หมีขอ หรือ
บินตุรง หรือ
หมีกระรอก (
อังกฤษ: Binturong, Bearcat;
ชื่อวิทยาศาสตร์: Arctictis binturong;
อีสาน: เหง็นหางขอ, เหง็นหมี) เป็น
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม แม้จะมีหน้าตาคล้าย
หมีจนได้ชื่อว่าหมี แต่เป็นสัตว์จำพวก
ชะมดและอีเห็น (Viverridae) ที่ใหญ่ที่สุด จัดเป็นสัตว์เพียง
ชนิดเดียวใน
สกุล Arctictis ที่ยังคงดำรงเผ่าพันธุ์จนถึงปัจจุบันหมีขอมีขนสีดำตามลำตัวซึ่งค่อนข้างยาวและหยาบ สีขนบริเวณหัวอาจมีสีเทา มีใบหูกลม บริเวณขอบหูมีสีขาว หมีขอมีหางยาวเป็นพวงคล้าย
กระรอก ซึ่งสามารถม้วนงอได้และสามารถใช้เกาะเกี่ยวต้นไม้ได้เป็นอย่างดี หมีขอมีความยาวลำตัวและหัว 61-96 เซนติเมตร ความยาวหาง 50-84 เซนติเมตร น้ำหนัก 10–20 กิโลกรัมหมีขอมีต่อมสร้างสารกลิ่นฉุนอยู่ข้างทวารหนัก ตัวผู้จะอยู่เหนืออัณฑะขึ้นมา ส่วนตัวเมียมีต่อมข้างช่องคลอด ซึ่งจะผลิตฟีโรโมนออกมาควบคู่กัน ระดับแอมโมเนียที่สร้างขึ้นมามีความเข้มข้นเพียงพอจะทำให้กลิ่นนั้นแปรสภาพเป็นกลิ่นคล้ายเนยหอมที่ผสมในป็อปคอร์นหมีขอมีการกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวางตั้งแต่
ภูฐาน, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของ
อินเดีย, ภาคตะวันตกของ
พม่า,
ไทย,
ลาว,
กัมพูชา, พรมแดนระหว่าง
เวียดนามติดกับลาวและกัมพูชา,
มาเลเซีย,
เกาะสุมาตรา,
เกาะบอร์เนียวใน
อินโดนีเซีย และ
เกาะปาลาวันใน
ฟิลิปปินส์หมีขอเป็นสัตว์หากินในเวลา
กลางคืน อาศัยและหากินตามลำพัง แต่ในบางครั้งอาจอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ประกอบไปด้วย แม่และลูก ในเวลากลางวันจะอาศัยโพรงไม้เป็นที่หลับนอน อาหารได้แก่
ผลไม้และ
สัตว์ที่มีขนาดเล็กชนิดต่าง ๆ บนต้นไม้ทั้ง
แมลงและ
สัตว์เลื้อยคลาน ปีนต้นไม้ได้เก่งมาก โดยใช้หางที่ยาวเกาะเกี่ยวกิ่งไม้จากต้นหนึ่งไปยังอีกต้นหนึ่ง นอกจากนี้ยังสามารถ
ว่ายน้ำได้อีกด้วย มีการผสมพันธุ์กันได้ตลอดทั้งปี ใช้เวลาตั้งท้องนาน 92 วัน ออกลูกครั้งละ 1–3 ตัว หมีขอตัวเมียจะมีเต้านมทั้งหมด 2 คู่ ลูกที่เกิดใหม่จะยังไม่สามารถใช้หางเกี่ยวกิ่งไม้ได้เหมือนตัวพ่อแม่
[2]หมีขอเป็นสัตว์ที่เลี้ยงตั้งแต่เล็กแล้วจะเชื่องจนสามารถนำมาฝึกให้แสดงโชว์ต่าง ๆ ได้ตาม
สวนสัตว์ สถานะปัจจุบันเป็น
สัตว์ป่าคุ้มครองตาม
พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535