ประวัติ ของ อำเภอบางระกำ

บางระกำเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดพิษณุโลกมีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถ (ระหว่าง พ.ศ. 1999 - ไม่ปรากฏ) เมื่อครั้งที่พระองค์ทรงมาผนวชอยู่ที่วัดจุฬามณีในปี พ.ศ. 2007 ได้มีชุมชนหนึ่งอาศัยอยู่ตามเรือนแพลำแม่น้ำยม ประกอบอาชีพทางการประมง ซึ่งคาดว่าจะเป็นประชากรรุ่นแรกที่มาตั้งถิ่นฐานที่อำเภอบางระกำ

หลักฐานที่ค่อนข้างชัดเจนเริ่มปรากฏให้เห็นในรัชสมัยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งครองกรุงศรีอยุธยาระหว่าง พ.ศ. 2112 - 2133 ในขณะนั้นประเทศไทยอยู่ในภาวะสงครามกับประเทศพม่า จึงปรากฏชื่อสถานที่ต่างๆตามที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สงคราม เช่น แหล่งผลิตและรวบรวมศาสตราวุธเพื่อเตรียมการรบกับพม่า จึงเรียกสถานที่แห่งนั้นว่า "ชุมแสงสงคราม"

"อำเภอชุมแสง" ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2449 โดยมีขุนเผด็จประชาดุลย์ เป็นนายอำเภอคนแรก ภายหลังได้ย้ายสถานที่ตั้งอำเภอใหม่ โดยได้ย้ายมาตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยม ที่ตำบลบางระกำ มีลักษณะเป็นเรือนแพ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า "แพหลวง" ตั้งอยู่เหนือศาลเจ้าพ่อดาบทอง แต่เมื่อถึงในฤดูน้ำหลากน้ำจะเอ่อล้นท้วมตลิ่ง ทำให้ราษฎรซึ่งต้องใช้เรือในการสัญจรไปมา ทำให้ลำบากในการติดต่อราชการ

  นายอำเภอสมัยนั้นได้พิจารณาเห็นว่าควรย้ายที่ว่าการอำเภอไปตั้งอยู่บนพื้นที่เนิน ที่บ้านท่าโก ตำบลบางระกำ ซึ่งห่างจากที่ว่าการอำเภอปัจจุบัน 4 กิโลเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกให้ราษฎรในการเดินทางมาติดต่อกับทางราชการ แต่ปรากฏว่าราษฎรต้องได้รับความเดือดร้อนมากยิ่งขึ้น  เพราะไม่มีถนน ประกอบกับมีบ้านเรือนคนอาศัยอยู่เป็นจำนวนน้อย และสัตว์ป่าดุร้ายชุกชุม ราษฎรต้องเดินเท้าเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร จึงได้มีการร้องเรียนให้ย้ายที่ว่าการอำเภอกลับมาตั้งยังที่ว่าการอำเภอเดิม

วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2460 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงมีพระราชโองการให้เรียกชื่ออำเภอตามชื่อตำบล ซึ่งเป็นที่ตั้งที่ว่าการอำเภอ จึงได้เปลี่ยนชื่อจากอำเภอชุมแสง มาเป็น "อำเภอบางระกำ" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ในปี พ.ศ. 2474 หลวงพิณพลราษฎร์ นายอำเภอขณะนั้น เห็นความเดือดร้อนของราษฎรในการเดินทางไปติดต่อราชการที่บ้านท่าโก จึงได้ย้ายที่ว่าการอำเภอมาตั้งยังริมฝั่งขวาของแม่น้ำยม ใกล้กับวัดสุนทรประดิษฐ์ หมู่ที่ 7 ตำบลบางระกำ จนถึงปัจจุบัน[2]  

