย่างง่ายดายในยกที่ 4

หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2539 สมานก็สละตำแหน่งแชมป์ของสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) โดยเลือกที่จะครองแต่ของสภามวยโลก (WBC) เท่านั้น สมานได้ป้องกันตำแหน่งหลายครั้ง อย่างต่อเนื่อง เช่น ชนะน็อก อันโตนิโอ เปเรซ นักชาวชาวเม็กซิกัน ยก 4 ชนะน็อก โจมา แกมบัว นักมวยชาวฟิลิปปินส์ ยก 7 ชนะ ชิโร ยาฮิโระ นักมวยชาวญี่ปุ่น ถึง 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 2 เป็นการชกที่ประเทศญี่ปุ่น ชนะคะแนน ลาดิสลาโอ บัซเกซ นักมวยชาวเม็กซิกัน เป็นต้น สมานมาเสียตำแหน่งในการป้องกันครั้งที่ 11 กับ ชเว โย-ซัม นักมวยชาวเกาหลีใต้ ถึงโซล ถิ่นของผู้ท้าชิงเอง โดยที่สมานโดนเอารัดเอาเปรียบด้วยวิธีการสารพัดต่าง ๆ ตลอดเวลา ทั้งโดนเอาหัวโขก,ตัดคะแนน เป็นต้น โดยที่กรรมการกลางจากสภามวยโลกชาวเม็กซิกัน ที่เป็นสักขีพยานในสถานที่ชกไม่ได้ช่วยอะไรเลย