ประวัติ ของ อำเภออากาศอำนวย

ความเป็นมาของอำเภออากาศอำนวย (เริ่มปรากฏหลักฐาน ในสมัยรัชกาลที่ 4) พ.ศ. 2396 สารตราเจ้าพระยาจักรี มาถึงอุปฮาด ราชวงศ์ ราชบุตร ท้าวเพี้ย เมืองนครพนม พระแก้วโกมลเรณูนคร พระอุทัยพระเทศเจ้าเมืองรามราช หลวงเอกอาษาเจ้าเมืองอาทมาต ความว่า เนื่องจากพระยาสุนทรราชวงศาเจ้าเมืองยศสุนทร เมืองนครพนม ได้พาท้าวศรีสุราช ท้าวจันทนาม ท้าวนามโคตร ครอบครัวท้าวติวซอยบ้านหอมท้าวลงไปกรุงเทพฯรับน้ำพิพัฒน์สัจจาและ เนื่องจากท้าวศรีสุราช ท้าวติวซอย ตั้งอยู่แขวงเมืองสกลนครไม่สมัครอยู่กับพระยาประเทศธานีเมืองสกลนคร ขอสมัครขึ้นต่อเมืองนครพนม พระสุนทรราชวงศา จึงให้ครอบครัวไปตั้งบ้านเรือนอยู่บ้านม่วงลำน้ำยามซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเขตแดนเมืองไชยบุรี สกลนคร นครพนม มีจำนวนพระสงฆ์ สามเณร คนชรา 109 คน ท้าวเพี้ย 109 คน ฉกรรจ์ 246 คน รวม 464 คน รวมชายหญิงใหญ่น้อย เป็นคน 2,339 คน พระสุนทรราชวงศา จึงขอยกบ้านม่วงเป็นเมืองอากาศอำนวย ขอท้าวศรีสุราชเป็นเจ้าเมือง ท้าวชาบัณฑิตเป็นอัครฮาด ท้าวจันทนามเป็นอัครวงศ์ ท้าวนามโคตรเป็นวรบุตร จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกบ้านม่วงเป็นเมืองอากาศอำนวย และพระราชทานให้ท้าวศรีสุราชเป็นหลวงพลานุกูล ท้าวจันทนามเป็นราชวงศ์ ท้าวนามโคตรเป็นวรบุตร พร้อมทั้งเครื่องยศตามตำแหน่ง โปรดเกล้าฯให้มีสารถึงเมืองหนองหาร เมืองสกลนคร เมืองไชยบุรี ให้แบ่งเขตแดนให้เมืองอากาศอำนวย แล้วให้มีใบบอกรายงานไปยังกรุงเทพฯ

พ.ศ. 2400 พวกไทยโย้ย กรมการเมืองสกลนคร ได้แตกแยกออกเป็นสองพวก พวกหนึ่งไปร้องสมัครขอเป็นเมืองขึ้นเมืองยโสธร มีนายจารคำเป็นหัวหน้า อีกพวกหนึ่งขอเป็นเมืองขึ้นกับเมืองนครพนมมีเพี้ยติ้วซอยเป็นหัวหน้า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายจารคำเป็นหลวงประชาราษฎร์รักษา เพี้ยติ้วซอยเป็นหลวงพลานุกูล ยกบ้านม่วงน้ำยามเป็นเมืองอากาศอำนวย ขึ้นกับเมืองนครพนม หลวงพลานุกูลเป็นเจ้าเมือง

พ.ศ. 2400 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 4) โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งท้าวศรีสุราชเป็นเจ้าเมืองอากาศอำนวย

พ.ศ. 2404 ทางเมืองนครพนม ได้มีใบบอกไปยังกรุงเทพฯว่า หลวงพลานุกูลเจ้าเมืองอากาศอำนวย ได้ถึงแก่กรรม ณ วันเดือน 6 แรม 13 ค่ำ ปีระกา ตรีศก (7 พฤษภาคม 2404) ได้ให้อัครฮาด ท้าวเพี้ย เมืองอากาศอำนวย เอาศพหลวงพลานุกูล ใส่หีบแล้วทำบุญให้ทานเป็นการกุศลทุกเพลา จนถึงวันเผาศพ ณ วันเดือน 7 ขึ้น 10 ค่ำ ปีระกา ตรีศก พ.ศ. 2406 โปรดเกล้าฯแต่งตั้งอัครฮาดเป็นหลวงพลานุกูล เจ้าเมืองอากาศอำนวย ท้าวศรีสุราชเป็นอัครฮาดเมืองอากาศอำนวยแทนตำแหน่งที่ว่าง

