อรอรีย์ จุฬารัตน์ เป็นบุตรสาวคนสุดท้องจากทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย จุฬาพิช มณีวงศ์, ดร.จุฬิศพงศ์, อลงกรณ์ และอรอรีย์ จุฬารัตน์ มารดาคือ นางสุชาดี มณีวงศ์ เจ้าของบริษัท ทริลเลียนส์และทริไลอ้อนส์ และเป็นผู้พากย์เสียงรายการกระจกหกด้าน ทางช่องเจ็ดสี

ด้านการศึกษา

อรอรีย์สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนอัมพรไพศาล และสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์[3][4][5] หลังสำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาจากเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ สาขาซาวด์เอ็นจิเนียร์(วิศวกรเสียง) อรอรีย์ก็ได้เดินทางกลับประเทศไทย[6]

ด้านผลงานเพลง

หลังสำเร็จการศึกษาในสาขาซาวด์เอ็นจิเนียร์ (วิศวกรเสียง) อรอรีย์ได้รับการทาบทามจาก สุกี้ - กมล สุโกศล แคลปป์ ซึ่งขณะนั้นกำลังสุกี้กำลังผลักดันวง TKO อยู่ ภายหลังได้เป็นศิลปินของค่าย เบเกอรี่มิวสิค[7] ได้เขียนและผลิตผลงานเพลงด้วยตนเอง นับตั้งแต่ผลงานชิ้นแรกคือ อีพีชุด 'อรอรีย์' ในปี พ.ศ. 2538 ปีเดียวกันนี้ ได้ออกอัลบั้มแรก Natural High เป็นศิลปินในสังกัด เบเกอรี่มิวสิค อัลบั้มเป็นเพลงแนวกรันจ์ โดยมีผลงานเพลงเด่นยอดนิยมอย่าง แล้วเธอ, Pain และ ระหว่างเรา และอรอรีย์มีอัลบั้มที่สองตามมา ในปี พ.ศ. 2541 ในชื่อ Peel เพลงเด่นคือ อดทนรอฉัน (Wait) อรอรีย์โด่งดังในยุคเดียวกันกับ บอย โกสิยพงษ์, โมเดิร์นด็อก, พีโอพี โจอี้บอย, พรู, ริค วชิรปิลันธิ์ ฯลฯ นอกเหนือจากการถ่ายทอดเพลงแนวกรันจ์ได้อย่างไพเราะทั้งเนื้อร้องทำนองที่เธอเขียนเองทำเพลงเอง อรอรีย์ยังมีชื่อเสียงจากการแสดงสดที่เต็มที่กับการร้องสดไปพร้อมๆกับการเล่นกีตาร์และเอนเตอร์เทนแบบกรันจ์บนเวทีทำให้มีผู้สนใจและติดตามเป็นจำนวนมาก มักได้รับคำชมจากนักวิจารณ์และคนดูทั่วไปว่ามีฝีมือในการร้อง การแสดงและเล่นดนตรีบนเวทีได้น่าสนใจมีเอกลักษณ์ เพลง แล้วเธอ ต้นฉบับของ อรอรีย์ จุฬารัตน์ ถูกนำใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ 2538 อัลเทอร์มาจีบ ซึ่งขับร้องใหม่โดยวง อีโบลา (วงดนตรี)

หลังห่างหายไปนานไปยาวนานถึง 15 ปี เธอได้ปล่อยซิงเกิ้ลแรก "สักวัน" จากอัลบั้มชุดที่สาม ในปี 2556 ลงบนยูทูบแชแนลของเธอ กลางปี 2558 เธอปล่อยซิงเกิ้ลชุดที่สอง "ถนน" และซิงเกิ้ลลำดับที่ 3 ในช่วงตุลาคม 2559 ไม่รักก็ลา โดยอัลบั้มชุดที่ 3 ของเธอมีชื่อว่า "Un Jour (สักวัน)"