อาชีพผู้จัดการทีม ของ อังแดร_วีลัช-โบอัช

เมื่อเขาอายุ 16 ปี วีลัช-โบอัช (ซึ่งเป็นแฟนบอลทีมโปร์ตู) อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์เดียวกับเซอร์ บ็อบบี ร็อบสัน ซึ่งขณะนั้นยังคุมทีมโปร์ตูอยู่ วีลัช-โบอัชได้รู้จักและได้รับคำแนะนำและความช่วยเหลือจาก "ปู่บ็อบ" ซึ่งชื่นชอบในความมุ่งมั่นของเขาและได้พาเขาไปที่ลีลล์แชลล์ (Lilleshall - หนึ่งในศูนย์กีฬาแห่งชาติของประเทศอังกฤษ)[3] และในที่สุด เขาได้รับใบประกอบวิชาชีพโค้ชของยูฟ่าระดับซี (C licence) เมื่ออายุเพียง 17 ปีที่สกอตแลนด์ จากนั้นเขาได้ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของทีมชาติหมู่เกาะบริติชเวอร์จินเป็นเวลาสั้น ๆ ขณะที่อายุเพียง 21 ปี[4] โดยที่เขาไม่บอกอายุให้ใครรู้จนกระทั่งได้ลาออกไปแล้ว[5] ก่อนที่ต่อมาเขาจะกลายเป็นผู้ช่วยของโชเซ มูรีนโยที่โปร์ตู ซึ่งเมื่อมูรีนโยย้ายไปอยู่เชลซีและอินเตอร์ตามลำดับ เขาก็ตามโค้ช "สเปเชียลวัน" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผู้ที่สนับสนุนเขานอกจากเซอร์บ็อบบี้ ร็อบสันไปด้วย

อากาเดมีกา

ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล 2009-2010 วีลัช-โบอัชได้ทิ้งการเป็นเพียงทีมงานของมูรีนโยเพื่อไล่ล่าตำแหน่งผู้จัดการทีมที่ใฝ่ฝัน และไม่ช้าเขาก็ได้งานคุมทีมสโมสรอากาแดมีกาดึกูอิงบรา (Académica de Coimbra) ในปรีไมราลีกา หรือลีกสูงสุดของโปรตุเกส ในขณะที่เขารับงานนั้น สโมสรอยู่ในโซนท้ายตารางและยังไม่ชนะใครเลย แต่โชคชะตาก็เริ่มพลิกผันเมื่อวีลัช-โบอัชได้นำระบบการเล่นแบบใหม่เข้ามา จนทำให้ทีมรอดพ้นการตกชั้นโดยมีแต้มเหนือโซนตกชั้นถึง 10 คะแนน และได้อันดับที่ 11 นอกจากนี้ ยังทำผลงานในโปรตุกีสลีกคัพ หรือบอลถ้วยของโปรตุเกสได้ดี โดยพาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศหรือ 4 ทีมสุดท้าย ก่อนแพ้ให้กับทีมใหญ่อย่างโปร์ตูไปอย่างหวุดหวิด ด้วยประตูชัยท้ายเกมของมาเรียโน กอนซาเลซ ผลงานของเขากับอคาเดมิกาไม่ใช่เพียงผลการแข่งขันที่น่าพอใจ แต่ยังมีสไตล์การเล่นที่ดึงดูดใจ (attractive football) จนทำให้สื่อโยงเขากับตำแหน่งกุนซือของทีมสปอร์ติงลิสบอนที่ว่างลงในหน้าร้อนปี 2010 (2553)

โปร์ตู

เมื่อเชซูอัลโด ฟีไรรา (Jesualdo Ferreira) พ้นตำแหน่งผู้จัดการทีมโปร์ตูไป ชื่อของวีลัช-โบอัชก็เข้ามาเชื่อมโยงกับงานที่ถิ่นอิชตาดีอูดูดราเกา (Estádio do Dragão) นี้ด้วย และท้ายที่สุดก็เป็นเขาที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของโปร์ตู ในวันที่ 2 มิถุนายน 2010 (2553) ก่อนที่จะมาปรากฏตัวในอีก 2 วันต่อมา และภายในเวลาอันรวดเร็ว เขาก็พาทีมคว้าแชมป์แรก คือ โปรตุกีส ซุปเปอร์ คัพ ที่นำแชมป์ลีกกับแชมป์บอลถ้วยของโปรตุเกสมาแข่งกันก่อนเปิดฤดูกาล โดยผลปรากฏว่าทีมโปร์ตูของวีลัช-โบอัชเอาชนะเบนฟิก้าไป 2-0 ก่อนที่จะประสบความสำเร็จมากมายในฤดูกาลแรกกับโปร์ตูทั้งปรีไมราลีกา ยูโรป้า ลีก และโปรตุกีส คัพ

