อะชิการุและปืนคาบศิลา ของ อะชิการุ

การฝึกพลธนูต้องใช้เวลานับปีๆ ในการฝึกฝนอย่างหนัก แต่การฝึกใช้ปืนคาบศิลาใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน พวกอะชิการุเป็นกลุ่มทหารในทุกๆ กองทัพที่พร้อมและใช้อาวุธยิงระยะไกลนี้ อาวุธปืนถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงก็เมื่อมันถูกใช้เป็นจำนวนมากๆ ในหมู่อะชิการุ ในภาษาสมัยใหม่ก็คือ อาวุธปืนคาบศิลาจำนวนมากสามารถจะอุดจุดอ่อนของปืนเดี่ยวๆได้โดยการทำให้มันกลายเป็นระบบอาวุธ หากอาวุธปืนถูกใช้ ยิงพร้อมๆ กันในปริมาณมากๆพร้อมกัน หรือการยิงแบบวัลเลย์ กองปืนขนาดใหญ่จะสามารถเอาชนะความไร้ประสิทธิภาพ ของปืนคาบศิลาที่ขาดความแม่นยำอย่างยิ่ง และอัตราการยิงที่ช้า ถ้าโชคดีพอก็สามารถจะยิงได้ถึง สามนัดในหนึ่งนาที แต่โดยทั่วไปแล้วอัตราการยิงพร้อมๆ กันจะเป็นเพียง 2 นัดต่อนาที และในช่องว่างนั้น ขณะที่ พวกอะชิการุกำลังง่วนอยู่กับการบรรจุกระสุนใหม่ นักรบฝ่ายข้าศึกก็สามารถเข้าถึงตัวและทำการรบประชิด และปืนคาบ ศิลาที่ยังไม่ได้บรรจุกระสุนก็คือดุ้นเหล็กหนักๆดีๆนี่เองไดเมียวทั้งหมดบรรจุกองปืนคาบศิลาอะชิการุไว้ในกองทัพ แต่ปกติแล้วทุกคนในกองปืนจะยิงพร้อมๆ กัน ซึ่งให้อำนาจ การทำลายล้างที่รุนแรง แต่นั่นก็หมายถึงว่ากองปืนจะไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิงในช่วงเวลาที่พลปืนบรรจุกระสุนนัดใหม่ ในทาง ตรงกันข้าม โนบุนางะให้พลปืนเพียงบางส่วนยิงในแต่ละครั้ง การยิงแบบวัลเลย์เป็นยุทธวิธีแบบใหม่ในการรบ ด้วยการให ้ทหารยิงทีละแถวหรือทีละส่วน โนบุนางะสามารถให้กองปืนยิงใส่ศัตรูได้อย่างสม่ำเสมอและไม่ขาดตอน ทำให้การเข้าประชิด กองทหารของเขาเป็นเรื่องเสี่ยงชีวิต เพราะพวกอะชิการุพลปืนจะยิงมาได้เรื่อยๆโดยไม่มีการหยุดชะงัก

โอดะ โนบุนางะ ซึ่งนับว่าเป็นผู้ที่ประสบความในการดึงศักยภาพของอะชิการุออกมาได้มากที่สุด เขามักจะนำอะชิการุเข้ามาประจำการในกองทัพเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้กองทัพของเขามีขนาดใหญ่มาก และยังได้ติดอาวุธปืนคาบศิลาเป็นจำนวนมากสำหรับกองทหารชนิดนี้ด้วย อะชิการุจำนวนมากรวมทั้งการฝึกที่เข้มงวด ส่งผลให้อะชิการุของตระกูลโอดะ มีระเบียบวินัยและและเป็นที่ครั่นคร้ามทัดเทียมกับพวกซามูไรทีเดียว และพวกเขายังได้แสดงฝีมือโดยการพิชิตกองทัพม้าอันเลื่องชื่อของทาเคดะในการรบที่นางาชิโนะให้เป็นที่ประจักษ์อีกด้วย