เมนูนำทาง
สำนักข่าวไทย เทคโนโลยีการผลิตรายการบมจ.อสมท มีนโยบายส่งเสริมให้สำนักข่าวไทย ใช้เทคโนโลยีเข้าส่งเสริมการผลิตรายการประเภทรายงานข่าว เพื่อเพิ่มความสวยงามและน่าสนใจ โดยมีเครื่องมือหลายชนิด ประกอบด้วย
เป็นเทคโนโลยี การนำเสนอข่าวในรูปแบบตัวอักษรบนหน้าจอทีวี เรียกว่า Teletext ในรายการ ข่าวสารอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะออกอากาศในช่วงบ่าย เวลา 13.00 - 15.00 น. ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2520 - 2538 รูปแบบการออกอากาศ จะแสดงหัวข้อข่าว และ เนื้อหาของข่าว ขึ้นหน้าจอทีวี พื้นหลังสีน้ำเงิน และ แถบสีแดงข้างล่าง แสดงข้อความรณรงค์ หรือ คำขวัญประจำรายการ
เป็นเทคโนโลยี การนำเสนอเนื้อหาข่าวอย่างสั้น ในรูปแบบอักษรวิ่ง โดยนับเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งแรกของไทย ที่นำเสนอในลักษณะดังกล่าว โดยตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2545 ข่าวที่อยู่ในแถบ จะแสดงต่อเนื่องกัน โดยแต่ละข่าวจะเว้นช่องว่างเป็นช่วงกว้าง ต่อมาเปลี่ยนเป็นใช้ตราสัญลักษณ์ สขท.คั่นระหว่างข่าว และเพิ่มตัวอักษร "สำนักข่าวไทย" บนแถบฝั่งซ้ายมือ โดยให้อักษรวิ่งหายเข้าไปในแถบดังกล่าว ครั้งหลังสุด เปลี่ยนรูปแบบเป็น แสดงครั้งละหนึ่งข่าว ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2552
ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2554 แถบอักษรข่าวจะแสดงครั้งละประโยคข่าวโดยไม่มีการเลื่อนไปทางซ้ายของจอ เช่นเดียวกับเนชั่นแชนแนล แต่การแสดงหัวข้อข่าว ใช้แบบ ซีเอ็นเอ็น คือข่าวหนึ่งจะเลื่อนขึ้นเป็นอีกข่าวหนึ่ง แต่ต่อมาข่าวในแถบตัวอักษรวิ่งเริ่มกลับมามีการเลื่อนไปทางซ้ายของจอ เนื่องจากหัวข้อข่าวบางชิ้นมีลักษณะยาว จึงต้องบีบอัดตัวอักษร ทำให้อ่านยากขึ้น
ในวันที่ 25 เมษายน 2555 แถบอักษรข่าวจะแสดงครั้งละประโยคข่าวโดยมีการเลื่อนจากด้านขวาอย่างรวดเร็ว และเลื่อนไปทางซ้ายอย่างช้า และเลื่อนไปทางซ้ายอย่างเร็ว โดยทางด้านซ้ายจะมีคำว่า "สำนักข่าวไทย" และ "Thai News Agency" โดยให้อักษรวิ่งหายเข้าไปในแถบดังกล่าว ซึ่งทั้ง 2 คำนี้จะมีการแสดงสลับกันในแต่ละหัวข้อข่าว ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นคำว่า "สำนักข่าวไทย อสมท" เพียงคำเดียว
ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2557 สถานีฯ ก็กลับไปใช้แถบวิ่งตามรูปแบบเมื่อปลายปี 2545 โดยจะมีตราสัญลักษณ์ สขท.คั่นระหว่างข่าว (ในก่อนหน้านั้นมีการเพิ่มตัวอักษร "สำนักข่าวไทย" บนแถบฝั่งซ้ายมือ โดยให้อักษรวิ่งหายเข้าไปในแถบดังกล่าว)
นอกจากในข่าวทุกช่วงแล้ว ยังมีการแสดงแถบอักษรข่าววิ่งในรายการอื่นๆที่มิใช่รายการข่าวอีกด้วย เช่นเดียวกับ ททบ.5 และ สทท. 11 แต่เปลี่ยนบริเวณที่เป็นคำว่า "สำนักข่าวไทย อสมท" เป็นสัญลักษณ์ของ คลื่นข่าว 100.5 แถบตัววิ่งข่าว 9 Speed เริ่มใช้ครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคม พ.ศ. 2556 เป็นการแสดงแถบตัววิ่งข่าวเมื่อเหตุการณ์ด่วนสำคัญที่ขึ้นบนหน้าจอของ ช่อง 9 เอ็มคอตเอชดี
