ประวัติ ของ สไปซ์เกิลส์

เดือนมีนาคม 1993 ได้มีการประกาศออดิชั่นโดยมีเด็กสาวร่วมร้อยคนเข้ามาสมัคร ผู้ที่ผ่านการออดิชั่นในรอบแรกมีอยู่ด้วยกัน 4 คนก็คือ เมลานี คิสชอล์ม, มิเชลล์ สตีเฟนสัน (เข้ามาแทนโดยเอ็มม่า บันทัน), เมลานี บราวน์ และ วิกตอเรีย เบคแฮม (นามสกุลเดิม อดัมส์) ต่อมาได้มีการออดิชั่นอีกรอบ โดยจากเด็กสาวทั้ง 12 คนมีผู้ที่ผ่านการออดิชั่นในรอบนี้เพียงคนเดียวคือ เจรี ฮัลลิเวลล์ และนั่นก็ทำให้วงมีสมาชิกด้วยกันทั้งหมด 5 คนนั้นเองโดยเริ่มแรกได้ตั้งเป็นวงหญิงล้วนที่ชื่อ "Touch" และได้เริ่มมีการบันทึกเสียงต่อมา มิเชลล์ สตีเฟนสันได้ออกจากวง และเอ็มม่า บันทันเข้ามาแทน พร้อมกับทั้งได้ทำการเปลี่ยนชื่อวงว่า "Spice" หลังจากที่เอ็มม่าได้ฝึกฝนจากสมาชิกที่เหลือ จากจุดนี้ถึงเดือน มีนาคม 1994 สมาชิกทั้ง 5 คนได้อยู่ด้วยกันในบ้านหลังเล็กๆในเมือง Maidenhead ที่พวกเขาทำงานในชุดเดโม่รวมถึงการฝึกซ้อมเต้น หลังจากประสบความสำเร็จในการแสดงโชว์ในเซสชั่นจากนักวิจารณ์เพลงและโปรดิวเซอร์ พวกเธอทั้ง 5 ตัดสินใจไล่ผู้จัดการออก และได้ติดต่อ Eliot Kennedy มาทำหน้าที่แทน

ตุลาคม 1994 ทางวงได้ถูกแนะนำให้กับโปรดิวเซอร์เพลงอย่าง Simon Fuller ก็ได้เซ็นสัญญากันกับเวอร์จินเรเคิดส์ในเดือนกันยายน 1995 พร้อมกับเปลี่ยนชื่อวงเป็น "Spice Girls" เพราะเนื่องจากชื่อ "Spice" มีศิลปินคนอื่นใช้ชื่อนี้ไปก่อนหน้านี้แล้ว และ สไปซ์ เกิลส์ก็ได้ทำการเขียนเพลงสำหรับอัลบั้มเปิดตัว

จากมิวสิกวิดีโอเพลง Wannabe

8 กรกฎาคม ค.ศ. 1996 สไปซ์ เกิร์ลส์ได้ออกซิงเกิลแรกในสหราชอาณาจักรเพลง "Wannabe" (กำกับมิวสิกวิดีโอโดย โจฮัน คามิทซ์ และถ่ายทำที่ Pancras Chambers ใน London) โดยเข้าชาร์ทในสัปดาห์แรกที่อันดับ 3 ก่อนที่จะขึ้นสู่อันดับ 1 เป็นเวลา 7 สัปดาห์ และเพลงนี้ก็ขึ้นอันดับ 1 ใน 31 ประเทศ ไม่เพียงสร้างสถิติซิงเกิลจากวงหญิงล้วนที่ขายดีที่สุด แต่ยังเป็นซิงเกิลเปิดตัวที่มียอดขายมากที่สุดตลอดการสไปซ์เกิลส์ยังสามารถบุกตลาดอเมริกา โดยเข้าชาร์ทสัปดาห์แรกที่อันดับ 11 ซึ่ง ณ ตอนนั้นถือเป็นกลุ่มจากอังกฤษที่เข้าชาร์ทในสัปดาห์แรกได้สูงที่สุด ทำลายสถิติเพลง "I Want to Hold Your Hand" ของเดอะ บีทเทิลส์ที่เข้าชาร์ทอันดับ 12 และ Wannabe ก็สามารถขึ้นอันดับ 1 ในอเมริกาในเวลาต่อมาเป็นเวลา 4 สัปดาห์

