ประวัติ ของ สโมสรฟุตบอลศรีราชา

ชลบุรี-สันนิบาตฯ สมุทรปราการ และ ก่อตั้งสโมสร

ไฟล์:Chonburi Sannibat Samutprakarn 1997.jpgสโมสรชลบุรี สันนิบาต สมุทรปราการ ดิวิชั่น 1 2540

สโมสรฟุตบอลศรีราชา แต่เดิมเป็นสโมสรฟุตบอลของ สมาคมสันนิบาตสงเคราะห์ จังหวัดสมุทรปราการ และ ได้เข้าร่วมแข่งขัน ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ต่อมาเมื่อทาง สมาคมฯ ได้เข้ามาฝึกซ้อมในจังหวัดชลบุรี ทางฝั่งกลุ่มชลบุรี ก็ได้มีการเจรจา เพื่อขอเข้าร่วมการแข่งขัน โดยได้รับความร่วมมือ ด้านนักฟุตบอล จาก สโมสรสิงห์เทโรศาสน โดยเปรียบเสมือนเป็น "ทีมสำรอง" ของสโมสร[1] และใช้สิทธิ์การบริหารสโมสร สโมสรสันนิบาตฯ สมุทรปราการ โดยใช้ชื่อ สโมสรฟุตบอลชลบุรี–สันนิบาตฯ สมุทรปราการ และได้เข้าแข่งขันใน ดิวิชัน 1[2]

ต่อมาเมื่อทาง สมาคมกีฬาจังหวัดชลบุรี ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขัน โปรวินเชียลลีก ทางผู้บริหารจึงทำการได้แยกสโมสรฟุตบอลชลบุรี-สันนิบาตฯ สมุทรปราการ ออกจากกัน ซึ่งในขณะนั้นลงเล่นในดิวิชั่น 1 อยู่ โดยชลบุรีนั้นได้นำผู้เล่นจากโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา และ โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ชลบุรี แทน แต่ก็ยังมาดูแลสโมสรอยู่ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2550 ฉัตรชัย ทิมกระจ่าง นายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา (ในขณะนั้น) ได้รับช่วงการบริหารสโมสรชลบุรี-สันนิบาต สมุทรปราการ และทำการเปลื่ยนชื่อเป็น สโมสรฟุตบอลศรีราชา-สันนิบาตฯ เพื่อลงทำการแข่งขัน ดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2550 โดยได้รับเกียรติจาก สนธยา คุณปลื้ม, วิทยา คุณปลื้ม และ ชาญวิทย์ ผลชีวิน รับเป็นที่ปรึกษาของสโมสรฯ และมี ทรงยศ กลิ่นศรีสุข เป็นผู้ฝึกสอน และใช้ สนามกีฬาสิรินธร ภายใน โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา เป็นสนามเหย้าของทีม โดยนักฟุตบอลในทีมส่วนใหญ่มาจาก โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา, โรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย ชลบุรี และ โรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี โดยในปีแรก สโมสรฯ ทำผลงานจบที่อันดับ 6 [3]

ดิวิชั่น 1 2551 และเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก

ปี พ.ศ. 2551 สโมสรฯ ลงทำการแข่งขันใน ดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2551 โดยมีการเพิ่มเติมฝ่ายบริหาร เช่น วีระศักดิ์ หวังกุศล ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีม และได้ ครองพล ดาวเรือง เป็นผู้ฝึกสอนของทีม และพาสโมสรจบการแข่งขันด้วยตำแหน่งรองชนะเลิศ ได้สิทธิ์เลื่อนชั้นไปเล่นใน ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2552ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 สโมสรเปลื่ยนชื่อในนาม สโมสรฟุตบอลศรีราชา โดยนักฟุตบอลส่วนใหญ่ยังเป็นชุดที่คว้ารองแชมป์ ดิวิชั่น 1 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยมีนักฟุตบอลอย่าง อรรถพงษ์ หนูพรหม, สุภภรณ์ พรหมพินิจ, อำไพ มุธาพร, พรศักดิ์ ป้องทอง, สุจริต จันทกล, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, สุพจน์ วงษ์หอย, ซารูตะ ฮิโนริ, กัสตัน ราอูล กอนซาเลส เป็นต้น แต่ผลงานของสโมสรกลับไม่ดีอย่างที่คิดโดยสโมสรจบอันดับที่ 14 มีคะแนนรวมแค่ 30 คะแนน จากการชนะเพียง 8 แต่แพ้ถึง 16 ต้องตกชั้นไปเล่น ดิวิชั่น 1

