ประวัติ ของ อำเภอพังโคน

อำเภอพังโคน เดิมคือ เมือง”จัมปาชนบท” โดยตามประวัติกล่าวว่า ชาวภูไทอพยพมาจากเมืองวังฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง พากันมาตั้งบ้านเรือน ใช้ชื่อว่า “บ้านจัมปา” อันเป็นนามของดอกไม้ (บ้านจัมปา ซึ่งปัจจุบันคือ บ้านนาเหมือง หมู 2 ตำบลพังโคน) โดยมีท้าวแก้ว เป็นหัวหน้า

ต่อมาปี พ.ศ. 2420 เป็นปีที่ 10 ในรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ยกบ้านจัมปาขึ้นเป็น เมืองจัมปาชนบท ขึ้นตรงกับเมืองสกลนครและโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้ ท้าวแก้ว วงศ์ประทุม เป็นพระบำรุงนิคมเขต เจ้าเมืองจัมปาชนบท

พระบำรุงนิคมเขต เจ้าเมืองจัมปาชนบท เป็นผู้มองกาลไกล จึงได้ชักชวนชาวบ้านกรมการที่อยู่ในเขตแดนเมืองจัมปาชนบท ให้ทำนาเป็นอาชีพ ตัวท่านและครอบครัว ก็ทำนาเป็นตัวอย่างแก่ราษฎรทั้งหลาย ที่นาของท่านอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศเหนือ “หนองสิม” เรียกว่า “ทุ่งนาเหมือง” มาจนถึงปัจจุบัน

เมื่อครั้น พระบำรุงนิคมเขต(แก้ว) เป็นเจ้าเมืองอยู่นั้น มีกรมการเมือง ประกอบด้วย อุปราช(อุปฮาด) ราชวงศ์ ราชบุตร นอกจากนั้นยังมีตำแหน่งเมืองซ้าย เมืองขวา เมืองฮาม เมืองแสน เมืองจันทน์ ต่อมา มีการยุบเมืองให้เป็นเป็นอำเภอ เจ้าเมืองเปลี่ยนเป็น นายอำเภอ อุปราชหรืออุปฮาด เป็นปลัดอำเภอ ราชวงศ์ เป็นสมุห์บัญชี-อำเภอ และราชบุตร เป็นเสมียนอำเภอ

พระบำรุงนิคมเขต(แก้ว) เป็นต้นตระกูล “วงศ์ประทุม” เมื่อถึงแก่กรรม ท้าวคำไข ตำแหน่งอุปราช(อุปฮาด) บรรดาศักดิ์ที่พระประทุมเทวาพิทักษ์ ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เป็นเจ้าเมืองจัมปาชนบท ในบรรดาศักดิ์ที่ พระบำรุงนิคมเขต (คำไข) สืบต่อมา

ครั้นเมื่อ พ.ศ. 2445 มหาอำมาตย์โท พระยามหาอำมาตย์ธิบดี ปลัดทูลฉลองกระทรวงมหาดไทย ได้มาตรวจราชการ จึงได้สั่งเปลี่ยนแปลงาเขตการปกครองหัวเมืองเสียใหม่คือ บรรดาหัวเมืองต่าง ๆ ที่มีอาณาเขตใกล้ชิดกัน ให้ยุบลงเป็นอำเภอหรือยุบไปขึ้นกับอำเภอที่มีอาณาเขตใกล้ชิดกัน เมืองจัมปาชนบท อยู่ใกล้กับอำเภอพรรณนานิคมก็ให้ยุบโอนขึ้นกับอำเภอพรรณนานิคม

ต่อมาทางราชการได้สร้างทางหลวงแผ่นดินสายอุดรธานี – สกลนคร – นครพนม เส้นทางนี้ได้ตัดผ่านศูนย์กลางบ้านดอนพังโคน (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22 กิโลเมตรที่ 107) ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองจัมปาชนบทไปทางทิศเหนือ ประมาณ 1 กิโลเมตร จึงได้มีบรรดาชาวเมืองจัมปาชนบท พากันอพยพบ้างเมืองมาอยู่ตามแนวสองข้างทางเรียกว่า “บ้านพังโคน” หรือบ้านดอนพังโคน” ปัจจุบันมีสี่แยกทางสาย 22 ตัดกับสาย 222 และ227 ชาวบ้านเรียกสี่แยก 2 วา เนื่องจากแยกไปทางทิศเหนือ คือ อำเภอวานรนิวาส และทิศใต้ คือ อำเภอวาริชภูมิ อำเภอพังโคน

เมื่อปี พ.ศ. 2511 กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศจัดตั้งกิ่งอำเภอพังโคน โดยแบ่งท้องที่ตำบลม่วงไข่ ตำบลแร่ และตำบลไฮหย่อง แยกจากอำเภอพรรณนานิคม ทั้งนี้มีพ่อค้าประชาชนชาวอำเภอพัง-โคนได้ร่วมบริจาคเงินซื้อที่ดินจำนวน 35 ไร่ ให้เป็นสถานที่ตั้งที่ว่าการอำเภอ และศูนย์ราชการกิ่งอำเภออยู่ห่างจากสี่แยก 2 วา ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 1 กิโลเมตร เมื่อท้องที่กิ่งอำเภอพังโคนเจริญขึ้น ทางราชการจึงมีพระราชกฤษฎีกา ยกฐานะกิ่งอำเภอพังโคน เป็น “อำเภอพังโคน” โดยแบ่งเขตการปกครอง ออกเป็น 5 ตำบล