ประวัติ ของ สโมสรฟุตบอลบาเลนเซีย

สโมสรฟุตบอลบาเลนเซียก่อตั้งเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 1919 และได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการเมื่อ 18 มีนาคม ค.ศ. 1919 โดยมี Octavio Augusto Milego Díaz เป็นประธานของสโมสรคนแรก สโมสรที่เล่นเกมการแข่งขันอย่างเป็นทางการครั้งแรกออกไปเยือนเมื่อ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 1919 โดยนัดแรกชนะ คิมนัสตีโก ไป 1-0

บาเลนเซีย ย้ายเข้ามาอยู่ในสนามกีฬาเมสตายาในปี 1923 หลังจากเล่นแมตช์เหย้าสนามอัลคีโรสตั้งแต่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 1919 นัดแรกที่เมสตายา เจอกับกัสเตยอนกัสตาเลีย โดยผลเสมอไป 0-0 ในการแข่งขันวันหลังจากที่อื่นบาเลนเซียชนะฝ่ายค้านเดียวกัน 1-0 วาเลนเซียได้รับรางวัลชนะเลิศระดับภูมิภาคในปี 1923 และเป็นสิทธิ์ที่จะเล่นในประเทศ โกปาเดลเรย์ การแข่งขันถ้วยเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ยักษ์ใหญ่แห่งสโมสรฟุตบอลในสเปน

หลังสงครามกลางเมืองหยุดความคืบหน้าของทีมบาเลนเซียจนถึงปี 1941 ได้ควาแชมป์ โกปาเดลเรย์ ในฤดูกาล 1941-42, สโมสรได้รับรางวัลก่อนภาษาสเปนที่ชื่อลาลิกาชิงแชมป์แม้จะชนะ โกปาเดลเรย์ ได้มากขึ้นกว่าที่มีชื่อเสียงระดับแชมป์ในเวลานั้น และสโมสรยังคว้าแชมป์ ลาลิกา ติดต่อกัน 3 ครั้ง ในช่วงปี 1940 ในฤดูกาล 1941-42 , 1943-44 และ 1946-47 ในปี 1950, สโมสรล้มเหลวในการเลียนแบบความสำเร็จของปี 1940 แม้ว่าจะขยายตัวเป็นชมรม การปรับโครงสร้างของ เมสตายา ผลในการเพิ่มขีดความสามารถในการที่มีผู้ชมถึง 45,000 ในขณะที่สโมสรมีจำนวนนักฟุตบอลสเปนและต่างชาติมากขึ้น ผู้เล่นในระดับสเปนและระดับนานาชาติ อาทิเช่น อันโตนิโอ พูชาร์เดซ และนักฟุตบอลชาว เนเธอร์แลนด์ วิลเคส ฟาส เกียรติสนามที่ เมสตายา ในฤดูกาล 1952-53 สโมสรได้รองแชมป์ ลาลิกา และต่อมาในฤดูกาล 1953-54 สโมสรได้คว้าแชมป์ โกปาเดลเรย์ อีกครั้ง ด้วยการชนะ สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา ไป 3-0 ซึ่งเป็นยุคของ คาซินโต ควินคอเนซ โค้ชชาวสเปน ในการนำทีมบาเลนเซียคว้าแชมป์ โกปาเดลเรย์ 2 สมัย และ ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา 1 สมัย

ความสำเร็จกับถ้วยยุโรป

รูปแบบการเล่นของบาเลนเซียยังคงอยู่ในชุดเดิมที่คว้าแชมป์ โกปาเดลเรย์ 2 สมัย โดยในปี 1962 หรือในฤดูกาล 1961-62 บาเลนเซียได้คว้าแชมป์ อินเตอร์-ซิตีส์แฟส์คัป ซึ่งเป็นถ้วยระดับยุโรปแรกที่สโมสรคว้าแชมป์ได้ ด้วยการชนะ สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาสโมสรฟุตบอลจาก สเปน ไป 7-3 และคว้าแชมป์นี้ต่อกันอีกในฤดูกาล 1962-63 ด้วยการชนะ สโมสรฟุตบอลไดนาโม ซาเกรป จาก โครเอเชีย ไป 4-1

หลังจากนั้นนักฟุตบอลของยุโรปที่ได้รับรางวัลชนะเลิศแห่งปี อัลฟรีโด ดิ สตีฟาโน ถูกจ้างเป็นโค้ชในปี 1970 และเป็นแรงบันดาลใจทันทีสโมสรใหม่ของเขาเพื่อที่สี่ของพวกเขา ลาลิกาชิงแชมป์ บาเลนเซียที่มีความปลอดภัยนี้มีคุณสมบัติเป็นครั้งแรกในถ้วยยุโรปสำหรับประกวดโดยแชมป์ในประเทศต่างๆในยุโรป บาเลนเซียถึงรอบที่สามของการแข่งขัน 1971-72 ก่อนที่จะไปแพ้ สโมสฟุตบอลจาก ฮังการี ที่ผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดของยุค 1970 และในฤดูกาล 1978-79 บาเลนเซียคว้าแชมป์ โกปาเดลเรย์ เป็นสมัยที่ 5 ของสโมสร

การกลับมาของไอ้ค้างคาวพร้อมกับความสำเร็จครั้งใหม่ของสโมสร

และหลังจากยุคปี 2000 บาเลนเซียยังเป็นทีมระดับหัวแถวของฟุตบอลสเปน โดยได้มีคู่แข่ง 2 สโมสรคือ สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด และ สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา ที่ยังเป็นเจ้าของแชมป์ ลาลิกา และ ถ้วยยุโรปต่างๆ มากที่สุดในลีกประเทศสเปน แล้วในปี ค.ศ. 2001ทางสโมสรบาเลนเซียได้ ให้ ราฟาเอล เบนีเตซ ผู้จัดการทีมชาวสเปน ได้เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีม แทน เฮคเตอร์ คูเปอร์ เบนีเตซนำทีมสโมสรฟุตบอลบาเลนเซีย คว้าแชมป์ ลาลิกา ได้ในฤดูกาล 2001-02 ด้วยการมีและซื้อนักฟุตบอลตัวเก่งหลายคนอาทิ ปาโบล ไอมาร์, ซานติอาโก คานิซาเรส, จอห์น คาเรล, อาเมดีโอ คาโบนิ และต่อมาในฤดูกาล 2003-04 ราฟาเอล เบนีเตซนำทีมคว้าแชมป์ได้ถึง 2 สมัย คือ ลาลิกา และ ยูฟ่าคัพ โดยในฤดูกาลนี้เบนีเตซนำลูกทีมฝ่าฝันอุปสรรคต่างๆในการเจอทีมใหญ่ๆใน ยูฟ่าคัพ ทั้ง บอดิอูกซ์ , บียาเรอัล สโมสรเพื่อนบ้านของตน , นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และเข้าไปชิงกับ ออแล็งปิกเดอมาร์แซย์ สโมสรฟุตบอลชื่อดังของ ฝรั่งเศส โดยบาเลนเซียชนะไป 2-0 ซึ่งเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของสโมสร

ใกล้เคียง

สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี สโมสรฟุตบอลเชลซี สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิก สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล