เมนูนำทาง
สวนหว่างซือ การออกแบบพื้นที่สวนทั้งหมดประมาณ 5,400 ตารางเมตร ซึ่งแบ่งพื้นที่เป็นส่วนตะวันออกและตะวันตก[2] สวนตะวันออกประกอบด้วยอาคารที่พักอาศัย ในขณะที่บริเวณสวนจะอยู่ทางฝั่งตะวันดก
สวนตะวันออกที่เป็นส่วนที่พักอาศับ ประกอบด้วยโถงต่างๆ เรียงรายตามลำดับถึง 4 โถง รวมถึงสวน 4 แห่ง ส่วนสวนตะวันตกประกอบด้วยอาคารต่างๆ ล้อมรอบสระเมฆสีกุหลาบ (Rosy Cloud Pool) ขนาดพื้นที่ 334 ตารางเมตร ประดับด้วบหินและต้นไม้ต่างๆ ที่สร้างสรรค์ความงามให้แก่สวนหว่างซือ และสร้างมุมมองที่เป็นตัวแทนของหลายๆ ฤดู มีศาลาแปดหลี่ยมริมมสระน้ำ องค์ประกอบที่โดดเด่นสองส่วนคือ ต้นสนไซปรัสโบราณตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง (Barrier of Cloud grotto) และสนที่มีอายุหลายร้อยปี พื้นที่ทางทืศใต้ของสระน้ำเคยถูกใช้เป็นที่สังสรรค์พบปะ ส่วนพื้นที่ทางทิศเหนือของสระน้ำเคยถูกใช้เป็นสถานที่เรียนรู้ อาคารต่างๆ โดยรอบสระน้ำถูกจัดวางให้อยู่ใกล้กับน้ำมาก โดยอาคารขนาดเล็กจะตั้งอยู่บนโขดหินหรือยื่นลงไปในน้ำ ส่วนอาคารขนาดใหญ่จะมีสวนเล็กๆ กั้นระหว่างอาคารและสระน้ำ
องค์ประกอบของสวนและคำอธิบาย | |
---|---|
สวนตะวันออก (Eastern Garden) | |
หอแห่งความงดงามที่เข้าถึง (Beauty Within Reach Tower) เป็นโถงอาคารสองชั้นไม่มีหน้ามุขที่ตั้งอยู่ท้ายสุดในบริเวณส่วนทางเข้า เคยใช้เป็นที่นัดพบปะของหญิงสาว ชื่อของหอได้มาจากทิวท้ศน์อันงดงามของเนินเขาและหมู่บ้านที่สามารถมองเห็นได้จากบริเวณชั้นสองของหอแห่งนี้ | |
โถงถ้ำเมฆ (Cave of Cloud Hall) อาคารสองชั้นด้านหน้าเป็นมุขเปิดสู่สวนที่ตกแค่งด้วยสวนถาดหรือบอนไซ (Penzai) | |
ห้องบันไดสู่หมู่เมฆ (Cloud Stairway Room) ได้ชื่อมาจากบทกวีชื่อ Xuan Shi Zhi โดยจางตู (Zhang Du) ที่กล่าวไว้ว่า "โจวเซิงเรียกพระจันทร์ที่กำลังลอยสู่ก้อนเมฆด้วยเชือกในเทศกาลไหว้พระจันทร์ (Zhou Sheng fetches the moon in after ascending to the clouds with a rope at the Mid-Autumn Festival)" ด้านหน้าของอาคารเปิดสู่สวนดำ (Back Garden) ด้านหลังอาคารได้ต่อเติมเป็นห้องสำหรับเก็บสะสมงานกระเบื้องเซรามิกต่างๆ [1] | |
ประตู (Gate) ตั้งหันหน้าเข้าหากำแพงมังกรที่อยู่บริเวณสวนด้านหน้า | |
โถงต้อนรับ (Grand Reception Hall) เป็นอาคารหลังที่สามจากทางเข้าหลัก มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า โถงแห่งความเมตตา (Hall of Accumulated Benevolence) และ โถงหนึ่งหมื่นเล่ม (Ten Thousand Volume Hall) ซึ่งใช้เป็นที่รองรับแขก | |
โถงเสลี่ยง (Sedan-Chair Hall) ได้ชื่อมาจากเสลี่ยงหรือเกี้ยวที่ใช้หามข้าราชการชั้นสูงของราชสำนัก | |
สวนตะวันตก (Western Garden) | |