เป็นเทคโนโลยี การนำเสนอข้อมูลการซื้อขายตลาดหลักทรัพย์ ในรูปแบบอักษรวิ่ง (ภายหลังพัฒนาเป็นการใช้อักษรเลื่อนขึ้นร่วมด้วย) โดยในปีพ.ศ. 2533 ไทยทีวีสีช่อง 9 อ.ส.ม.ท. นับเป็นสถานีโทรทัศน์ ที่เริ่มใช้แถบรายงานดังกล่าว เป็นครั้งแรกของประเทศไทย[ต้องการอ้างอิง] (ก่อนหน้านั้นคือสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 แต่เป็นรูปแบบตัวเลื่อนขึ้นบน)ต่อมา ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2547 โมเดิร์นไนน์ทีวี ปรับปรุงรูปแบบการนำเสนอข่าวเศรษฐกิจ โดยมีรายการเศรษฐกิจ ในช่วงเวลาประมาณ 08.30-16.30 น. พร้อมทั้งใช้กราฟิก ประกอบรายงานข่าวเศรษฐกิจ โดยใช้ชื่อว่า "สถานีหุ้น โมเดิร์นไนน์ทีวี" ซึ่งในสมัยนั้นมี 2 ชั้น
นับจากวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2556 แถบข้อมูลหุ้นได้ลดลงเหลือเพียงชั้นเดียว และเปลี่ยนสีเป็นสีม่วง ต่อมาก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินซึ่งเป็นสีเมื่อแรกใช้ในสมัยที่แถบวิ่งมี 2 ชั้น เมื่อวันที่ 21 มกราคมปีเดียวกัน
นับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2557 โมเดิร์นไนน์ทีวีได้เริ่มออกอากาศคู่ขนานผ่านระบบโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัลภาพคมชัดสูง ในนาม MCOT HD (ปัจจุบันเป็น ช่อง 9 MCOT HD 30) โดยระยะแรกอาจมีการปรากฏแถบข้อมูลหุ้นในบางครั้ง จนกระทั่งเมื่อรายการทั้งหมดพร้อมออกอากาศในระบบภาพคมชัดสูง ก็ไม่มีการปรากฏของแถบข้อมูลหุ้น ส่งผลให้ผู้ที่รับชมเอ็มคอตเอชดีผ่านโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล ช่อง 30 และผ่านดาวเทียมและโทรทัศน์เคเบิล Must Carry ช่อง 40 ในขณะนั้น ไม่สามารถรับชมแถบข้อมูลหุ้นได้พร้อมกับผู้ชมในระบบแอนะล็อก วีเอชเอฟ ช่อง 9 และผ่านดาวเทียมไทยคม 5 ระบบซี-แบนด์ ทำให้ต่อมาในช่วงประมาณเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2558 มีการปรับปรุงแถบข้อมูลหุ้นเพื่อให้ผู้ชมในระบบแอนะล็อกและดิจิทัลสามารถรับชมได้พร้อมกัน โดยเพิ่มแถบแยกประเภทหลักทรัพย์ในช่วงที่มีการแสดงข้อมูลหลักทรัพย์รายตัว(แถบสีเหลือง)โดยให้ตัววิ่งหายไปเมื่อวิ่งเข้าสู่แถบนี้แล้วจะเลื่อนขึ้นเมื่อเข้าสู่หมวดธุรกิจ (Sector) ถัดไป และปรับขนาดให้ยาวขึ้น รองรับอัตราส่วนภาพ 16:9
ช่วงปลายเดือน พฤษภาคม - มิถุนายน พ.ศ. 2560 มีการทดลองระบบแถบข้อมูลตลาดหุ้นแบบใหม่ล่าสุด ซึ่งพบว่าส่วนที่แสดงดัชนีที่เป็นอักษรเลื่อนขึ้น เกิดความไม่ต่อเนื่องกัน คือหลังจากแสดงดัชนีใหม่แล้ว มีการปล่อยแถบดัชนีว่างประมาณ 2 วินาที และขึ้นดัชนีใหม่ ส่งผลให้ต้องกลับไปใช้แถบข้อมูลตลาดหุ้นแบบเดิม (ในระหว่างปรับปรุงระบบแถบข้อมูลหุ้นแถบใหม่) หลังจากนั้นไม่นาน กลับมาใช้แถบข้อมูลนี้อีกครั้ง
ส่วนระยะเวลาการแสดงข้อมูลนั้น จะแสดงเฉพาะทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ซึ่งเป็นวันทำการตลาดหลักทรัพย์ฯ ยกเว้นวันหยุดทำการ เริ่มแสดงเวลา 10.00 น. จบการแสดงเวลา 16.50 น.
