เมนูนำทาง
อะมีเลีย_แอร์ฮาร์ต ชีวิตการบินและการแต่งงานรายได้ในการบินสูงไม่มาก อะมีเลีย แอร์ฮาร์ต จึงได้ขาย "คะแนรี" แล้วซื้อรถยนต์เก๋งยี่ห้อ "คิสเซลโรดสเตอร์" ใหม่สีเหลืองแล้วขับพามารดาซึ่งเพิ่งหย่ากับบิดาไปอยู่ที่เมืองบอสตันเพราะได้งานทำที่นั่น เธอสมัครเป็นสมาชิกสมาคมการบินแห่งชาติสาขาบอสตัน อะมีเลียได้ลงทุนสร้างสนามบินเล็ก และเป็นตัวแทนขายเครื่องบินคิสเซลไปด้วย ในขณะเดียวกันก็เขียนบทความเกี่ยวกับการบินลงในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น จนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในท้องถิ่น อะมีเลียได้รับการยกย่องจากหนังสือพิมพ์ว่า เป็นนักบินสตรีที่ดีที่สุดในสหรัฐ แต่ก็มีผู้ไม่เห็นด้วยโดยเฉพาะนักบินที่มีประสบการสูง
เครื่องบินลอกฮีด เวกา 5 บี บินโดยอะมีเลีย แอร์ฮาร์ต จัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์อากาศยานและอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกาหลังจากชาลส์ ลินด์เบิร์ก บินเดี่ยวข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นผลสำเร็จในปี พ.ศ. 2470 ได้มีสุภาพสตรีอเมริกันผู้มั่งคั่งคนหนึ่งชื่อ "แอมี เกสต์" ที่อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษประกาศว่า จะทำสถิติเป็นสตรีคนแรกที่จะบินหรือโดยสารเครื่องบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก แต่เมื่อไตร่ตรองแล้วเห็นว่า มีอันตรายมากจึงเปลี่ยนใจประกาศตนเป็นผู้อุปถัมภ์โครงการแทน
อะมีเลีย แอร์ฮาร์ตได้รับการทาบทามให้เป็นผู้โดยสารบินรวมกับนักบินชายชื่อ วิลเมอร์ ชุลท์และผู้ช่วยนักบิน-ต้นหนชื่อหลุยส์ กอร์ดอน ทั้งสามคนได้บินออกจากชายฝั่งนิวฟาวด์แลนด์ด้วยเครื่องบิน ฟอกเกอร์ เอฟ 7 ไปถึงสนามบินเบอร์รีพอร์ทในประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2471 โดยใช้เวลาบิน 21 ชั่วโมง ในระหว่างบินอะมีเลียได้มีโอกาสขับและทำบันทึกปูมการบินซึ่งส่วนหนึ่งเขียนว่า "ใครก็แล้วแต่ที่พบซากเครื่องบินนี้ ได้โปรดทราบด้วยว่าเป็นเพราะฉันบินหลงในพายุไปหนึ่งชั่วโมง" ทั้งสามคนกลับมารับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยขบวนพาเหรดโปรยกระดาษเทปตามถนนในนครนิวยอร์ก ได้เข้าพบประธานาธิบดี "แคลวิน คูลิดจ์" ที่ทำเนียบขาว และโดยที่เธอมีรูปร่างละม้ายชาร์ล ลินเบิร์ก จึงได้รับสมญาว่า "เลดี ลินดี"
หนึ่งในทีมสนับสนุนโครงการมีบุรุษผู้มีชื่อเสียงและเป็นเจ้าของสำนักพิมพ์คือ "จอร์จ พัทนัม" ซึ่งได้ทำทุกอย่างให้อะมีเลียเป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมทั้งการตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับการบินที่อะมีเลียเป็นผู้เขียนและการเป็น "พรีเซนเตอร์"ให้แก่สินค้ามากมายหลายชนิด ทำให้ทั้งสองสนิทสนมและตกลงแต่งงานกันเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2474 แต่อย่างไรก็ดี อะมีเลียถือว่าการแต่งงานคือการเป็นหุ้นส่วนกัน และได้เขียนจดหมายบอกให้พัทนัมได้ทราบว่า เธอจะให้เขามีอิสระไม่จำเป็นต้องมีใจซื่อตรงต่อเธอ และเธอก็จะถืออย่างเดียวกัน และในปีที่เธอแต่งงาน อะมีเลียได้ทำลายสถิติบินสูงของนักบินหญิงด้วยความสูง 5.613 กิโลเมตร
และแล้วเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2475 อะมีเลียได้บินเดี่ยวทับเส้นทางที่ลินเบิร์กได้ทำการบินเที่ยวประวัติศาสตร์ด้วยเครื่องบิน "ลอกฮีด เวกา" เครื่องยนต์เดียว แต่เนื่องจากพายุ สภาพน้ำแข็งและเครื่องยนต์ทำให้เธอจำต้องร่อนลงจอดบนทุ่งหญ้าใกล้เมืองลอนดอนเดอร์รี ไอร์แลนด์เหนือแทน แต่ก็นับเป็นการบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก
ความสำเร็จทำให้อะมีเลียได้รับกางเขนกล้าหาญ (Distinguished Flying Cross) จากรัฐสภาอเมริกัน ได้เหรียญเกียรติยศจากรัฐบาลฝรั่งเศส ได้เหรียญทองของสมาคมภูมิศาสตร์แห่งชาติจากประธานาธิบดีเฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์
วันที่ 11 มกราคมอะมีเลีย เป็นคนแรกที่บินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกจากฮาวายมาแคลิฟอร์เนีย บินเดี่ยวจากลอสแอนเจลิสถึงเม็กซิโกซิตีและบินกลับมาลงที่นิวเจอร์ซี อะมีเลียเป็นครองสถิติการบินต่างๆ เป็นจำนวนมาก และในปี พ.ศ. 2478 เธอได้เข้าร่วมงานสอนที่มหาวิทยาลัยเพอร์ดิวเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาด้านเส้นทางการประกอบอาชีพแก่นักศึกษาหญิงเมื่อจบการศึกษา
เมนูนำทาง
อะมีเลีย_แอร์ฮาร์ต ชีวิตการบินและการแต่งงานใกล้เคียง
อะมีเลีย แอร์ฮาร์ต อะมีเลีย เคอร์ติส อะมีเลีย เวก้า โปลังโก้ อะมีบา อะดีเคดอันเดอร์กราวด์ อะมีคัส แคร์โรว์ อะมีโบ อะมีร มุฮัมมัด บิน รอชิด อาล มักตูม อะมะเตะระซุ อะมีร สุลฏอน บิน มุฮัมมัด อัลกอสิมีย์แหล่งที่มา
WikiPedia: อะมีเลีย_แอร์ฮาร์ต http://news.discovery.com/history/us-history/ameli... http://www.freeinfosociety.com/site.php?postnum=46 http://news.nationalgeographic.com/news/2003/12/12... http://www.lib.purdue.edu/spcol/aearhart/ http://www.ameliaearhartmuseum.org http://www.kansastravel.org/ameliaearhartmuseum.ht... http://www.tighar.org/Projects/Earhart/AEdescr.htm... https://commons.wikimedia.org/wiki/Amelia_Earheart...