  • วันที่ 29 เมษายน 2460 เปลี่ยนแปลงชื่ออำเภอชุมแสง จังหวัดพิษณุโลก เป็น อำเภอบางระกำ[1]
  • วันที่ 23 มีนาคม 2472 ตั้งตำบลวังอีทก แยกออกจากตำบลบางระกำ และตำบลกำแพงดิน ตั้งตำบลพันเสา แยกออกจากตำบลบึงกอก[3]
  • วันที่ 2 เมษายน 2481 โอนพื้นที่หมู่ 12 (ในตอนนั้น) จากตำบลกำแพงดิน มาขึ้นกับตำบลวังอีทก[4]
  • วันที่ 17 เมษายน 2482 เปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดพิจิตร และจังหวัดพิษณุโลก โดยโอนตำบลหาดกรวด และตำบลกำแพงดิน อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ไปขึ้นกับอำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร[5]
  • วันที่ 10 มิถุนายน 2490 ตั้งตำบลบึงกอก แยกออกจากตำบลปลักแรด ตำบลหนองกุลา และตำบลชุมแสงสงคราม ตั้งตำบลพันเสา แยกออกจากตำบลปลักแรด และตำบลวังอิทก[6]
  • วันที่ 30 พฤษภาคม 2499 จัดตั้งสุขาภิบาลบางระกำ ในท้องที่บางส่วนของตำบลบางระกำ[7]
  • วันที่ 13 ธันวาคม 2515 จัดตั้งนิคมสร้างตนเอง ในท้องที่อำเภอบางระกำ และอำเภอสามง่าม[8]
  • วันที่ 26 ธันวาคม 2515 เปลี่ยนแปลงเขตสุขาภิบาลบางระกำ เพื่อความเหมาะสมในการบริหารกิจการและการทะนุบำรุงท้องถิ่น[9]
  • วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2516 จัดตั้งสุขาภิบาลปลักแรด ในท้องที่บางส่วนของตำบลปลักแรด[10]
  • วันที่ 14 กรกฎาคม 2521 ยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 354 วันที่ 13 ธันวาคม 2515 และจัดตั้งนิคมสร้างตนเอง ในท้องที่อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก อำเภอพรานกระต่าย อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร และอำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร[11]
  • วันที่ 16 มิถุนายน 2524 ตั้งตำบลนิคมพัฒนา แยกออกจากตำบลบึงกอก[12]
  • วันที่ 15 กันยายน 2532 ตั้งตำบลบ่อทอง แยกออกจากตำบลพันเสา[13]
  • วันที่ 12 กันยายน 2533 ตั้งตำบลท่านางงาม แยกออกจากตำบลบางระกำ[14]
  • วันที่ 1 กรกฎาคม 2534 ตั้งตำบลคุยม่วง แยกออกจากตำบลชุมแสงสงคราม[15]
  • วันที่ 25 พฤษภาคม 2542 ยกฐานะจากสุขาภิบาลบางระกำ และสุขาภิบาลปลักแรด เป็นเทศบาลตำบลบางระกำ และเทศบาลตำบลปลักแรด ตามลำดับ[16]
  • วันที่ 7 สิงหาคม 2544 กำหนดเขตตำบลบางระกำ ให้มีเขตการปกครองรวม 17 หมู่บ้าน ตำบลชุมแสงสงคราม ให้มีเขตการปกครองรวม 11 หมู่บ้าน ตำบลบึงกอก ให้มีเขตการปกครองรวม 11 หมู่บ้าน ตำบลคุยม่วง ให้มีเขตการปกครองรวม 9 หมู่บ้าน ตำบลท่านางงาม ให้มีเขตการปกครองรวม 11 หมู่บ้าน ตำบลปลักแรด ให้มีเขตการปกครองรวม 9 หมู่บ้าน ตำบลนิคมพัฒนา ให้มีเขตการปกครองรวม 12 หมู่บ้าน ตำบลหนองกุลา ให้มีเขตการปกครองรวม 20 หมู่บ้าน ตำบลพันเสา ให้มีเขตการปกครองรวม 11 หมู่บ้าน ตำบลบ่อทอง ให้มีเขตการปกครองรวม 10 หมู่บ้าน และตำบลวังอิทก ให้มีเขตการปกครองรวม 8 หมู่บ้าน[17]

แหล่งที่มา

WikiPedia: อำเภอบางระกำ //tools.wmflabs.org/geohack/geohack.php?pagename=%... http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2460/A/... http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2472/A/... http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2481/D/... http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2482/A/... http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2490/D/... http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2499/D/... http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2515/A/... http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2515/D/... http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2516/D/...