การปรากฏตัว ของ อาคาอินุ

อาคาอินุ ปรากฏตัวครั้งแรกในภารกิจบัสเตอร์คอลที่ เกาะโอฮาร่าเมื่อ 20 ปีก่อนโดยขณะนั้นเขามียศพลเรือโท อาคาอินุ สั่งให้โจมตีเรือผู้อพยพด้วยเหตุผลในการป้องกันว่าอาจจะมี นักวิชาการหลบซ่อนอยู่ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับอาโอคิยิที่อยู่ในภารกิจนั้นด้วยในสงครามที่มารีนฟอร์ด อาคาอินุเป็นพลเอกคนสุดท้ายที่แสดงฝีมือการต่อสู้ออกมา เขาใช้หมัดแม็กมาชกใส่ก้อนน้ำแข็งยักษ์ที่โจสโยนมา ต่อด้วยการยิงหมัดฝนดาวตกโจมตีจนเหล่าโจรสลัดต่างบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก แม้แต่เรือโมบี้ดิกของหนวดขาวก็ถูกเผาไหม้ด้วยแมกม่าที่ร้อนละอุ อาคาอินุ รู้เรื่องที่สควอโด้เกลียดโรเจอร์เขาจึงใช้อุบายหลอกให้สควอโด้ทำร้ายหนวดขาวภายหลังเอสหลุดรอดน้ำมืออาโอคิยิมาได้และกำลังหนีไปพร้อมกับลูฟี่ อาคาอินุ ใช้คำพูดดูถูกเหยียดหยามหนวดขาวเพื่อยั่วโมโหเอส เขาต่อสู้กับเอสด้วยพลังแมกม่าที่เหนือกว่าไฟของเอสมาก อาคาอินุ เดินไปหาลูฟี่ที่ร่างกายเริ่มไม่ขยับ เขาใช้หมัดหมายจะโจมตีใส่ลูฟี่แต่เอสเข้ามาขวางเอสเอาไว้เป็นเหตุให้ต้องจบชีวิตลง อาคาอินุ เข้าต่อสู้กับหนวดขาวอย่างดุเดือดและถูกหนวดขาวเล่นงานจนอาการสาหัส แม้จะหาจังหวะโจมตีกลับจนหนวดขาวสูญเสียหนวดข้างซ้ายไปแต่ อาคาอินุก็ไม่สามารถเอาชนะหนวดขาวได้และพ่ายแพ้หนวดขาวจนเกือบตกลงไปในทะเลอาคาอินุ รอดตายจากน้ำมือของหนวดขาว เขากลับเข้าสู่สงครามอีกครั้งและเริ่มไล่ล่าลูฟี่อย่างเอาเป็นเอาตาย อาคาอินุ บอกให้จินเบทิ้งลูฟี่เอาไว้แต่จินเบปฏิเสธเขาจึงยิงหมัดเข้าใส่จนทะลุร่างของจินเบและไปถูกลูฟี่ ก่อนจะถูกกลุ่มหนวดขาวกับครอคโคไดล์ขัดขวาง อาคาอินุ ได้ยินคำพูดของโคบี้แล้วรู้สึกโมโหกับความอ่อนแอของโคบี้ เขาทุ่มกำลังหมายจะจัดการโคบี้ที่ทำให้ความยุติธรรมของทหารเรือต้องด่างพร้อยแต่ถูกแชงสเข้ามาขวางเอาไว้ภายหลังสงครามที่มารีนฟอร์ดกองทัพได้รับการติดต่อจากกลุ่มโจรสลัดหนวดดำให้นำเรือรบหนึ่งลำมาแลกกับจีเวลลี่ บอนนี่ อาคาอินุจึงนำเรือรบออกไปที่โลกใหม่บนเกาะที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงเพื่อจัดการกับกลุ่มหนวดดำแต่เขาได้พบเพียงบอนนี่กับลูกน้องที่ถูกจับมัดเอาไว้เซนโงคุขอลาออกจากตำแหน่งจอมพลและคิดจะให้อาโอคิจิขึ้นเป็นจอมพลแทน แต่เบื้องบนของรัฐบาลโลกต้องการให้ อาคาอินุเป็นจอมพลเพราะมีการตัดสินใจที่เด็ดขาดกว่า ทั้งอาโอคิจิและ อาคาอินุ จึงต้องตัดสินกันด้วยการประลองบนพั้งค์ ฮาซาร์ดซึ่งกินเวลานานสิบวันสิบคืน ผลปรากฏว่าอาคาอินุเป็นฝ่ายชนะและได้ขึ้นเป็นจอมพลคนใหม่[3]