อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ หรือ
เทพีเสรีภาพ เป็น
อนุสาวรีย์ที่ยิ่งใหญ่ และมีคุณค่าทางจิตใจ ใน
ภาษาอังกฤษ เรียกว่า Statue of Liberty แต่เดิมชื่อว่า Liberty Enlightening the World ตั้งอยู่ ณ
เกาะลิเบอร์ตี อ่าวนิวยอร์ก ที่นคร
นิวยอร์ก ประเทศ
สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นของขวัญที่ชาว
ฝรั่งเศสมอบให้แก่
ชาวอเมริกัน ในวันที่อเมริกาเฉลิมฉลอง
วันชาติครบ 100 ปี ณ วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2419 โดยส่งมอบอย่างเป็นทางการ โดยมี
ประธานาธิบดีโกรเวอร์ คลีฟแลนด์ ในวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2429เทพีเสรีภาพ เป็นประติมากรรม
โลหะสำริด รูปเทพี
ลิเบอร์ตาส (Libertas)
เทพีแห่งเสรีภาพของโรมัน ห่มเสื้อคลุม มือขวาชูคบเพลิง มือซ้ายถือแผ่นจารึกคำประกาศอิสรภาพของสหรัฐฯ และมีอักษรสลักว่า "JULY IV MDCCLXXVI" หรือ วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2319 (ค.ศ. 1776) เท้าข้างหนึ่งมีโซ่ที่ขาด แสดงถึงความหลุดพ้นจากการเป็นทาส สวมมงกุฎ 7 แฉกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทะเลทั้งเจ็ด หรือทวีปทั้งเจ็ด ภายในมีบันไดวนรวมทั้งสิ้น 162 ขั้น เกิดขึ้นตามแนวคิดของ
เอดูอาร์ด เดอ ลาบูลาเย นักประวัติศาสตร์ ชาวฝรั่งเศส เพื่อระลึกถึงความสัมพันธ์ของสหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศสระหว่างการปฏิวัติอเมริกัน ออกแบบโดย
เฟรเดรีค โอกุสต์ บาร์โทลดี โครงร่างเหล็กออกแบบโดย
เออแชน วียอเลต์-เลอ-ดุค และ
กุสตาฟ ไอเฟล ซึ่งเป็นผู้ออกแบบ
หอไอเฟล ในกรุง
ปารีส ส่วนฐานอนุสาวรีย์สร้างโดยสหรัฐอเมริกา จารึกโคลงซอนเนต์ของกวีชาวอเมริกัน
เอมมา ลาซารัส ซึ่งมีเนื้อหาต้อนรับผู้อพยพที่เข้าอยู่มาในอเมริกาสาเหตุที่ทำให้ชาวฝรั่งเศสมอบเทพีเสรีภาพให้แก่สหรัฐอเมริกา เพราะพวกเขาชื่นชมชาวอเมริกันที่กล้าหาญลุกขึ้นสู้กับ
สหราชอาณาจักร และประกาศอิสรภาพจากสหราชอาณาจักรสำเร็จจนเป็นชาติเอกราชในที่สุด ชาวฝรั่งเศสจึงรณรงค์หาเงินบริจาคจากทั่วประเทศในการขนส่งจากฝรั่งเศส มายังสหรัฐอเมริกา เนื่องจากความใหญ่โตของอนุสาวรีย์ ทำให้ต้องแยกส่วนแล้วมาประกอบที่อเมริกา มีชิ้นส่วนรวมทั้งหมด 350 ชิ้น และนำมาประกอบขึ้นใหม่โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 4 เดือน แต่ส่วนฐาน พบว่ามีการสร้างเสร็จ ในวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2429 โดยหมุดตัวสุดท้ายถูกประกอบเสร็จ ในวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2429ปี พ.ศ. 2527
องค์การยูเนสโก ประกาศให้อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ เป็น
มรดกของโลก ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมกว่า 3.2 ล้านคน (ในปี พ.ศ. 2552)
[1]หลังเหตุ
วินาศกรรม 11 กันยายนทางการได้สั่งปิดอนุสาวรีย์และเกาะลิเบอร์ตีชั่วคราว เกาะเปิดอีกครั้งในปลายปี พ.ศ. 2544 ในขณะที่ฐานและอนุสาวรีย์ยังคงปิดอยู่ ฐานเปิดขึ้นอีกครั้งในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2547
[2] ในวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ตัวอนุสาวรีย์ได้เปิดให้สาธารณะชนเข้าชมแต่ได้จำกัดจำนวนผู้ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปถึงส่วนหัวมงกุฎในแต่ละวัน
[3]