ช่วงแรกของพระชนม์ชีพ ของ อี้ซิน

ทรงได้รับการเลี้ยงดูโดย จูปิงเทียน และ เจียเจิน และเป็นที่รู้ว่าทรงค่อนข้างขยันและร่างเริง เมื่อจักรพรรดิเต้ากวงทรงเลือกรัชทายาท ทรงเลือกไม่ถูกว่าจะทรงเลือกเจ้าชายอี้ชินหรือเจ้าชายอี้จู่ (ต่อมาคือจักรพรรดิเสียนเฟิง) แต่ในที่สุดทรงเขียนพินัยกรรมลับประกาศรัชทายาท สามปีต่อมาจักรพรรดิเต้ากวงทรงรับสั่งสร้างสุสานสำหรับพระมารดาของเจ้าชายอี้ซิน และรับสั่งให้ฝังหลังพระนางสิ้นพระชนม์ ส่อให้เห็นว่าทรงจะไมเลือกอี้ซินเป็นรัชทายาทแน่นอน (ซึ่งตามธรรมเนียมของราชวงศ์ชิงคือ เมื่อพระจักรพรรดินีทรงสิ้นพระชนม์ก่อนพระราชสวามี จะไม่มีการฝังพระศพจนกว่าพระราชสวามีจะทรงเสด็จสวรรคต จึงจะฝังพร้อมกัน ซึ่งพระจักรพรรดิจะทรงแต่งตั้งพระราชมารดาให้เป็นพระจักรพรรดินีหลังพระราชมารดาทรงสิ้นพระชนม์)

เดือนกุมภาพันธ์ ปี 1850 ก่อนจักรพรรดิเต้ากวงทรงเสด็จสวรรคต ทรงเปิดเผยพินัยกรรมลับพระองค์ที่ทรงพระอักษรในปี 1846 ซึ่งระบุให้เจ้าชายอี้จู่ขึ้นเป็นรัชทายาท ส่วนเจ้าชายอี้ซินเป็นกงชินหวัง (อ๋องชั้นเอก) และสมรสกับบุตรสาวของกุ้ยเหลียง ซึ่งมาจากสกุล กูวาลจียา ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากเอ๋าป้าย หลายๆคนมองว่าพระจักรพรรดิเต้ากวงทรงสนับสนุนกงหวัง แต่จริง ๆ ทรงทำไปเพื่อ "ชดเชย" การที่กงหวังเสียตำแหน่งรัชทายาทให้เจ้าชายอี้จู่