พ.ศ. 2456 มหาอำมาตย์โทพระยามหาอำมาตยาธิบดี รองเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย มาตรวจราชการเมืองสกลนคร ให้ยุบอำเภอวาริชภูมิแล้วแบ่งท้องที่อำเภอวาริชภูมิไปขึ้นอยู่ในความปกครองของอำเภอพรรณานิคม 3 ตำบล และยุบอำเภอกุสุมาลย์แล้วโอนท้องที่อำเภอกุสุมาลย์มาขึ้นกับอำเภอเมืองสกลนครและขึ้นกับอำเภอเมืองนครพนมด้วย นอกจากนี้ยังยุบอำเภออากาศอำนวยแล้วโอนท้องที่ไปขึ้นกับอำเภอวานรนิวาส แขวงเมืองสกลนคร และขึ้นกับอำเภอท่าอุเทน แขวงเมืองนครพนมด้วย

พ.ศ. 2459 ทางราชการได้เปลี่ยนคำว่า " เมือง " มาเป็นคำว่า " จังหวัด " ทั่วมณฑลในประเทศไทย คือเมืองสกลนคร ให้เรียกว่า "จังหวัดสกลนคร" เรียกรวมทั้งแขวงว่า จังหวัด

พ.ศ. 2469 ได้มีประกาศตั้งกิ่งอากาศอำนวย อำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม ยก 7 ตำบลมี นาหว้า บ้านข่า บ้านเสียว สามผง บ้านแวง นาทม บ้านแพงเป็นกิ่งกิ่งอากาศอำนวย อำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม ภายหลังเปลี่ยนเป็นกิ่งบ่อศรีสงครามก่อนที่จะเป็น (อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนมในปัจจุบัน)

พ.ศ. 2476 มีการแบ่งเขตการปกครองจังหวัดสกลนคร เป็น 4 อำเภอ และ 1 กิ่งอำเภอ

ในรัชกาลที่ 9 ปัจจุบัน พ.ศ. 2506 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรี มาตรวจราชการที่ภาคอีสาน และมาตรวจเยี่ยมที่ตำบลอากาศด้วย ได้พิจารณาเห็นว่า ตำบลอากาศ ตำบลวาใหญ่ ตำบลโพนงาม และตำบลโพนแพง รวม 4 ตำบล มีราษฎรตั้งอยู่หนาแน่นพอที่จะตั้งเป็นกิ่งอำเภอได้ จึงได้ยกฐานะขึ้นเป็นกิ่งอำเภอขึ้นกับอำเภอวานรนิวาส 15 พฤษภาคม 2506 เนื่องจากสาเหตุที่ได้มีการจับกุมผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ จำนวน 21 คน ในท้องที่ตำบลอากาศ ฉะนั้น จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์ จึงสั่งให้ตั้งเป็นกิ่งอำเภอเป็นกรณีพิเศษ โดยมีนายสุพจน์ ไชยเชษฐ์ เป็นหัวหน้ากิ่งอำเภอคนแรก โดยยกฐานะตำบลอากาศ ตำบลวาใหญ่ ตำบลโพนงามและตำบลโพนแพง รวม 4 ตำบล เป็นกิ่งอำเภออากาศอำนวย ขึ้นกับอำเภอวานรนิวาส 2 กรกฎาคม 2508 กระทรวงมหาดไทย ประกาศยกฐานะกิ่งอำเภออากาศอำนวย ขึ้นเป็นอำเภออากาศอำนวย ตามพระราชกฤษฎีกา กรมการปกครองได้จัดสรรงบประมาณ 7,872,000 บาท เพื่อก่อสร้างที่ว่าการอำเภอหลังใหม่ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543