ประวัติ ของ สวนลุกซ็องบูร์

ประวัติของสวนได้เกิดในช่วงปีค.ศ.1611 จากพระราชเสาวนีย์ของมารี เดอ เมดีซิส สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส ที่ทรงต้องการสร้างพระราชวังใหม่ พร้อมสวน และน้ำพุที่ปัจจุบันยังคงอยู่ โดยมีพระราชประสงค์ให้ปลูกต้นไม้และออกแบบให้เหมือนราวกับสวนในเมืองฟลอเรนซ์ ที่เป็นบ้านเกิดของพระองค์ โดยมีผู้ออกแบบคือ ตอมมาโซ ฟรานชีนี่ ซึ่งได้ปลูกต้นเอล์ม กว่า 2,000 ต้น โดยมีระเบียง 2 บริเวณ ตกแต่งด้วยรั้วประดับ สวนเรขาคณิตอันวิจิตร พร้อมทั้งน้ำพุเมดิชี่ ที่ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของพระราชวัง โดยในขณะนั้นยังไม่มีบ่อน้ำและรูปปั้นอย่างปัจจุบัน โดยแต่แรกสวนมีพื้นที่เพียง 80,000 ตารางเมตร

น้ำพุเมดิชี่ (1630, 1866

ในปีค.ศ.1630 ได้มีการขยายพื้นที่เป็น 300,000 ตารางเมตร โดยได้ทรงมอบหมายให้ฌัค บัวโซ ผู้ออกแบบสวนแห่งพระราชวังตุยเลอรี และพระราชวังแวร์ซาย เป็นผู้ออกแบบ โดยเขาได้เป็นผู้วางต้นแบบการจัดสวนแบบฝรั่งเศส โดยใช้รูปเรขาคณิต เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสหลายๆขนาด และปลูกพุ่มไม้และดอกไม้เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวบริเวณด้านหน้าพระราชวัง ตรงกลางสวนเขาได้ออกแบบสระน้ำแปดเหลี่ยมพร้อมน้ำพุ

ในรัชสมัยต่อมาสวนแห่งนี้ได้ถูกปล่อยไม่ได้รับการดูแลจนกระทั่งเมื่อปีค.ศ.1780 สวนฝั่งตะวันออกได้ถูกแบ่งขายโดย กงต์ เดอ โปรวองซ์ ว่าที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 18 และต่อมาภายหลังการปฏิวัติฝรั่งเศส สวนแห่งนี้ได้ถูกขยายเป็น 400,000 ตารางเมตร โดยทำการเวนคืนจากที่ดินสำนักสงฆ์นิกายคาร์ธูเซียน โดยมีสถาปนิก ฌอง ชาลแกรง เป็นผู้รับผิดชอบการฟื้นฟูสวนขึ้นมาใหม่ โดยเขาได้ออกแบบน้ำพุเมดิชี่ขึ้นใหม่ และเก็บรักษาสวนเนอสเซอรี่ ไร่องุ่นของสำนักสงฆ์ไว้ โดยเขายังคงจัดสวนคงแบบฝรั่งเศสไว้เหมือนเดิมทั้งหมด

ช่วงปีค.ศ.1848 สวนแห่งนี้ได้กลายเป็นที่เก็บรูปปั้นต่างๆมากมาย รวมทั้งพระบรมรูปพระราชินีในอดีต รูปปั้นสตรี และอื่นๆอีกมาก โดยตั้งเรียงไว้รายรอบ และต่อมาในปีค.ศ.1880-1890 ได้มีรูปปั้นที่เป็นอนุเสาวรีย์แก่นักเขียน และช่างศิลป์ต่างๆ รวมทั้งรูปจำลองขนาดเล็กของเทพีเสรีภาพอีกด้วย

แผนผังแสดงที่ตั้งพระบรมรูปของพระราชินี และสตรีต่างๆ

ในระหว่างปีที่ทำการเปลี่ยนแปลงกรุงปารีสครั้งใหญ่ในช่วงปีค.ศ.1865 ได้มีการตัดถนนผ่านเข้ามาในสวน ทำให้พื้นที่หายไปประมาณ 150,000 ตารางเมตร รวมถึงสวนเนอสเซอรี่ด้วย รวมถึงการย้ายสถานที่ตั้งของน้ำพุเมดิชี่ มาตั้งอยู่ ณ สถานที่ในปัจจุบัน และยังมีการสร้างรั้ว และประตูเหล็กดัดโดยรอบสวน

ในช่วงปลายยุด 1800 สวนลุกซ็องบูร์ประกอบไปด้วยรูปปั้นกว่า 70 รูป โรงละคอนหุ่นกระบอก ลานดนตรี เรือนกระจกปลูกพืช โรงเลี้ยงผึ้ง สวนกุหลาบ สวนผลไม้ เรือนกระจกสำหรับปลูกส้มในฤดูหนาว ซึ่งภายหลังกลายมาเป็นที่จัดแสดงรูปปั้น และศิลปะสมัยใหม่ จนถึงปีค.ศ.1930

ใกล้เคียง

สวนลุมพินี สวนลุมไนท์บาซาร์ สวนลุมไนท์บาซาร์ รัชดาภิเษก สวนลุกซ็องบูร์ สวนลุมพินี (ไฮเดอราบาด) สวนลุมพินีวัน สวนลุม (แก้ความกำกวม) สวนลอยบาบิโลน สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา สวนทุ่ยซือ