ระเบียงกิ่งไผ่ (Branch Beyond Bamboo Porch) ศาลาทรงเหลี่ยมหลังคาปั้นหยา ตั้งอยู่ใกล้กับระเบียงล่าเป็ด (Shooting Ducks Corridor) ในอดีตมักใช้ศาลานี้จัดพิธีน้ำชา มีการตกแต่งด้วยรูปค้างคาว | |
ฝายหินก้อนเมฆ (Barrier of Clouds Rockery) | |
ศาลาฤดูใบไม้ผลิ (Cool Springs Pavilion) ได้ชื่อมาจากธารน้ำสีฟ้า (Azure Spring) ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน โดยมาจากบทกวีของจูซี (Zhu Xi) ที่กล่าวว่า "ธารน้ำใสสะอาด (A spring inside is full of clean water)" [1] เป็นศาลาทรงสี่เหลี่ยมหลังคาปั้นหยาตั้งอยู่ติดกับกำแพงของสวนส่วนใน (Inner Garden courtyard) ภายในศาลามีหินบัณฑิต (scholar stone) อันสวยงามแปลกตาชื่อ The Goshawk | |
ระเบียงล่าเป็ด (Duck Shooting Corridor อาคารรูปทรงคล้ายเรือที่ใช้ในการยิงเป็ดซึ่งเป็นกิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจในสมัยราชวงศ์หมิง | |
ห้องสมุดยอดเขาทั้งห้ายอด (Five Peaks Library) ได้ชื่อมาจากบทกวีของหลี่ไป๋ (Li Bai) ที่กล่าวว่า "มียอดเขาห้ายอดของเขาหลูซานซึ่งลักษณะเหมือนกลีบดอกบัว (There are five peaks south of Mount Lu which look like lotus flowers cut by nature".)[1] อาคารนี้สร้างขึ้น ณ ตำแหน่งที่เคยเป็นโถงหนึ่งหมืนเล่ม (Ten Thousand Volume Hall) ในสมัยราชวงศ์ซ่ง | |
สวนส่วนใน (Inner Garden) เป็นสวนขนาด 667 ตารางเมตร เคยใช้เป็นบริเวณของผู้หญิง เชื่อมต่อกับสวนหลักทางประตูสันโดษของชาวประมง (Fisherman's Retreat Gate) สร้างขึ้นในแบบของราชวงศ์หมืงซึ่งตกแต่งประดับด้วยหินธรรมชาติและหินศิลาแท่ง | |
กระท่อมปลายฤดูวสันต์ (Late Spring Cottage) ได้ชื่อมาจากกวีของซูชื่อ (Su Shi หรือ Su Dongpo; 蘇軾) ที่กล่าวว่า "มีแต่ดอกโบตั๋นเท่านั้นที่ยังผลิบานในปลายฤดูใบไม้ผลิ (Only the peony is still flowering in the late spring)"[1] เป็นอาคารที่ถูกใช้เป็นต้นแบบของการสร้าง "โถงราชวงศ์หมิง (Ming Hal)l" ที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน (Metropolitan Museum of Art) ณ นครนิวยอร์ก โถงราชวงศ์หมิงนี้ใช้เป็นที่จัดแสดงศิลปะโบราณสมัยราชวงศ์หมิง | |
ศาลาลมโชยพระจันทร์ (Moon Comes with the Breeze Pavilion) ได้ชื่อมาจากบทกวีของหานยู่ (Han Yu; 韩愈) กล่าวว่า "สนธยาในฤดูใบไม้ร่วงนำพาสายลมโชยพระจันทร์มาถึงที่นี่ (The twilight brings the Autumn and the breeze sends the moon here)"[1] เป็นศาลาทรงหกเหลี่ยมใช้เป็นสถานที่ชมพระจันทร์ในยามค่ำคืน | |
ห้องสมาธิ (Meditation Study) ได้ชื่อมาจากคำกล่าวของจวงจื่อ (Zhuang Zi) ที่ว่า "เต๋าสอดคล้องกับความว่างเปล่า สถานะความว่างเปล่าของจิดใจ (Tao is in agreement with emptiness, a state of emptiness is mentality)" สวนด้านหน้าประดับตกแต่ด้วยต้นไผ่ | |
