ประวัติ ของ สาวิตรี_สามิภักดิ์

ต่องมีพี่น้องทั้งหมด 6 คนเสียไปคนหนึ่ง จึงเป็นลูกคนที่สามของที่เหลือ 5 คน เธอมีศักดิ์เป็นหลานสาวของสมชาย สามิภักดิ์ สมัยเด็กที่บ้านยากจน พ่อทำงานอยู่บริษัทผลิตนมดูเม็กซ์ ตำแหน่งสุดท้ายคือเป็นหัวหน้าช่างเครื่อง ส่วนแม่เป็นแม่บ้าน ทำงานอยู่บ้านฝรั่ง เป็นเจ้านายจากบริษัทอีสต์ เอเชียติ๊ก ประเทศเดนมาร์ก โดยครอบครัวอยู่ที่บ้านเจ้านายฝรั่งนานอยู่หลายปี และย้ายออกเมื่อฝรั่งกลับประเทศ เมื่อเธออายุ 10 ปี จึงออกมาเช่าบ้านหลังละไม่กี่ร้อยอยู่ในสวนที่บางโคล่ แม่หันมาช่วยป้าขายของ

ด้านการเรียนที่โรงเรียนพระแม่มารีตั้งแต่ชั้นอนุบาล เป็นโรงเรียนคอนเวนต์ คือพ่อเป็นคาทอลิก ส่วนแม่เป็นพุทธ จบชั้นมัธยมต้นที่โรงเรียนพระแม่มารีแล้ว เธอสอบเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนบพิตรพิมุข จนไปสะดุดตาแมวมองเข้า และมาทาบทามให้เธอไปถ่ายแบบโฆษณา มีงานถ่ายโฆษณาตอนม.ศ. 5 จากนั้นเรียนปวส. วิทยาลัยจักรพงษ์ภูวนาถ[2] ช่วงปลายปีของการเรียน ปวส.ปี 1 ชีวิตของเธอก็มาจุดหักเหให้ต้องเข้าวงการบันเทิง ได้แสดงภาพยนตร์เรื่องแรกคือ ยอดดรุณี (2524) แสดงคู่กับไกรสร แสงอนันต์ ใช้ชื่อในวงการแสดงว่า สาวิตรี สามิภักดิ์ ผลของการไปแสดงหนัง ทำให้เธอเกือบต้องออกกลางคัน หลังจากเล่นหนังเรื่องสองเสร็จแล้ว เธอก็ไม่มีหนังให้เล่นอีก

หลังจากนั้นเธอก้าวสู่วงการโทรทัศน์ เล่นเป็นนางเอกละครโทรทัศน์เป็นละครมินิซีรีส์เรื่องแรกเรื่องกาแกมหงส์ ออกอากาศช่อง 7 และมีละครตอนบ่ายของทางช่อง 9 เรื่องสวัสดีคุณครู หลังจากเริ่มแสดงละครโทรทัศน์ คุณสุรางค์ เปรมปรีดิ์ ได้ติดต่อให้เธอไปเป็นพิธีกรรายการนาทีทองโฉมใหม่ ใช้ชื่อรายการว่า "นาทีทอง ประลองยุทธ" ทางช่อง 7 จากนั้นเป็นพิธีกรรายการอีกหลายรายการ แต่ที่สร้างชื่อคือเป็นพิธีกรรายการบ้านเลขที่ 5 ที่เธอทำมานานถึง 12 ปีเต็ม[3]