สมเด็จพระราชินีแห่งสกอตแลนด์ ของ อียอล็องด์แห่งเดรอ

อียอล็องด์สมรสช้าเมื่อเทียบกับคนในยุคนั้น ทรงอภิเษกสมรสในช่วงปลายวัยรุ่นหรือในวัยยี่สิบต้น ๆ กับพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 3 แห่งสกอตแลนด์ซึ่งเป็นม่ายหลังพระมเหสีคนแรกคือเจ้าหญิงมาร์กาเร็ต พระธิดาของพระเจ้าเฮนรีที่ 3 สิ้นพระชนม์ไปในปี ค.ศ. 1274 พระโอรสสองคนของทั้งคู่ต่างก็สิ้นพระชนม์ในช่วงต้นปี ค.ศ. 1283 พระเจ้าอเล็กซานเดอร์จึงต้องการทายาทชาย พระองค์ได้เริ่มมองหาพระมเหสีที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและในวันที่ 14 ตุลาคม ค.ศ. 1285 พระเจ้าอเล็กซานเดอร์วัย 44 พรรษาได้อภิเษกสมรสกับอียอล็องด์วัย 22 พรรษาที่วิหารเจดบะระ ว่ากันว่ามารี เดอ กูซี พระมารดาของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์อาจมีส่วนในการคลุมถุงชนครั้งนี้

ห้าเดือนต่อมาเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นในวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 1286 หลังการประชุมสภาที่จัดขึ้นโดยกษัตริย์ที่ปราสาทเอดินบะระ พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 3 ได้ขี่ม้าเดินทางกลับโดยไม่ฟังคำทัดทานให้เดินทางในเช้าวันถัดไป ด้วยพระองค์ต้องการกลับไปฉลองวันเกิดให้อียอล็องด์ที่ปราสาทคิงฮอร์นในไฟฟ์ พระองค์พร้อมกับเด็กรับใช้สามคนและผู้นำทางท้องถิ่นสองคนได้เดินทางท่ามกลางความมืดและสภาพอากาศที่เลวร้าย พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ได้พลัดหลงกับคณะผู้ติดตาม เช้าวันรุ่งขึ้นร่างของพระองค์ถูกพบที่บริเวณชายฝั่งเพ็ตตีเคอร์ในสภาพคอหัก คาดกันว่าระหว่างควบม้าไปตามแนวชายฝั่ง ม้าของพระองค์อาจสะดุดทรายจนทำให้ทรงพลัดลงมาคอหักสิ้นพระชนม์ อียอล็องด์กับพระเจ้าอเล็กซานเดอร์สมรสกับได้เพียง 4 เดือนกับ 14 วัน นับเป็นการสมรสที่สั้นที่สุดของพระมหากษัตริย์สกอตแลนด์

การสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์นำไปสู่จุดจบของ "ยุคทอง" ในประวัติศาสตร์สกอตแลนด์และส่งผลให้เกิดวิกฤตการสืบทอดบัลลังก์อันนำไปสู่สงครามประกาศอิสรภาพจากอังกฤษ หลังกษัตริย์สิ้นพระชนม์ อียอล็องด์ได้ย้ายไปอยู่ที่ปราสาทสเตอร์ลิงและได้ประกาศว่าพระนางกำลังตั้งครรภ์ คณะขุนนางได้ประชุมกันเพื่อถกเถียงเรื่องวิกฤตการสืบทอดบัลลังก์ในวันที่ 28 เมษายนและได้รับปากว่าพระราชบุตรที่เกิดจากอียอล็องด์จะได้ครองบัลลังก์หากเกิดมาเป็นพระโอรส ทว่าอียอล็องด์กลับสูญเสียพระราชบุตรอาจจะด้วยการแท้งหรือไม่ทารกน้อยก็อาจจะสิ้นพระชนม์ในตอนคลอดหรือหลังจากคลอดได้ไม่นาน สภาจึงได้สาบานตนจงรักภักดีต่อมาร์กาเร็ต พระนัดดาของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์