ห้องดนตรี (Music Room) ลักษณะเป็นศาลาทางสี่เหลี่ยมมีหน้ามุข ด้านหลังติดกับเรือนรับรองความจริงและความสามัคคี (Truth and Harmony Guest House) เคยใช้เป็นที่จัดแสดงอุปรากรและการแสดงต่างๆ มีต้นทับทิมโบราณอยู่บริเวณสวนที่อยู่ใกล้ๆ | |
โถงโบตั๋น (Peony Hall) หรือเรีบกอีกชื่อหนึ่งว่า "The Hall of Dewy Grace" โดยชื่อโถงโบตั๋นได้มาจากบทกวีของหลี่ไป๋ (Li Bai) ที่กล่าวไว้ว่า "สายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิลูบไล้บันไดและดอกโบตั๋น (The spring breeze is stroking gently the balustrade and ดอกโบตั๋น (พรรณไม้) is wet with ew)".[1] ปัจจุบันใช้เป็นโรงน้ำชา (tea house) | |
ศาลาเนินเขาและดอกกุ้ยฮวา หรือดอกหอมหมี่นลี้ (Small Hill and Osmanthus fragrans Pavilion) ได้ชื่อมาจากบทกวีชื่อ Little Hill Appeals to the Hermit ของหยูซิ่น (Yu Xin; 庾信) ซึ่งกล่าวไว้ว่า "ดงต้นหอมหมื่นลี้ขึ้นเต็มอยู่ที่เชิงเขา (Many sweet Osmanthus fragrans trees are growing at the foot of the mountain)"[1] | |
เรือนรับรองความจริงและความสามัคคี (Truth and Harmony Guest House) เรือนรับรองแห่งนี้ได้ชื่อมาจากสุภาษิตที่กล่าวว่า "To conduct yourself harmoniously and support the truth."[1] หน้าต่างประดับลวดลายแกะสลักคล้ายแหที่งดงามปราณีต สมกับชื่อของสวน | |
ศาลาสายริบบิ้น (Washing Ribbon Pavilion over Water) ได้ชื่อมาจากบทกวีใน Chu Ci (Songs of the South) ที่ชื่อ ชาวประมง (The Fishermen) ซึ่งกล่าวว่า "ถ้าสายน้ำชางลางสะอาด ฉันก็จะซักสายริบบิ้นของฉัน แต่ถ้าสายน้ำสกปรก ฉันจะล้างเท้าของฉันแทน (If the water of Canglang River is clean I wash my ribbon, if the water of the Canglang River is dirty I wash my feet)"[1] | |
ห้องชมสวนสนและภาพเขียน (Watching Pine and Appreciating Paintings Studio) เคยใช้เป็นห้องศิลปะ ด้านหน้าเป็นสวนสนต่างๆ จากสมัยราชวงศ์หมิง | |
สะพานสู่ความเงียบสงบ (Leading to Quietude Bridge) สะพานที่มีเพี่ยง 3 ขั้น ถือเป็นสะพานที่เล็กที่สุดในซูโจว | |
เมนูนำทาง
สวนหว่างซือ การออกแบบใกล้เคียง
สวนหว่างซือ สวนหลวง ร.9 สวนวชิรเบญจทัศ สวนหลิว สวนหลวงสตัดลีย์ สวนทวีวนารมย์ สวนหลวงพระราม 8 สวนหย่อมขนาดเล็ก สวนสวรรค์ สวนหนานเหลียนแหล่งที่มา
WikiPedia: สวนหว่างซือ http://www.suzhou.gov.cn/english/Travel/7.shtml http://www.book-wind.com http://www.orientalarchitecture.com/china/suzhou/m... http://www.szwsy.com/en/company.asp?ComID=1 http://depts.washington.edu/chinaciv/home/3wangshy... http://www.terebess.hu/kert/magankert/garden5.html http://www.chinaculture.org/gb/en_travel/2003-09/2... http://whc.unesco.org/en/list http://whc.unesco.org/en/list/813 http://whc.unesco.org/en/list/?search=&search_by_c...