ผลงานของเขากับโปร์ตูในฤดูกาลแรกมี ดังนี้

  • คว้าแชมป์ยูโรป้า ลีก ในวันที่ 18 พฤษภาคม 2011 (2554) โดยเป็นผู้จัดการทีมอายุน้อยที่สุดที่ชนะการแข่งขันในถ้วยยุโรปด้วยอายุเพียง 33 ปี 213 วัน
  • ทำสถิติไร้พ่ายติดต่อกันทุกรายการสูงสุดของสโมสรด้วยจำนวน 36 นัด ทำลายสิถิติที่โชเซ่ มูรินโญ่ทำไว้ที่ 33 นัด อย่างไรก็ดี สถิตินี้นับรวมสถิติการคุมทีมของเชซูอัลโด แฟร์เรร่า โค้ชคนเก่าด้วย
  • ทำสถิติชนะมากที่สุดในถ้วยยุโรปในที่ฤดูกาลสำหรับทีมจากโปรตุเกส คือ 14 นัด
  • ทำแต้มได้มากที่สุดจาก 30 นัดในลีก คือ 84 แต้ม
  • พาทีมชนะในลีกติดต่อกันมากที่สุด คือ 16 นัด
  • พาทีมคว้าแชมป์ลีกโดยทำแต้มทิ้งห่างจากอันดับสองมากที่สุด คือ 21 แต้ม
  • พาทีมคว้าแชมป์ลีกโปรตุเกสโดยไม่แพ้ใคร โดยก่อนหน้านี้มีเพียงเบนฟิก้าที่ทำได้ในฤดูกาล 1972-73 (2515-16)
  • ในวันที่ 3 เมษายน 2011 วีลัช-โบอัช คว้าแชมป์ลีกโปรตุเกสได้โดยเหลือการแข่งขันอีกถึง 5 นัด และกลายเป็นโค้ชที่อายุน้อยที่สุดเป็นรองแค่ มิฮาไล ซิซท์กา (Mihály Sistka) ที่ทำได้ในฤดูกาล 1938-39 (2471-72) และชูกา (Juca) ในฤดูกาล 1961-62 (2504-05)
  • ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2011 วีลัช-โบอัช คว้าแชมป์โปรตุกีส คัพ ทำให้เท่ากับโทมิสลาฟ อิวิช (Tomislav Ivić) ที่พาโปร์ตูคว้า 4 แชมป์เมื่อฤดูกาล 1987-88 (2530-31)

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2011 วีลัช-โบอัชยื่นเรื่องลาออกจากการคุมทีมโปร์ตู และอีกหนึ่งวันให้หลัง เขาก็ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของเชลซี

เชลซี

โบอัช สมัยอยู่กับ สโมสรฟุตบอลเชลซี ใน พรีเมียร์ลีก

ในวันที่ 20 มิถุนายน 2011 โปร์ตูได้แจ้งให้คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์โปรตุเกส (Portuguese Securities Market Commission) ทราบว่ามี "การแจ้งเจตจำนงของอังแดร วีลัช-โบอัช ที่จะยกเลิกสัญญาของเขากับสโมสรด้วยข้อเสนอ 15 ล้านยูโรในทันที สัญญาจะสิ้นสุดลงเมื่อจำนวนเงินตามข้อเรียกร้องมีการชำระแล้ว" ข้อเสนอเพื่อยกเลิกสัญญามูลค่า 15 ล้านยูโร ยังปรากฏว่าได้รับการยืนยันจากแถลงการณ์ของสโมสรในวันก่อนหน้านี้ด้วย รายงานต่อมาจากบีบีซี (BBC) และแหล่งข่าวในโปรตุเกสชื่อ ลูซา (Lusa) กล่าวว่า เชลซีได้แต่งตั้งวีลัช-โบอัชเป็นโค้ชคนใหม่แล้ว แต่เชลซีได้ปฏิเสธรายงานดังกล่าว โดยบอกว่าหวังว่าจะสามารถแถลงอย่างเป็นทางการได้ในไม่กี่วันนี้ ก่อนที่ในวันที่ 21 มิถุนายน เชลซีจะได้จ่ายเงินให้กับโปร์ตูจำนวนเกือบ 15 ล้านยูโร หรือ 13.3 ล้านปอนด์ เป็นการชดเชยเพื่อให้ปล่อยตัววีลัช-โบอัช จากสัญญากับโปร์ตู และเมื่อจ่ายเงินชดเชยแล้ว เชลซีจึงได้ยืนยันว่าพวกเขาสนใจในตัววีลัช-โบอัช และออกแถลงการณ์ว่า "พวกเราขอชี้แจงว่าข้อเสนอให้ปล่อยตัวอังแดร วีลัช-โบอัช ได้มีผลแล้ว เราสามารถยืนยันความสนใจของเราต่อเขาได้แล้วในเวลานี้ และหวังว่าจะบรรลุข้อตกลงส่วนตัวต่างๆกับเขา และออกแถลงการณ์ความคืบหน้าในอนาคตอันใกล้นี้" สุดท้ายในวันที่ 22 มิถุนายน เชลซีก็ได้ยืนยันการแต่งตั้ง วีลัช-โบอัช เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ด้วยสัญญา 3 ปี และมีผลในทันที

แต่ปรากฏว่าผลงานของเชลซีนั้นไม่ดีเลย คณะผู้บริหารจึงมีมติปลดวีลัช-โบอัชออกจากตำแหน่ง หลังจากเกมในพรีเมียร์ลีกที่แพ้เวสต์บรอมวิชอัลเบียนไป 0-1 ในต้นเดือนมีนาคม 2012[6]

ทอตนัมฮอตสเปอร์

อังแดร วิลลัส-โบอัช กลายเป็นผู้จัดการทีมทอตนัมฮอตสเปอร์คนแรก ที่สามารถพาทีมเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ไป 2-3 ได้ถึงสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2012 และเป็นทีมเดียวที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไม่สามารถเอาชนะได้ ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2012-2013[7]

ใกล้เคียง

อังแดร วีลัช-โบอัช อังแดร ซิลวา (นักฟุตบอล) อังแดร โกมึช อังเดรอัส เปเรย์รา อังเดร คูเลบิน อังแกบบอบ อังเดร์ซง ดูซ ซังตูซ อังเดร แคนเชลสกี อังเดร์ซง ลูอีส จี อาเบรว โอลีเวย์รา อังเดร คาเมล