พฤศจิกายน 1996 ได้ออกอัลบั้มแรก โดยมียอดขาย 1.8 ล้านเฉพาะในสหราชอาณาจักร ใน 7 สัปดาห์แรกของการวางขาย และมียอดขายรวม 3 ล้านชุดในสหราชอาณาจักร ขึ้นชาร์ทสูงสุดที่อันดับ 1 ติดต่อกันนาน 16 สัปดาห์ และ ถือว่าเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดในปี 1997 เช่นเดียวกับในอเมริกาที่มียอดขายอัลบั้มมากที่สุดในปี 1997 สูงสุดที่อันดับ 1 และ ขายได้มากกว่า 7 ล้านชุดในอเมริกา

ซิงเกิลต่อมา "Say You'll Be There" ในเดือนตุลาคม และ"2 Become 1" ในเดือนธันวาคม ก็ตอกย้ำชื่อเสียงของวงด้วยการขึ้นอันดับ 1 ทั่วโลก 53 ประเทศส่วนเพลงสุดท้ายจากอัลบั้ม 'Spice' เป็น double A-side ซิงเกิล "Mama"/"Who Do You Think You Are" ก็สามารถขึ้นอันดับ 1 ในอังกฤษเช่นกัน

พฤศจิกายน 1997 สไปซ์เกิลส์ ออกอัลบั้มที่ 2 "Spiceworld" กับซิงเกิลแรก "Spice Up Your Life" สร้างสถิติใหม่ด้วยการมียอดขายเร็วที่สุดใน 2 สัปดาห์แรกสามารถมียอดชิปป์ถึง 7 ล้านชุด ยอดขายในยุโรปรวมถึง แคนาดาและ อเมริกาขายได้ 10 ล้านชุด ซิงเกิลต่อมาคือ "Too Much", "Stop" และ "Viva Forever" เพลง "Stop" ซิงเกิลนี้หยุดที่อันดับ 2 เป็นเพลงแรก

มิถุนายน 1997 พวกเธอได้ถ่ายภาพยนตร์เรื่องแรกเรื่อง Spiceworld: The Movie ในภาพยนตร์เรื่องนี้รวมดาราดังอย่าง โรเจอร์ มัวร์ ,เอลตัน จอห์น,เจนนิเฟอร์ ซอนเดอร์ส,ริชาร์ด อี แกรนด์,ไมเคิล แบรรีมัวร์ และ มีท โลฟ และได้เข้าสู่โรงเดือนธันวาคม 1997 ด้วยรายได้ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐในตารางบ็อกซ์ออฟฟิส และ 70 ล้านเหรียญทั่วโลก

7 พฤศจิกายน 1997 พวกเธอได้ไล่ผู้จัดการออก คือ Simon Fuller ด้วยเหตุผลที่ว่ามีข้อบังคับและควบคุมพวกเธอจากเสรีภาพมากเกินไปต้นปี 1998 พวกเธอเริ่มทัวร์รอบโลกทั้งในยุโรปและอเมริกาเหนือ

31 พฤษภาคม 1998 เจรี ฮัลลิเวลล์ประกาศที่จะแยกออกจากวง ด้วยเหตุผลที่เธอบอกว่าเธอดูแตกต่างจากพวกเธอ ถือเป็นข่าวช็อคสำหรับแฟนเพลงเพลง "Viva Forever" ซิงเกิลสุดท้ายจากอัลบั้ม Spiceworld ซึ่งวิดีโอเพลงนี้ได้ทำก่อนการออกไปของเจรี แต่อย่างไรก็ดีเพลงนี้ก็ไม่ได้ตัดเสียงเจรี และภาพเจรีในแอนิเมชันมิวสิกวิดีโอชิ้นนี้ขณะที่พวกเธอทัวร์อยู่ในอเมริกา สไปซ์เกิลส์ได้บันทึกเสียงเพลงใหม่ "Goodbye" สำหรับคริสต์มาสปี 1998 เพลงนี้ไม่ได้กล่าวถึงการจากไปหรืออุทิศให้เจรีแต่อย่างไร เพลงนี้ขึ้นอันดับ 1 ในช่วงคริสต์มาสในอังกฤษเป็นปีที่ 3 ของวงสไปซ์เกิลส์ ในแคนาดาเพลงนี้ขึ้นอันดับ 1 นาน 16 สัปดาห์

พฤศจิกายน 2000 สไปซ์เกิลส์ ได้ออกอัลบั้มสุดท้าย "Forever" ที่มีสไตล์อาร์แอนด์บีเพิ่มมากขึ้น ในอเมริกาขึ้นชาร์ทสูงสุดอันดับ 39 ส่วนในอังกฤษได้ออกวางขายพร้อมกับอัลบัม Coast To Coast ของเวสท์ไลฟ์ทำให้หยุดอยู่ที่อันดับ 2 ส่วนซิงเกิลแรก "Holler" / "Let Love Lead The Way" ประสบความสำเร็จขึ้นอันดับ 1 เป็นเพลงที่ 9 ของพวกเธอ

