สไปโนซอรัส
สไปโนซอรัส

สไปโนซอรัส

สไปโนซอรัส (อังกฤษ: Spinosaurus) มีความหมายว่าสัตว์เลื้อยคลานมีกระโดง ถูกค้นพบครั้งแรกในทะเลทรายซาฮาร่าของอียิปต์ เมื่อปี ค.ศ. 1910 โดยนักบรรพชีวินวิทยาชาวบาวาเรีย นาม เอิร์ล สโตรเมอร์ โดยขุดค้นไปตามชายขอบด้านตะวันออกของระบบแม่น้ำโบราณซึ่งมีหินในชั้นแคมเบรียนก่อตัวเป็นพรมแดนด้านตะวันตกสไปโนซอรัสเป็นสัตว์กินเนื้อที่เดิน 2 ขาเป็นหลัก ส่วนอาหารนั้นส่วนมากจะเป็นปลา มีจุดเด่น คือกระดูกสันหลังสูงเป็นแผ่นคล้ายใบเรือ รูปครึ่งวงรี มี11ชิ้น ชิ้นที่ยาวที่สุดมีความยาว 1.69 เมตร เนื่องจากถูกค้นพบฟอสซิลในอียิปต์จึงได้สันนิษฐานเช่นนั้น กะโหลกมีจงอยปากแคบที่เต็มไปด้วยฟันรูปกรวย มีหงอนคู่ขนาดเล็กอยู่เหนือดวงตา แขนแข็งแกร่งมี 3นิ้ว สามารถใช้เป็นอาวุธและจับเหยื่อได้ มีความสูงจากพื้นถึงสะโพกที่ 3 เมตร ความยาวตั้งแต่ปลายจมูกจรดปลายหางประมาณ 15 เมตร ค้นพบฟอสซิลที่สมบูรณ์ที่สุดยาว 15เมตร (ส่วนกะโหลก ยาว 1.75 ม.) น้ำหนัก 6-10 ตัน
อาศัยอยู่ใน ทวีปแอฟริกา มีชีวิตอยู่ในตอนกลางของยุคครีเตเชียส (100-97 ล้านปีที่แล้ว) ในช่วงที่มันอาศัยอยู่ในยุคครีเตเชียสตอนกลางมีไดโนเสาร์คาร์คาโรดอนโทซอริดส์ขนาดใหญ่ คือ คาร์คาโรดอนโทซอรัส ได้อาศัยอยู่ร่วมระบบนิเวศเดียวกันที่มีความยาวประมาณ 13 เมตร และเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดใหญ่ที่ไม่ใช่คู่แข่งของสไปโนซอรัสและไดโนเสาร์กินเนื้อสกุลอื่นแต่อย่างใด สไปโนซอรัสเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ1ในโลก , มันมีญาติอย่าง ซูโคไมมัส บารีออนนิกซ์
ในปี ค.ศ.2014 นิซาร์ อิบราฮิมและ พอล เซเรโนได้เสนอทฤษฎีที่กล่าวว่า สไปโนซอรัสเป็นไดโนเสาร์ที่หากินอยู่ในน้ำเป็นหลัก โดยมีอาหารหลัก คือ ปลาและสัตว์น้ำ ด้วยรูจมูกซึ่งตั้งอยู่บนกะโหลกค่อนมาทางดวงตาช่วยให้หายใจได้แม้ส่วนใหญ่ของหัวจะจมลงในน้ำ และลำตัวทรงกระบอกที่คล้ายโลมาและวาฬ ส่วนความหนาแน่นของซี่โครงและกระดูกที่แขนก็คล้ายคลึงกับกระดูกของพะยูน ขาหลังที่สั้นและน่าจะเหมาะกับการว่ายน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่มีกรงเล็บเท้าแบน ๆ ในเท้าหลังที่กว้างมีพังผืดเชื่อมต่อกันเหมือนตีนเป็ด อีกทั้งยังมีขากรรไกรเรียวยาวและฟันรูปกรวยคล้ายกับฟันของจระเข้น่าจะใช้จับปลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนหลุมตรงปลายจมูกซึ่งปัจจุบันยังปรากฏให้เห็นในสัตว์จำพวกจระเข้และอัลลิเกเตอร์ อาจมีตัวรับความดันสำหรับตรวจจับอาหารในน้ำขุ่น โดยเชื่อว่า เมื่อล่าเหยื่อ สไปโนซอรัสจะโน้มตัวไปข้างหน้าแล้วงับปลาด้วยปากที่ยาว และเชื่อว่าสไปโนซอรัสใช้เวลาว่ายน้ำหาอาหารมากถึงร้อยละ 80 ต่อวัน [2]
หลังจากมีการค้นพบขาหลังของสไปโนซอรัสในปี 2014 ก็พบว่าขาหลังของสไปโนซอรัสนั้นสั้น ยืน2ขาได้ลำบาก ต่างจากในภาพยนตร์จูราสสิค พาร์ค 3ได้ และยังมีการพบว่าเท้านั้นเป็นผังผืดเหมือนตีนเป็ด ซึ่งไม่เหมาะที่จะวิ่งไล่จับเหยือบนบกได้ ดังนั้นจึงคาดว่าน่าจะมีไว้ใช้ในการว่ายน้ำมากกว่ากระโดงบนหลังของสไปโนซอรัส เดิมทีแล้วนักบรรพชีวินวิทยาได้สันนิฐานว่า น่าจะใช้ในการปรับอุณหภูมิของร่างกาย และใช้ในการทรงตัว จึงทำให้มันเป็นสัตว์ที่ตื่นตัวมาก
แต่ในปี 2014 นิซาร์ อิบราฮัม และนักวิทยาศาสตร์ ได้ศึกษากระโดงอย่างละเอียดแล้วว่า กระโดงนั้นมีปริมาณหลอดเลือดน้อยมากจึงไม่สามารถใช้ในการปรับอุณหภูมิ จึงได้สันนิฐานใหม่ว่า กระโดงน่าจะใช้ในการดึงดูดเพศตรงข้ามหรือไม่ก็ใช้ในการข่มขวัญพวกเดียวกันเองหรือไดโนเสาร์นักล่าสายพันธุ์อื่นๆ และได้มีการย้ายชิ้นส่วนกระโดงที่ยาวสุดไปไว้ช่วงท้าย เพื่อให้หางเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระมากขึ้นซึ่งเป็นประโยชน์ในการว่ายน้ำ

แหล่งที่มา

WikiPedia: สไปโนซอรัส http://discovermagazine.com/2007/jan/paleontology/... http://www.livescience.com/animalworld/060301_big_... http://www.dinodata.org/index.php?option=com_conte... //doi.org/10.1111%2F1475-4983.00181 http://en.wikipedia.org/w/index.php?action=edit&ti... http://en.wikipedia.org/w/index.php?action=edit&ti... http://piclib.nhm.ac.uk/results.asp?image=037012 http://www.nhm.ac.uk/jdsml/nature-online/dino-dire... https://commons.wikimedia.org/wiki/Spinosaurus?set...