อนึ่ง เมื่อมีการไว้ทุกข์ถวายพระราชวงศ์ที่สิ้นพระชนม์ลงแล้ว โดยเฉพาะสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์เมื่อปี พ.ศ. 2551, สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกเมื่อปี พ.ศ. 2556 และล่าสุด พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พ.ศ. 2559 ก็จะเปลี่ยนสีเป็นสีเทาเพื่อแสดงความไว้อาลัยและก่อนช่วงปี พ.ศ. 2550 โมเดิร์นไนน์ทีวี ได้แสดงตัววิ่งรายงานข่าวเศรษฐกิจหรือข้อมูลการเงินต่างประเทศ ประกบแถบข้อมูลตลาดหุ้นอีกด้วย ซึ่งจะขึ้นต้นคำว่า "สำนักข่าวไทย-เศรษฐกิจ" เป็นหัวหลัก (โดยเฉพาะรายการสดเกี่ยวกับข่าวเศรษฐกิจ เช่น จับเงินชนทอง และรายการวิเคราะห์หุ้น เช่น สดจากห้องค้า , วิพากษ์หุ้น) ถ้ามีการถ่ายทอดสดหรือประกาศต่าง ๆ จากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ในช่วงที่มีการแสดงแถบข้อมูลหุ้น ทางสถานีจะทำการปิดการแสดงแถบข้อมูลหุ้นไว้ชั่วคราว และจะเปิดการแสดงแถบข้อมูลหุ้นอีกครั้งหลังจากการถ่ายทอดสดหรือประกาศนั้น ๆ จบลง
สำนักข่าวไทย ได้นำแถบข้อความทวิตเตอร์ ในลักษณะแถบยาว เช่นเดียวกับแถบอักษรข่าววิ่ง (แตกต่างจากเนชั่นทีวี ซึ่งจะปรากฏในลักษณะแถบขนาดใหญ่ ทีละข้อความจากผู้ติดต่อ และไม่มีการเลื่อนตัวอักษรไปทางแนวนอน) มาปรากฏบนหน้าจอโทรทัศน์ เฉพาะรายการคุยโขมงข่าวเช้า , คุยโขมงบ่าย 3 โมง, และคลุกวงข่าว(ปัจจุบันคือรายการคับข่าวครบประเด็น) โดยปรากฏครั้งแรกตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2555 ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี ซึ่งติดต่อได้ทาง Twitter ที่@tnamcot ชึ่งจะมีการเปิดโอกาสให้ผู้ติดต่อสามารถติดแท็ก(#:tags)พร้อมคำศัพท์ ตามที่รายการฯได้เสนอคำศัพท์ไว้ด้วย (ปัจจุบันยกเลิกการเผยแพร่แถบข้อความแบบนี้แล้ว)
เมนูนำทาง
สำนักข่าวไทย เทคโนโลยีการผลิตรายการใกล้เคียง
แหล่งที่มา
WikiPedia: สำนักข่าวไทย http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business... http://tnanews.mcot.net http://www.mcot.net http://www.mcot.net/EnglishNews http://www.mcot.net/News https://www.youtube.com/channel/UC3SaG2jCoWuI50eC4...