ประวัติ ของ อาร์เธอร์_เวลสลีย์_ดยุกที่_1_แห่งเวลลิงตัน

วัยเยาว์และการศึกษา

ปราสาทแดนแกนของตระกูลเวลสลีย์ในไอร์แลนด์

อาเธอร์เกิดในตระกูลชนชั้นสูงครึ่งอังกฤษ-ไอร์แลนด์ ในราชอาณาจักรไอร์แลนด์ เป็นบุตรชายคนที่สามในบรรดาบุตรชายห้าคนของ เอิร์ลที่ 1 แห่งมอร์นิงตัน กับภริยานามว่าแอนน์ ซึ่งเป็นบุตรีของไวเคานต์แดนแกนนอนที่ 1 ชีวประวัติของเขามักจะอ้างอิงจากหลักฐานหนังสือพิมพ์เก่า ซึ่งระบุไว้ว่าเขาเกิดในวันที่ 1 พฤษภาคม 1769[2] ซึ่งเป็นวันที่เข้ารับศีลล้างบาป[3] แต่ไม่ได้ระบุถึงสถานที่เกิดที่แน่นนอน แต่เชื่อว่าเขาน่าจะเกิดที่ทาวเฮาส์ของครอบครัวในกรุงดับลิน

อาเธอร์ใช้ชีวิตในวัยเด็กส่วนใหญ่ของเขาอยู่ที่บ้านสองหลังของครอบครัว หลังแรกคือบ้านขนาดใหญ่ในดับลิน และอีกหลังคือปราสาทแดนแกนทางตะวันตกเฉียงเหนือของดับลิน[4] บิดาของเขาถึงแก่อสัญกรรมในปี 1781 ซึ่งริชาร์ด ผู้เป็นพี่ชายคนโตของเขาก็เป็นผู้สืบต่อตำแหน่งเอิร์ลแห่งมอร์นิงตัน[5]

เขาเข้าเรียนที่โรงเรียนโบสถ์ขณะอาศัยอยู่ที่แดนแกน และสถาบันมิสเตอร์ไวนต์ขณะอาศัยอยู่ที่ดับลิน และโรงเรียนบราวน์ขณะอาศัยอยู่ในลอนดอน แล้วจึงเข้าเรียนในวิทยาลัยอีตันระหว่างปี 1781 ถึง 1784[5] ความโดดเดี่ยวของเขาทำให้เขาเกลียดที่นี่มาก เขามักจะพูดว่า "ชนะศึกวอเตอร์ลูที่ลานกีฬาของอีตัน" ทั้งๆที่อีตันไม่มีลานกีฬา ในปี 1785 จากการที่เขาไม่ค่อยประสบความสำเร็จในการเรียนที่อีตัน ประกอบกับครอบครัวเริ่มมีปัญหาขัดสนเงินทองภายหลังการอสัญกรรมของบิดา ทำให้เขาและมารดาต้องย้ายไปอาศัยอยู่ที่บรัสเซลส์ในเบลเยียม[6] แม้อายุจะย่างเข้ายี่สิบแล้ว แต่เขาก็แสดงความเด่นประกายออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในขณะที่มารดาของเขาก็ตระหนักถึงความเกียจคร้านในตัวเขา เธอเคยกว่าวว่า "ชั้นไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงกับอาเธอร์เจ้าลูกชายจอมเทอะทะของฉันดี"[6]

ในปีต่อมา อาเธอร์เข้าศึกษาที่ราชวิทยาลัยการทรงตัวในเมืองอ็องเฌของฝรั่งเศส เขาเริ่มแสดงออกถึงความก้าวหน้า และกลายเป็นนักขี่ม้าที่ดี และยังได้เรียนภาษาฝรั่งเศสซึ่งภายหลังได้เป็นประโยชน์ต่อเขาอย่างมาก[7] และจึงกลับไปยังอังกฤษในปลายปี 1786 ซึ่งพัฒนาการของเขาทำให้มารดาของเขาประหลาดใจอย่างมาก[8]

เข้ารับราชการทหาร

ปีแรกของการเป็นทหาร เวลสลีย์ทำงานในปราสาทดับลิน (ในภาพ) ในฐานะนายทหารคนสนิทของข้าหลวงใหญ่แห่งไอร์แลนด์

เนื่องด้วยเงินทองครอบครัวค่อนข้างยังขัดสน ด้วยคำแนะนำของมารดา พี่ชายของเขาได้ไปร้องขอกับสหาย คือ ดยุกแห่งรัทแลนด์ ซึ่งขณะนั้นเป็นข้าหลวงใหญ่แห่งไอร์แลนด์ ให้รับเวลสลีย์เข้าประจำการในกองทัพ[8] ไม่นานหลังจากนั้นในวันที่ 7 มีนาคม 1787 เวลสลีย์ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการทหารที่ตำแหน่งนายธง ในกองร้อยเดินเท้าที่ 73 [9][10] และในเดินตุลาคม ด้วยความช่วยเหลือจากทางพี่ชาย เวลสลีย์ก็ได้ขึ้นเป็นนายทหารคนสนิท (Aide-de-camp) ของลอร์ดบักกิงแฮม ข้าหลวงใหญ่คนใหม่ ด้วยค่าตอบแทน 10 ชิลลิงต่อวัน (หนึ่งเท่าของค่าตอบแทนนายธง)[9] ต่อมาเขาถูกโอนชื่อไปอยู่ในกองร้อยที่ 76 ที่ตั้งขึ้นใหม่ในไอร์แลนด์ และในวันคริสมาสต์ของปี 1787 นั้นเองเขาก็ได้เลื่อนยศเป็นร้อยโท[9] ด้วยตำแหน่งนายทหารคนสนิทนี้ งานส่วนใหญ่ของเขาจึงเปรียบเสมือนผู้ช่วยและเลขาของข้าหลวงใหญ่ ซึ่งในไอร์แลนด์นี้เองเวลสลีย์ชื่นชอบการพนันมาก และมักจะเป็นหนี้เป็นสินคนอื่นอยู่เสมอ

มกราคม 1788 เขาถูกโอนชื่อไปอยู่ในกองร้อยเดินเท้าที่ 44 และไม่นานต่อมาถูกโอนชื่อไปอยู่ในกองร้อยมังกรที่ 12 ในเจ้าชายแห่งเวลส์[11] หลังจากนี้เป็นช่วงเวลาที่เขาเริ่มเข้าไปมีบทบาททางการเมือง และในปี 1789 ได้รับเลือกเป็นสมาชิกรัฐสภาจากเขตทริมในสภาสามัญชนไอร์แลนด์[12]ในช่วงนี้เขายังคงรับราชการอยู่ในปราสาทดับสินโดยที่มีสิทธิ์ออกเสียงในสภาไอร์แลนด์ เมื่อเขาหมดวาระในสภาในปี 1791 เขาได้เลื่อนยศเป็นร้อยเอก และถูกโอนชื่อไปประจำการในกองร้อยเดินเท้าที่ 56[12][13][14] และในเดือนตุลาคมโอนไปกองร้อยมังกรที่ 18

ใกล้เคียง

อาร์เอส อาร์เอ็มเอส ไททานิก อาร์เอ็มเอส โอลิมปิก อาร์เอส มิวสิค อาร์เอ็ม (แร็ปเปอร์) อาร์เอ็มเอส ควีนแมรี อาร์เอ็มเอส คาร์เพเทีย อาร์เอ็มเอส มอริเทเนีย อาร์เทอร์ คอมป์ตัน อาร์เอ็มเอส ลูซิเทเนีย