สาธารณรัฐสังคมอิตาลี (
อิตาลี: Repubblica Sociale Italiana,
RSI) เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายและในประวัติศาสตร์คือ
สาธารณรัฐซาโล(
อิตาลี: Repubblica di Salò [reˈpubblika di saˈlɔ]), เป็น
รัฐหุ่นเชิดของ
เยอรมันด้วยการรับรองที่จำกัดซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงปลาย
สงครามโลกครั้งที่สอง ได้ดำรงอยู่นับตั้งแต่เริ่มต้นด้วยเยอรมันเข้ายึดครองอิตาลีในเดือนกันยายน ค.ศ. 1943 จนกระทั่งการยอมจำนนของกองทัพเยอรมันในอิตาลีในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1945 สาธารณรัฐสังคมอิตาลีเป็นประเทศที่ถือกำเนิดเป็นครั้งที่สองและครั้งสุดท้ายของรัฐฟาสซิสต์อิตาลีและภายใต้การนำของดูเช
เบนิโต มุสโสลินี และพรรคฟาสซิสต์รีพับลิกันของเขาได้หันไปเป็น
ผู้ต่อต้านระบอบราชาธิปไตย ซึ่งได้พยายามที่จะปรับปรุงแก้ไขและให้ทันสมัยของหลักคำสอนลัทธิฟาสซิสต์ในแนวทางที่เป็นกลางและซับซ้อนมากขึ้น รัฐได้ประกาศว่า
กรุงโรมเป็นเมืองหลวงแต่ในทางพฤตินัย ซึ่งตั้งอยู่ที่
ซาโล(ดังนั้นจึงเป็นชื่ออย่างไม่เป็นทางการ) เมืองขนาดเล็กบน
ทะเลสาบการ์ดา ใกล้กับ
เบรชชา ที่มุสโสลินีและกระทรวงการต่างประเทศได้ตั้งสำนักงานใหญ่ที่นั้น สาธารณรัฐสังคมอิตาลีมีอำนาจอธิปไตยในนามในทางภาคเหนือและกลางของอิตาลี แต่ต้องพึ่งพาทหารเยอรมันเพื่อรักษาการควบคุมเป็นส่วนใหญ่ ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1943 ภายหลังจาก
ฝ่ายสัมพันธมิตรได้ผลักดันอิตาลีออกจาก
แอฟริกาเหนือและจากนั้นก็
บุกครองเกาะซิซิลี สภาใหญ่ฟาสซิสต์-ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย
พระเจ้าวิตโตรีโอ เอมานูเอเลที่ 3-ได้รับสั่งให้ทำการล้มล้างและจับกุมมุสโสลินี รัฐบาลใหม่ได้เริ่มทำการเจรจาสันติภาพอย่างลับๆกับฝ่ายสัมพันธมิตร เมื่อการสงบศึกที่แคสซิเบียได้ถูกประกาศ เมื่อวันที่ 8 กันยายน เยอรมนีได้เตรียมความพร้อมและเข้าแทรกแซงอย่างรวดเร็ว เยอรมนีได้เข้ายึดครองควบคุมทางตอนเหนือครึ่งหนึ่งของอิตาลี ได้ปลดปล่อยมุสโสลินีออกจากที่คุมขังและพาเขาไปยังพื้นที่ที่เยอรมันยึดครองเพื่อจัดตั้งระบอบประเทศรัฐบริวาร สาธารณรัฐสังคมอิตาลีได้ถูกประกาศขึ้น เมื่อวันที่ 23 กันยายน ค.ศ. 1943
[2][4] แม้ว่าสาธารณรัฐสังคมอิตาลีได้กล่าวอ้างว่าดินแดนส่วนใหญ่ของอิตาลีเป็นสิทธิ์อันชอบธรรม มันได้ควบคุมทางการเมืองในส่วนที่เหลือน้อยอย่างมากของอิตาลี
[5] สาธารณรัฐสังคมอิตาลีได้รับรองทางการทูตจากเยอรมนี ญี่ปุ่น และรัฐหุ่นเชิดของพวกเขาเท่านั้นเมื่อประมาณวันที่ 25 เมษายน ค.ศ. 1945 สาธารณรัฐฟาสซิสต์ของมุสโสลินีได้
ล่มสลายลง ในอิตาลี, วันนั้นได้เป็นที่รู้จักกันคือ
วันปลดปล่อย(''festa della liberazione'') ซึ่งวันนั้นเป็นการก่อการกำเริบของพลพรรคทั่วไป พร้อมกับความพยายามของกองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรในช่วงการรุกอิตาลีครั้งสุดท้ายของพวกเขา ได้จัดการขับไล่เยอรมันออกไปจากอิตาลีเกือบทั้งหมด เมื่อถึงจุดสิ้นสุด สาธารณรัฐสังคมอิตาลีได้ดำรงอยู่นานกว่าเก้าเดือนเศษ เมื่อวันที่ 27 เมษายน พลพรรคได้จับกุมมุสโสลินี อนุภรรยาของเขา(
คลาล่า แปตะชิ) รัฐมนตรีของสาธารณรัฐสังคมอิตาลีและฟาสซิสต์อิตาลีคนอื่นๆอีกหลายคน ในขณะที่พวกเขาได้พยายามหลบหนี เมื่อวันที่ 28 เมษายน พลพรรคได้ประหารชีวิตแก่มุสโสลินีและนักโทษคนอื่นๆจำนวนมาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
โรดอลโฟ กราซีอานี ได้ยอมจำนนในส่วนที่เหลืออยู่ของสาธารณรัฐสังคมอิตาลี หนึ่งวันก่อนที่กองทัพเยอรมันในอิตาลีจะยอมจำนน-นี้ถือว่าเป็นจุดสิ้นสุดของสาธารณรัฐสังคมอิตาลี