สไปซ์เกิลส์ ในพิธีปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิมฤดูร้อน 2012

มิถุนายน 2007 สไปซ์เกิลส์ออกมาประกาศการรวมหัวของ 5 สาวอีกครั้ง เพื่อการทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกจำนวน 11 รอบเพื่อสนับสนุนอัลบัมรวมฮิตชุดแรกของวงที่จะออกมาในช่วงปลายปี โดยคอนเสิร์ตที่จะถึงนี้จะเป็นการโชว์ครั้งแรกของ สไปซ์เกิลส์ หลังจากที่ประกาศยุบวงไปเมื่อปี 2000 และเป็นครั้งแรกที่กลับมาโชว์กับแบบครบวง หลังจากที่ เจอรี "จินเจอร์ สไปร์ซ" ฮัลลิเวลล์ ขอออกจากวงไปเป็นศิลปินเดี่ยวเมื่อปี 1998[2] โดยออกอัลบั้มรวมฮิตที่มีเพลงซิงเกิลใหม่Headlines (Friendship Never Ends) ที่มอบให้เป็นเพลงประจำงาน 2007 Children In Need ซึ่งเป็นงานการกุศลของสถานีบีบีซีที่จัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือมูลนิธิเด็กในสหราชอาณาจักร พวกเธอจะบริจาคกำไรทั้งหมดจากเพลง Headlines (Friendship Never Ends) ให้แก่งานการกุศลครั้งนี้[1]

วันที่ 31 สิงหาคม 2012 สไปซ์เกิลส์กลับมารวมตัวกันอีกครั้งในรอบ 10 ปี เพื่อแสดงคอนเสิร์ตในพิธีปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 สไปซ์เกิลส์ แสดงเมดเลย์ 2 เพลง ได้แก่ "Wannabe" และ "Spice Up Your Life"[3] ซึ่งการแสดงของพวกเธอทำให้คนทั่วโลกกล่าวถึง มีการทวีตข้อความในทวิตเตอร์มากกว่า 116,000 ข้อความต่อนาที ในช่วงเวลาที่พวกเธอกำลังทำการแสดง อีกทั้งยังได้รับความนิยมในเว็บไซต์ยูทูบอีกด้วย[4]

ในปี 2016 Spice Girls ได้รวมตัวกันใหม่อีกครั้งเพื่อฉลองที่วงครบรอบ 20 ปี แต่มีสมาชิกที่ตอบรับกลับมารวมตัวใหม่อีกครั้งมีเพียงแค่ 3 คนเท่านั้นคือ เอ็มม่า บันทัน,เมล บี และ เจรี ฮัลลิเวลล์ เท่านั้นในขณะที่เมลานี ซี และ วิกตอเรีย เบคแฮม ไม่สามารถมารวมกลุ่มกันได้เนื่องติดงานส่วนตัวของตัวเองอยู่

สไปซ์ เกิลส์ขณะแสดงคอนเสิร์ตในปีค.ศ. 2019

ปี 2019 ได้มีการรวมกลุ่มสมาชิกอีกครั้งเพื่อจัด Spice World – 2019 Tour ประกอบด้วย เอ็มม่า บันทัน, เมล บี, เมลานี ซี และเจรี ฮัลลิเวลล์ ซึ่ง วิกตอเรีย เบคแฮม ไม่ได้เข้าร่วมทัวร์คอนเสิร์ตในครั้งนี้โดยให้เหตุผลว่าต้องดูแลครอบครัวและธุรกิจส่วนตัว แต่ก็มีการสนับสนุนเพื่อนสมาชิก เช่น การโพสต์ในอินสตาแกรมส่วนตัวสนับสนุนเพื่อร่วมวง

แหล่งที่มา

WikiPedia: สไปซ์เกิลส์ http://www.hlntv.com/article/2012/08/13/olympics-t... http://msninconcert.msn.com/music/SpiceGirls/th-th... http://thespicegirls.com/ http://thespicegirls.com http://www.virginrecords.com/spicegirls/ http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.as... http://www.matichon.co.th/youth/youth.php?tagsub=0... http://www.dailymail.co.uk/tvshowbiz/article-21763... https://www.facebook.com/spicegirls/ https://www.youtube.com/user/SpiceGirlsVEVO