อัล
อัรบะอีน (
อาหรับ: الأربعين) หรือ
ชะฮ์ลัม (
เปอร์เซีย: چهلم,
อูรดู: چہلم) แปลตรงตัวว่าสี่สิบ เป็น
ศาสนพิธีของ
ชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ ซึ่งจัดขึ้นหลังจาก
วันอาชูรออ์เป็นเวลา 40 วัน หรือวันที่ 20 เศาะฟัร เพื่อรำลึกถึงการวายชนม์ของ
ฮุซัยน์บุตรอะลี ซึ่งแข็งข้อไม่ยอมขึ้นต่อ
ราชวงศ์อุมัยยะฮ์จนต้องถูกตัดศีรษะใน
ยุทธการกัรบะลาอ์ เมื่อวันที่
10 ตุลาคม พ.ศ. 1223 (10 มุฮัรรอม ฮ.ศ. 61) พิธีนี้จัดขึ้นที่เมือง
กัรบะลาอ์ ประเทศอิรัก และมีผู้ร่วมพิธีมากกว่าพิธี
ฮัจญ์ที่เมือง
มักกะห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย[1][2][3] พิธีอัรบะอีนจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 1224 โดยสหาย (เศาะหาบะฮ์) ของมุฮัมมัดท่านหนึ่งชื่อญะบิร์ บินอับดุลลอฮ์ (جابر بن عبدالله) ซึ่งไปเยี่ยมเยียนสุสานของฮุซัยน์ พร้อมด้วยอะฏียะฮ์ บินซะอัด บินญุนาดะฮ์ (عطية بن سعد بن جنادة) บรรดาญาติของมุฮัมมัด ตลอดจนอิหม่ามอะลี บินุลฮุซัยน์ (علي بن الحسين)
[4] ซึ่งทั้งหมดถูกกดขี่โดยเคาะลีฟะฮ์อุมัยยะฮ์ในเวลานั้น
[5]ถึงแม้ว่าระยะทางระหว่างเมือง
บัศเราะฮ์และกัรบะลาอ์จะห่างไกลกันแม้จะเดินทางด้วยรถ บรรดาผู้ศรัทธาชาวอิรักก็ไม่ย่อหย่อนที่จะเดินทางด้วยเท้าเปล่าซึ่งใช้เวลาประมาณสองสัปดาห์ หรือบรรดาผู้ที่อาศัยที่อิหร่านก็จะใช้เวลาหนึ่งเดือน
[6] ย้อนหลังกลับไปในปี พ.ศ. 2551 มีผู้ร่วมพิธีนี้ประมาณเก้าล้านคน ปีถัดมาก็เพิ่มจำนวนอย่างมาก
[7] ล่วงมาจนถึงปี พ.ศ. 2556 ผู้ร่วมพิธีนี้มีจำนวนถึง 20 ล้านคนจากกว่า 40 ประเทศ
[8][9][10] ในปีเดียวกันนั้นเองเกิดเหตุระเบิดรถยนต์เพื่อสังหารกลุ่มผู้แสวงบุญจำนวน 20 ราย โดยอาจเป็นฝีมือของกลุ่ม
ดาอิช ซึ่งกล่าวหาว่ามุสลิมนิกายชีอะห์เป็นคนนอกศาสนา
[11] ในปีถัดมาก็ไม่เกิดเหตุอื่นใดเลยจนผู้ว่าการจังหวัดกัรบะลาอ์ยกให้เป็นชัยชนะเหนือกลุ่มดาอิช
[12][13]นอกเหนือจากมุสลิมนิกายชีอะห์แล้ว มุสลิม
นิกายซุนนีบางกลุ่ม ชาว
โซโรอัสเตอร์ หรือแม้แต่
ชาวคริสต์ รวมถึงตัวแทน
สันตะสำนักวาติกันก็เข้าร่วมพิธีนี้ด้วย
[14][15] พิธีนี้ว่างเว้นในบางช่วง เช่นช่วงที่
ศอดดาม ฮุซัยน์เรืองอำนาจเป็นเวลาเกือบ 30 ปี ครั้นอิรักถูกโจมตีเมื่อ พ.ศ. 2546 พิธีนี้ก็ได้ถูกถ่ายทอดสดออกไปเช่นเดียวกับพิธีฮัจญ์
[16]