เนื้อหา ของ สุมังคลวิลาสินี

สุมังคลวิลาสินี มีเนื้อหาค่อนข้างยาว เนื่องจากเป็นการให้อรรถาธิบายแก่หมวดทีฆนิกาย แห่งพระพระสุตตันตปิฎก ซึ่งรวบรวมมพระสูตรที่มีขนาดยาวถึง 34 สูตร จุดประสงค์สำคัญของสุมังคลวิลาสินี คือให้ความกระจ่างเกี่ยวกับพระธรรมวินัย ด้วยการอธิบายรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ อาทิ การอธิบายว่า การฆ่าสัตว์นั้น มีโทษน้อยในสัตว์เล็ก มีโทษมากในสัตว์ใหญ่ เพราะมีความ พยายามมาก , ปาณาติบาตมี องค์ 5 มีประโยค 6 ตัวอย่างเช่นในอรรถกถาพรหมชาลสูตร ของทีฆนิกาย สีลขันธวรรค ซึ่งเกี่ยวข้องกับศีลเป็นหลัก ได้มีการอธิบายถึงการกล่าวผรุสวาท ว่าจะต้องประกอบด้วย 1. อกฺโกสิตพฺโพ ปโร คนอื่นที่ตนด่า 2. กุปิตจิตฺตํ จิตโกรธ 3. อกฺโกสนา การด่าจึงจะนับเป็นผรุสวาจา หรือการกล่าวถ้อยคำหยาบคาย อันเป็นส่วนหนึ่งของศีลข้อมุสาวาท ดังนี้ [3]

นอกเหนือจากการขยายความหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมถึงการอธิบายคำศัพท์ต่างๆ ที่ปรากฏในพระสูตรนานา ดังเช่นอรรกถาอื่นๆ แล้ว สุมังคลวิลาสินียังมีความโดดเด่นตรงที่เป็นคัมภีร์ที่บันทึกเรื่องราวเบื้องหลังอันเกี่ยวเนื่องกับพระสูตรนั้น รวมถึงประวัติศาสตร์แวดล้อมอัน วรรณคดีโบราณ ประเพณีของชาวอินเดียในยุคนั้นที่เกี่ยวเนื่องกับพระสูตรและคำสอนที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด

นอกเหนือจากการระบุถึงความพยายามของพระเทวทัตในการพยายามที่จะต่อรองกับสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่จะเป็นผู้นำคณะสงฆ์เสียเองแล้ว [4] นอกจากนี้ ยังมีการพรรณนาถึงรายละเอียดเกี่ยวกับปฐมสังคายนา โดยมีการระบุชัดว่า ในการสังคายนาครั้งนี้ มิได้มีเพียงแค่การรวบรวมพระธรรมวินัย ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงเทศนาสั่งสอนไว้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงพระอภิธรรมด้วย [5] สุมังคลวิลาสินี ยังพรรณนาและอธิบายถึงวงศ์กษัตริย์ต่างๆ ในสมัยพุทธกาล เช่น วงศ์มัลละ วงศ์ศากยะ วงศ์โกลิยะ วงศ์ลิจฉวี เป็นต้น นับเป็นผลงานที่มีคุณค่ายิ่งในการศึกษาประวัติศาตร์โบราณ [6]

ในส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับประวัติศาสตร์วรรณกรรม ตัวอย่างเช่นในอรรถกถาพรหมชาลสูตร ของทีฆนิกาย สีลขันธวรรค ยังมีการเอ่ยพาดพิงถึงเรื่องมหาภารตะ อันเป็นวรรณคดีเอกของอินเดียโบราณ อย่างไรก็ตาม เป็นการในทำนองที่ว่า เนื้อหาในมหากาพย์เรื่องนี้ เกี่ยวพันกับการรณยุทธิ์ มิควรที่เอ่ยถึง เพราะเป็นติรัจฉานกถา กล่าวคือ "เป็นถ้อยคำที่ขวางทางสวรรค์และทางนิพพาน เพราะไม่ใช่ธรรมที่เป็นเหตุให้ออกไปจากทุกข์" ดังปรากฏเนื้อความว่า "แม้ในเรื่องการรบ มีเรื่องภารตยุทธ์เป็นต้น ถ้อยคำที่เกี่ยวกับความพอใจในเรื่องทายว่า คนโน้นถูกคนโน้นฆ่าอย่างนี้ แทงอย่างนี้นั่นแหละ ชื่อว่าติรัจฉานกถา. แต่เรื่องที่พูดอย่างนี้ว่า แม้คนชื่อเหล่านั้นก็ถึงความสิ้นไป ดังนี้ ย่อมเป็นกรรมฐานทุกเรื่องทีเดียว" [7]

นอกจากนี้ ยังมีการอธิบายถึงสรรพวิทยาอันเกี่ยวเนื่องกับคำสอนต่างๆ อย่างน่าสนใจยิ่งเช่นการะบุว่า ครรภ์ ย่อมพินาศด้วยเหตุ 3 อย่าง คือ ลม เชื้อโรค กรรม (อรรกถาพรหมชาลสูตร) การให้ความรู้ว่า เมื่อเอาผ้าสะอาด คลุมตลอดศีรษะ ไออุ่นแต่ศีรษะย่อมแผ่ไปทั่วผ้าทั้งผืนทีเดียว (อรรถกถาสามัญญผลสูตร) มีการอธิบายความหมายของคำว่า ไตรเพท หรือไตรเวทย์ ของพราหมณ์ (อรรกถาอัมพัฏฐสูตร) เป็นต้น

นับว่า สุมังคลวิลาสินีเป็นขุมความรู้อันยิ่งใหญ่ มิเพียงขยายความคำสอนและประวัติศาสตร์ของพุทธศาสนาเท่านั้น แต่ยังบันทึกเรื่องราว ขนบธรรมเนียมประเพณีโบราณ ธรรมชาติวิทยา มานุษยวิทยา ชีววิทยา ภูมิศาสตร์ และสรรพศาสตร์อีกมากมาย เทียบได้กับสารานุกรมยุคโบราณเล่มหนึ่งเลยทีเดียว [8]