ประวัติสโมสร ของ สโมสรฟุตบอลพัทยา_ยูไนเต็ด

สโมสรสุขาภิบาลตำบลบางพระ

ก่อตั้งโดยนายพันธ์ศักดิ์ เกตุวัตถา อดีตนักฟุตบอลซึ่งเป็นประธานกรรมการสุขาภิบาลตำบลบางพระในขณะนั้น ได้ส่งทีมฟุตบอลเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ง. ในนามทีมสโมสรสุขาภิบาลตำบลบางพระในปี พ.ศ. 2530 และได้แข่งขันจนสามารถเลื่อนขึ้นมาเล่นในระดับ ประเภท ค. และประเภท ข. ตามลำดับ และในปี พ.ศ. 2542 รัฐบาลมีนโยบายยกฐานะสุขาภิบาลทั่วประเทศให้เป็นเทศบาล ทีมสุขาภิบาลตำบลบางพระ จึงเปลี่ยนชื่อทีมเป็นทีมสโมสรฟุตบอลเทศบาลตำบลบางพระตามการยกระดับขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนับตั้งแต่นั้นมา

ปี พ.ศ. 2544 สโมสรฟุตบอลเทศบาลตำบลบางพระ คว้าแชมป์ถ้วยพระราชทาน ประเภท ข. ได้สำเร็จ พร้อมกับได้ก้าวขึ้นมาเล่นในลีกดิวิชั่น 1 ของเมืองไทย ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาทีมอย่างจริงจัง โดยมี วิทยา คุณปลื้ม อดีต ส.ส. ชลบุรี และสนธยา คุณปลื้ม อดีต รมต.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้ามาให้การสนับสนุนทีม โดยสโมสรได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ในช่วงที่พันธุ์ศักดิ์ เกตุวัตถาได้รับเลือกตั้งให้เป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางพระ เพราะนอกจากจะสามารถจัดสรรงบประมาณในการพัฒนากีฬาได้แล้ว นักฟุตบอลของทีมยังมีความมั่นคงด้านการสร้างฐานะ เนื่องจากนักฟุตบอลบางส่วนจะได้รับการบรรจุให้เป็นเจ้าหน้าที่ของเทศบาลจึงเป็นเครื่องการันตีได้ว่าเมื่อเลิกเล่นฟุตบอลแล้วยังมีงานราชการรองรับ ต่อมาเครื่องดื่มโค้กได้เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักจึงมีการเปลี่ยนชื่อเป็น สโมสรฟุตบอลโค้ก-เทศบาลตำบลบางพระ เพื่อลงเล่นในดิวิชั่น 1 และประสบความสำเร็จเมื่อฤดูกาล 2550 ทีมจบฤดูกาลด้วยตำแหน่งรองแชมป์ของสาย A และได้อันดับ 3 ในรอบสุดท้าย จึงได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลต่อมา

ฤดูกาล 2551 สโมสรฟุตบอลโค้ก-เทศบาลตำบลบางพระ ได้เล่นในลีกสูงสุดเป็นฤดูกาลแรก และจบฤดูกาลด้วยอันดับ 11 อย่างเหนือความคาดหมาย

พัทยา ยูไนเต็ด

ฤดูกาล 2552 สโมสรได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น สโมสรพัทยา ยูไนเต็ด และจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามข้อกำหนดของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย พร้อมทั้งเปลี่ยนสนามเหย้าของทีมจากสนามโค้ก - จำลอง เสมอวงษ์ เป็นสนามเทศบาลหนองปรือ แต่กลับมีผลงานในลีกช่วงครึ่งฤดูกาลแรกไม่ค่อยดีนัก โดยลงแข่ง 14 นัด ชนะเพียง 2 นัด และแพ้ไปถึง 6 นัด เก็บได้เพียง 12 คะแนน ทำให้ พันธ์ศักดิ์ เกตุวัตถา ผู้จัดการทีมที่ควบตำแหน่งกุนซือมาหลายปี จึงประกาศลาออกจากการเป็นผู้ฝึกสอนและทำหน้าที่ผู้จัดการอย่างเดียว และได้วิสูตร วิชายา อดีตกุนซือทีมธนาคารกรุงเทพมาเป็นผู้ฝึกสอนคนใหม่ แต่คุมทีมได้เพียง 1 นัด โดยเป็นการออกไปเสมอกับทีมจุฬาฯ ยูไนเต็ด 1-1 โดยต่อมาสโมสรได้ทำการแต่งตั้งจเด็จ มีลาภ อดีตกุนซือผู้พาทีม ชลบุรี คว้าแชมป์ลีกในฤดูกาล 2550 มาทำหน้าที่แทน

ปี พ.ศ. 2558 กลุ่มบริษัทอีนิกมา สปอร์ต เวนเจอส์ (ESV) ได้เข้ามาดูแลกิจการสโมสร โดยมีนายพรรณธฤต เนื่องจำนงค์ เข้ามาเป็นประธานบริหารสโมสรคนใหม่ พร้อมทั้งแต่งตั้งฌอน ลุค เซนต์บิวรี กุนซือชาวอังกฤษมาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีม ทำศึกยามาฮ่าลีกวัน 2558 ต่อมาได้เปลี่ยนกุนซือเป็น ลิม จอง เฮือน ชาวเกาหลีใต้ ในเวลาต่อมา และประสบความสำเร็จ ด้วยตำแหน่งรองแชมป์ จึงได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในไทยพรีเมียร์ลีก ปี 2559

ต่อมาเนื่องจากมีปัญหาเรื่องสิทธิในการทำทีมกับทางเจ้าของสิทธิ์อย่าง ชลบุรี ทำให้นายพรรณธฤต เนื่องจำนงค์ ยุติบทบาทในการทำทีม และได้ทำการก่อตั้ง อินเตอร์ พัทยา ขึ้นมาเพื่อลงแข่งขันในลีกภูมิภาคต่อไป

ปี พ.ศ. 2559 เนื่องจากมีปัญหาในการทำทีมเจ้าของสิทธิ์อย่าง ชลบุรีเอฟซี จึงทำการประกาศขายทีมเป็นมูลค่า 60 ล้านบาท โดยมีกลุ่มทุนจากจังหวัดอุดรธานีให้ความสนใจแต่การเจรจาไม่เป็นผลจึงได้ล้มเลิกไปทำให้กลุ่มทุนจากอุดรธานีได้เข้าไปเทคโอเวอร์สโมสร บีอีซี เทโรศาสน แทนในขณะที่สโมสรพัทยา ยูไนเต็ดได้กลุ่มทุนจากสนามกอล์ฟเกียรติธานีเข้ามาเทคโอเวอร์

การเปลี่ยนชื่อและย้ายที่ตั้งไปยังสมุทรปราการ

พ.ศ. 2561 สโมสรได้ทำการเปลี่ยนชื่อเป็นสโมสรฟุตบอลสมุทรปราการ ซิตี้และย้ายสนามเหย้าไปที่สนามกีฬาการกีฬาแห่งประเทศไทย บางพลี[1][2][3]

ใกล้เคียง

สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี สโมสรฟุตบอลเชลซี สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิก สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล