การถกเถียง ของ อิลยา_แกร็ด

ช่วง ค.ศ. 2009 ในการแข่งขันมวยไทยในเอเชี่ยนมาร์เชี่ยลอาร์ทเกมส์ที่กรุงเทพฯ แกร็ดได้พบกับเพื่อนที่เป็นนักมวยไทยและกัปตันทีมมวยไทยของอิหร่าน มุสตาฟา อับดุลลาฮี แม้จะมีวาทกรรมทางการเมืองระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง แต่ทั้งสองต่างก็กลายมาเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็ว และเริ่มฝึกฝนด้วยกัน ตลอดจนทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงประจำมุมสำหรับรายการอื่นๆ เว็บไซต์ของสมาพันธ์มวยไทยยังได้เผยแพร่เรื่องดังกล่าว แต่ก็ได้ลบออกภายหลังจากการประท้วงของอิหร่าน[2]

ใน ค.ศ. 2011 แกร็ดกลายเป็นนักมวยชาวอิสราเอลคนแรกที่เข้าสู่ประเทศมาเลเซียอย่างถูกต้องตามกฎหมายภายหลังจากการได้รับเชิญเข้าร่วมรายการเรียลลิตีของเอเอ็กซ์เอ็นเอเชียในชุด "เดอะชาเลนเจอร์มวยไทย" ที่นำเสนอเรื่องราวการต่อสู้ของนักมวยไทยจากนานาประเทศ มาเลเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีชาวมุสลิมเป็นส่วนใหญ่ได้ทำการห้ามชาวอิสราเอลเข้าประเทศอย่างเป็นทางการ เมื่อเขามาถึงที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์ แกร็ดได้ถูกกักตัวเป็นระยะเวลา 25 ชั่วโมง แต่ในท้ายที่สุดก็ได้รับอนุญาตเข้าประเทศจากการแทรกแซงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกีฬามาเลเซีย[1] ในระหว่างการแข่งขันครั้งแรกของเขา ทางโปรดิวเซอร์ได้ร้องขอให้เขาถือธงรัสเซียซึ่งเป็นถิ่นที่เขาเกิด แต่เขาไม่ยินยอมและเขาบอกว่าต้องการที่จะกลับบ้านหากต้องการเช่นนั้น ทางโปรดิวเซอร์จึงอนุญาตให้เขาใช้ธงชาติอิสราเอล เมื่อเขาเข้าสู่สังเวียน ผู้ชมในท้องถิ่นได้โห่ใส่เขา แกร็ดได้พบกับนักสู้ชาวฝรั่งเศสซึ่งมีนามว่าอันทวน เซ้งบ๊อกซิ่ง แต่แล้วเขาก็เป็นฝ่ายแพ้คะแนน โดยกรรมการชาวมาเลเซียสองคนได้โหวตให้ฝ่ายตรงข้าม ส่วนกรรมการชาวไทยทำการโหวตให้แก่เขาเนื่องด้วยเห็นชอบ ซึ่งแกร็ดเชื่อว่าเขาควรเป็นผู้ชนะจากการสู้ครั้งนี้เช่นเดียวกับพี่เลี้ยงของเขา และเชื่อว่าเกมการเมืองมีผลต่อการตัดสินในครั้งนี้[1]

ผมฟันศอกใส่เขาที่เข้าหาและเฉือนคิ้วของเขาได้ เมื่อผมเห็นเลือดไหลบนใบหน้าของเขา ผมก็ได้รุกไปข้างหน้า และในช่วงการกอดคอผมได้ใช้ศอกชุดใหญ่ และเห็นการบวมปูดขึ้นที่หน้าผากของเขาอย่างช้าๆ แต่ละยกทั้งหมดล้วนมาจากฝีมือของผมและผมสามารถพิสูจน์ได้ว่าได้สร้างผลงานไว้ สำหรับส่วนที่เหลือของการต่อสู้ผมบอกได้เลยว่าผมเป็นผู้อยู่กลางสังเวียนและอันทวนเป็นฝ่ายพิงเชือกเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งผมเป็นฝ่ายเตะเข้ากลางลำตัวอยู่บ่อยครั้ง เมื่อการต่อสู้ยุติลง ซึ่งดูเหมือนไม่เป็นเรื่องง่าย ผมไม่ได้มีอาการบาดเจ็บทางกาย ไม่เคยสูญเสียเรี่ยวแรง และไม่เคยเป็นฝ่ายพิงเชือกเพื่อตั้งรับ ผมรู้สึกเป็นฝ่ายคุมเกมตลอดการแข่งขันด้วยซ้ำ[4]

หลังจากการต่อสู้ แกร็ดได้เดินเข้าหาบรรดาผู้เข้าชมซึ่งได้ขอโทษที่ทำการเยาะเย้ยเขา และกล่าวถึงแกร็ดโดยพวกเขาคิดว่าแกร็ดน่าจะเป็นฝ่ายชนะจากการแข่งขัน[1]