อัปแซ็งต์ (
ฝรั่งเศส: absinthe, ออกเสียง: [apsɛ̃t]) เป็นเหล้า
อาหนีชนิดหนึ่ง
กลั่นจาก
สมุนไพรหลายชนิด ได้แก่ ดอกและใบของพรรณไม้ชนิด
Artemisia absinthium ร่วมกับเมล็ด
เทียนสัตตบุษย์, เมล็ด
ผักชีล้อม และสมุนไพรชนิดอื่น ๆ ที่ใช้เป็นยาหรือทำอาหาร
[1] แต่เดิมจะมีสีเขียวตามธรรมชาติ แต่อาจไม่มีสีก็ได้ วรรณคดีตะวันตกเรื่องต่าง ๆ มักเรียกเหล้าชนิดนี้ว่า "เจ้าภูตเขียว" (la fée verte) ตามธรรมเนียมแล้ว อัปแซ็งต์จะถูกบรรจุขวดโดยมี
ปริมาณแอลกอฮอล์โดยปริมาตรในระดับสูง โดยได้รับการอธิบายว่าเป็น
เครื่องดื่มกลั่นที่มีปริมาณ
แอลกอฮอล์ร้อยละ 45–74 โดยปริมาตร
[2][3][4][5] แต่ตามปกติก็ถูกทำให้เจือจางด้วยน้ำก่อนบริโภค แม้ว่าบางครั้งอัปแซ็งต์จะถูกเข้าใจผิดว่าเป็น
เหล้าหวาน (liqueur) แต่ก็ไม่มีการบรรจุอัปแซ็งต์ลงขวดโดยเติมน้ำตาลเพิ่ม ดังนั้นจึงจัดว่าเป็นเหล้า (spirit) ชนิดหนึ่ง
[6]อัปแซ็งต์มีต้นกำเนิดใน
รัฐเนอชาแตลของ
สวิตเซอร์แลนด์ในช่วงปลาย
คริสต์ศตวรรษที่ 18 และได้รับความนิยมอย่างสูงในฐานะ
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใน
ฝรั่งเศสช่วงปลาย
คริสต์ศตวรรษที่ 19 จนถึงต้น
คริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ศิลปินและนักเขียนชาว
ปารีส แต่เนื่องจากเหล้าชนิดนี้มีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับวัฒนธรรม
โบฮีเมีย การบริโภคอัปแซ็งต์จึงถูกต่อต้านจากนักอนุรักษนิยมทางสังคมและผู้นิยมหลักการห้าม (prohibitionism) แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่านักเขียน กวี จิตรกร และนักประพันธ์ดนตรีหลายคนต่างเป็นนักดื่มอัปแซ็งต์ เช่น
เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์,
เจมส์ จอยซ์,
ชาร์ล โบดแลร์,
ปอล แวร์แลน,
อาร์ตูร์ แร็งโบ,
อ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็ก,
อาเมเดโอ โมดิลยานี,
ปาโบล ปีกัสโซ,
ฟินเซนต์ ฟัน โคค,
ออสการ์ ไวลด์,
มาร์แซล พรุสต์,
แอลัสเตอร์ โครว์ลีย์,
เอริก ซาตี,
เอดการ์ แอลลัน โพ,
ลอร์ด ไบรอน,
อาลแฟรด ฌารี เป็นต้น
[7]ในอดีต อัปแซ็งต์มักได้รับการพรรณนาว่าเป็น
ยาเสพติดที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทและ
สารก่อประสาทหลอนที่มีอันตรายมาก
[8] โดยเชื่อกันว่าสารประกอบเคมีชนิดหนึ่งชื่อ
ทูโจน (thujone) เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดผลดังกล่าว เมื่อถึงปี
ค.ศ. 1915 อัปแซ็งต์ถือเป็นของต้องห้ามใน
สหรัฐอเมริกาและหลายประเทศใน
ยุโรปซึ่งรวมถึงฝรั่งเศส,
เบลเยียม,
เนเธอร์แลนด์, สวิตเซอร์แลนด์ และ
ออสเตรีย-ฮังการี แม้ว่าอัปแซ็งต์จะถูกกล่าวหาเช่นนั้น แต่ก็ไม่เคยมีการพิสูจน์ให้เห็นจริงว่ามันมีอันตรายมากกว่าเหล้าธรรมดาแต่อย่างใด ผลการวิจัยในยุคหลังแสดงให้เห็นว่าในอัปแซ็งต์มีสารทูโจนอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และสมบัติการออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทของอัปแซ็งต์ (นอกเหนือจากที่มีอยู่ในแอลกอฮอล์) ก็ถูกขยายให้เกินความจริง
[8] การฟื้นฟูการผลิตอัปแซ็งต์เริ่มต้นใน
คริสต์ทศวรรษ 1990 หลังจากมีการประกาศใช้กฎหมายอาหารและเครื่องดื่มของ
สหภาพยุโรปซึ่งกำจัดอุปสรรคที่มีมายาวนานต่อการผลิตและการจำหน่าย เมื่อถึงต้น
คริสต์ศตวรรษที่ 21 มีอัปแซ็งต์เกือบ 200 ยี่ห้อได้รับการผลิตในประเทศต่าง ๆ ประมาณ 12 ประเทศ ที่เด่นที่สุดได้แก่ ฝรั่งเศส, สวิตเซอร์แลนด์,
ออสเตรเลีย,
สเปน และ
เช็กเกีย