ฤดูกาล 2015–16 เป็นฤดูกาลที่ 23 ของสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลใน
พรีเมียร์ลีก และเป็นฤดูกาลที่ 96 ติดต่อกันบนลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ สโมสรได้เข้าร่วมฤดูกาลในฐานะ
แชมป์เก่าเอฟเอคัพ,
[1] และได้เข้าร่วมใน
พรีเมียร์ลีก,
เอฟเอคัพ,
ลีกคัพ,
คอมมิวนิตีชีลด์ และ
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก[2] ฤดูกาลเริ่มครอบคลุมระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2015 ถึง 30 มิถุนายน ค.ศ. 2016โดยชุดแข่งขันของอาร์เซนอลได้รับการจัดอันดับว่า เป็นชุดแข่งขันที่สวยที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้อีกด้วย
[3]โดยรวมฤดูกาลนี้ ผลการแข่งขันของอาร์เซนอลถือว่าเป็นอีกฤดูกาลหนึ่งที่ไม่ประสบความสำเร็จ แม้ว่าจะได้อันดับสองหรือรองแชมป์พรีเมียร์ลีก ซึ่งนับว่าเป็นอันดับที่สูงที่สุดในรอบ 11 ปี เลยก็ตาม แต่ก็ต้องรอจนถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาล เนื่องจาก
ทอตนัมฮอตสเปอร์ ทีมที่อยู่ในอันดับที่สองและเป็นคู่ปรับตลอดกาลของอาร์เซนอลแพ้ต่อ
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ที่ตกชั้นไปแล้วก่อนหน้านั้นที่สนามเซนต์เจมส์พาร์ก 5-1 จึงพลิกมาแซงในช่วงสุดท้ายพอดี ในส่วนของเอฟเอคัพที่เป็นแชมป์มาถึง 2 ปี ติดกันก่อนหน้านั้น ก็ตกรอบ 6 ทีมสุดท้าย ด้วยการแพ้ต่อ
วอตฟอร์ด ไป 1-2 ที่สนามเอมิเรตส์สเตเดียมอย่างไม่มีใครคาดคิด
[4] โดยในพรีเมียร์ลีก อาร์เซนอลได้รับการกล่าวขานว่ามีศักยภาพใกล้เคียงกับการเป็นแชมป์มากที่สุดในรอบหลายปี แต่ท้ายสุดก็ทำได้เพียงแค่รองแชมป์เท่านั้น โดยมีคะแนนห่างจาก
เลสเตอร์ซิตี ที่เป็นแชมป์ 10 คะแนน แม้ถึงว่าจะสามารถเอาชนะเลสเตอร์ซิตีได้ถึง 2 ครั้งในฤดูกาลนี้ก็ตาม
[5]โดยอาร์เซนอลซื้อผู้เล่นใหม่เข้ามาเพียง 2 คนเท่านั้น คือ
เปเตอร์ เช็ค ในตำแหน่งผู้รักษาประตู ในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล และ
โมฮาเหม็ด เอลเนนี ในตำแหน่งกองกลาง ในช่วงต้นปี ค.ศ. 2016 และด้วยความที่ห่างจากแชมป์พรีเมียร์ลีกมานานแล้ว ทำให้ในช่วงปลายฤดูกาล มีผู้สนับสนุนสโมสรบางส่วนได้นัดหมายกันขับไล่
อาร์แซน แวงแกร์ ผู้จัดการทีมออกจากตำแหน่งและรวมไปถึง
สแตน โครเอนเก นักธุรกิจผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของสโมสรอีกด้วย
[6]และฤดูกาลนี้ยังเป็นฤดูกาลสุดท้ายที่ 3 ผู้เล่นคนสำคัญของสโมสรได้ลงเล่นเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะอำลาการเป็นนักฟุตบอลอาชีพไปเนื่องจากอายุที่มาก กอรปกับเผชิญกับปัญหาการบาดเจ็บรบกวนอยู่เป็นระยะ ทำให้ไม่ได้ลงเล่นสม่ำเสมอ คือ
มีเกล อาร์เตตา,
โตมาช โรซิตสกี และ
มาตีเยอ ฟลามีนี [7]