ขึ้นๆลงๆ ระหว่างลีกสูงสุด

ปี พ.ศ. 2553 สโมสรฯ ต้องลงไปเล่นใน ดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2553 โดยหมายมั่นปั้นมือที่จะกลับไปเล่นใน ไทยลีก ในปีเดียว โดยสโมสรก็ยังใช้ผู้เล่นเดิมทั้งสิ้น และ สโมสรฯ คว้าตำแหน่งชนะเลิศการแข่งขัน ในฤดูกาลนั้น โดยทำคะแนน ทิ้งห่างรองชนะเลิศในปีนั้น อย่าง ขอนแก่น เอฟซี ถึงแปดคะแนน กลับมาเล่นลีกสูงสุดอีกครั้งใน ฤดูกาล 2554 สโมสรฯ ก็ยังใช้ตัวผู้เล่นชุดเดิม แต่ขณะเดียวกัน ก็ได้นักฟุตบอลดาวรุ่งจาก ชลบุรี เอฟซี หลายราย เช่น อนุวัฒน์ นาคเกษม, ชนินทร์ แซ่เอียะ เป็นต้น แต่สโมสรฯ ก็ไม่วายต้องตกชั้นสู่ ลีกรองอีกรอบ ด้วยการจบอันดับที่ 17

ประสบปัญหาและ ศรีราชา-บ้านบึง

หลังจากการตกชั้นสู่ลีกรอง ถึงสองครั้งซ้อน ในรอบ 3 ปี สโมสรฯ ก็เริ่มเกิดปัญหาทางการเงิน โดยต้องขายตัวหลักในทีมอย่าง สุจริต จันทกล และ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ให้กับ ชลบุรี เอฟซี แต่สโมสรฯก็ได้พยายามทำผลงานให้ดีที่สุด แต่ใน ฤดูกาล 2556 สโมสรจบอันดับที่ 15 รอดตกชั้นแค่คะแนนเดียว (สโมสรฯทำผลงานโดยเก็บได้แค่ 37 คะแนน มีคะแนนเหนือ ระยอง เอฟซี ที่มี 36 คะแนน)ต่อมา ได้มีการรวมนักฟุตบอล และ เจ้าหน้าที่ของทีม รวมกับ พัทยา ยูไนเต็ด โดยได้มีการเปลื่ยนแปลงยกสโมสร โดยให้ทีมเยาวชนของ ชลบุรี เอฟซี มาเป็นผู้เล่นแกนหลัก โดยกลุ่มบริหารของชลบุรี บริหารเองทั้งหมด โดยมี ธนะศักดิ์ สุระประเสริฐ เป็นประธานสโมสร ให้ วิทยา เลาหกุล เป็นผู้จัดการทีม โดยมี นฤพล แก่นสน เป็นผู้ฝึกสอน โดยผู้เล่นที่รู้จักในทีมชุดนี้ประกอบด้วย วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ, เหมันต์ กิติอำไพพฤกษ์ เป็นต้น[4] แต่ผลงานของทีม กลับแย่จนตกชั้นไปเล่นในระดับ ลีกภูมิภาค ดิวิชัน 2 ด้วยการจบอันดับที่ 18 มีแค่ 3 คะแนน จากการเสมอ โดยที่ไม่ชนะทีมใดเลย

ขายสิทธิ์ให้ทวีวัฒนา เอฟซี

ในปี พ.ศ. 2558 สโมสรฟุตบอลศรีราชา ในลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ได้โอนสิทธิในการลงแข่งขันในระดับดิวิชั่น 2 (กลุ่มภาคกลางตะวันออก) ให้กับสโมสรฟุตบอลทวีวัฒนา จากฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ค. ลงแข่งขันแทน สโมสรฟุตบอลทวีวัฒนาจึงได้ก้าวเข้ามาสู่การแข่งขันในระบบลีกอาชีพอย่างรวดเร็ว จากการรับโอนสิทธิในการแข่งขันจากสโมสรฟุตบอลศรีราชา ฤดูกาล 2558 ในการแข่งขันลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ซึ่งเป็นฤดูกาลแรกของสโมสรบนลีกอาชีพ ได้ใช้ชื่อในการแข่งขันว่า ทวีวัฒนา-ศรีราชา เอฟซี เป็นการปิดฉากสโมสรอย่างเป็นทางการ

ใกล้เคียง

สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี สโมสรฟุตบอลเชลซี สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิก สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล