พระราชินีแห่งเยอรมนี ของ อีดจิธแห่งเวสเซ็กซ์_สมเด็จพระราชินีแห่งเยอรมนี

คู่สามีภรรยาหนุ่มสาวได้เดินทางไปยังไรน์ลันท์ พระเจ้าไฮน์ริชได้ประกาศชื่อออทโทเป็นทายาทของพระองค์ในช่วงปี ค.ศ. 927–929 อีดจิธได้ให้กำเนิดพระโอรสนามว่าลิวดอลฟ์ในปี ค.ศ. 930 และพระธิดานามว่าลิวด์การ์ดในปี ค.ศ. 931 หลังพระบิดาสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 936 ออทโทได้รับการสวมมงกุฎเป็นกษัตริย์แห่งเยอรมนีที่อาเคิน

เกิดความตึงเครียดขึ้นระหว่างออทโทและอีดจิธกับมาทิลดา พระมารดาของออทโท เมื่อสองสามีภรรยาได้ยึดสินเดิมของมาทิลดาและบีบให้พระนางออกจากราชสำนักไปเกษียณตัวอยู่ในที่ดินของพระนางเอกที่เวสต์ฟาเลีย มาทิลดาที่ไม่เคยได้รับการสวมมงกุฎอาจไม่พอใจอีดจิธที่ได้รับการเจิมน้ำมันศักดิ์สิทธิ์เป็นพระราชินี มาทิลดาได้ให้การสนับสนุนไฮน์ริช พระโอรสซึ่งเป็นพระอนุชาของพระเจ้าออทโทในช่วงเวลาแห่งความขัดแย้งภายในครอบครัวในคริสตทศวรรษ 940 จนเป็นเหตุให้เกิดความไม่ลงรอยกัน อีดจิธได้เข้ามาเป็นคนกลางช่วยให้มาทิลดากับออทโทคืนดีกันได้ในปี ค.ศ. 941 แต่มาทิลดาก็ไม่ได้กลับมาที่ราชสำนักจนกระทั่งอีดจิธสิ้นพระชนม์

ขณะดำรงตำแหน่งเป็นพระราชินี อีดจิธได้สร้างประโยชน์ให้แก่ราชวงศ์ลิวดอลฟิงในหลายๆ ด้าน การเป็นพระมารดาของทายาทในบัลลังก์ทำให้พระองค์มีบทบาทสำคัญ ทรงยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยวในกฎบัตรที่พระราชทานที่ดิน, อภิสิทธิ์ และของกำนัลมากมายให้แก่อารามโปรดของพระองค์และอนุสรณ์สถานแด่สตรีศักดิ์สิทธิ์และนักบุญ ทรงบริหารจัดการครัวเรือนหลวง การมีมัคเดอบวร์คเป็นส่วนหนึ่งในสินเดิมติดตัวทำให้ทรงมีบทบาทในการเมืองการปกครองของชาวแฟรงก์ พระองค์กับพระสวามีร่วมกันพัฒนามัคเดอบวร์คให้เป็นศูนย์กลางแห่งความทรงจำและเป็นสุสานฝังศพของครอบครัว พระองค์ยังคงติดต่อกับพระขนิษฐาในบูร์กอญ, กับอังกฤษ และกับพระเชษฐาต่างมารดา

อีดจิธสิ้นพระชนม์อย่างกระทันหันเมื่อวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 946 ร่างของพระองค์ถูกฝังที่อาสนวิหารในมัคเดอบวร์ค เมื่อจักรพรรดิออทโทสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 973 ร่างของพระองค์ถูกฝังเคียงข้างพระนาง ลิวดอลฟ์ พระโอรสของพระนางสิ้นพระชนม์ก่อนพระบิดา แต่พระปนัดดาของพระนางกลายเป็นจักรพรรดิคอนราดที่ 2 ผู้สถาปนาตั้งราชวงศ์ซาเลียนแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์