บทบาททางการเมือง ของ สังศิต_พิริยะรังสรรค์

สังศิต ได้ร่วมลงนามทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอนายกรัฐมนตรีพระราชทาน เมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2549 โดยอ้างอิงความตามมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540[2]

วิกิซอร์ซ มีงานต้นฉบับเกี่ยวกับ:

ในปี พ.ศ. 2557 หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ทำการรัฐประหาร ได้รับแต่งตั้งเป็นมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และในภายหลังสภาปฏิรูปแห่งชาติสิ้นสุดลง ได้รับแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรีเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) เขาถูกสำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งความดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาทจากการโฆษณาจากการอภิปรายวิชาการ ในหัวข้อ “ตำรวจไทย มีไว้ทำอะไร”[3]

ในวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2560 มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 38/2560 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ส่งผลให้ รศ.ดร. สังศิต พ้นจากการเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เนื่องจากต้องรอคณะรัฐมนตรีอนุมัติคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดใหม่ ซึ่งจะมี 4 คน จากเดิม 6 คน แต่ยังคงตำแหน่งประธานกรรมการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน