สัตว์ประหลาดและมนุษย์ต่างดาว ของ อุลตร้าแมนทริกเกอร์_นิวเจนเนอเรชั่นทีก้า

มนุษย์ยักษ์แห่งความมืด

กลุ่มชนเผ่านักรบยักษ์ฝ่ายมืด ที่มีข้อมูลบันทึกในศิลาจารึกเมื่อ 30 ล้านปีก่อน เป็นผู้บุกรุกทำลายอารยธรรมโบราณเพื่อตามหาขุมพลัง อีเทอร์นิตี้คอร์ แต่ทริกเกอร์ และกลุ่มผู้พิทักษ์โลกได้ทำการต่อต้านและผนึกเหล่ามนุษย์ยักษ์ไว้ในสถานที่ต่าง ๆ ที่ห่างไกลกัน พวกเขามีความสามารถในการเรียกสัตว์ประหลาดแห่งความมืด โดยการกระตุ้นด้วยพลังจิต ปกติจะสื่อสารกันเองในเผ่าพันธุ์ด้วยภาษาชาวอุลตร้าโบราณ แต่ก็สามารถพูดภาษามนุษย์ได้เช่นกัน

นักรบทรงเสน่ห์ คาร์มิลล่า (妖麗戦士カルミラ)พากย์เสียงและแสดงโดย อุเอะซากะ สุมิเระ (上坂 すみれ) [1][2]
  • ความสูง: 49 เมตร [1][2]
  • น้ำหนัก: 39,000 ตัน [1][2]
นักรบหญิงผู้นำของมนุษย์ยักษ์แห่งความมืด มีพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งและทรงพลัง เน้นทักษะด้านลำแสง แต่ในด้านพลังกายและความเร็วจะน้อยกว่ามนุษย์ยักษ์แห่งความมืดอีก 2 ตนในกลุ่ม มีแส้ลำแสง คาร์มิลล่าวิป และ กระบองแสง คาร์มิลล่าบาทอน เป็นอาวุธประจำกาย[1][2] คาร์มิลล่า เป็นมนุษย์ยักษ์แห่งความมืดตนแรกที่ปรากฏตัวขึ้น หลังหลุดจากผนึก ขณะล่องลอยอยู่ในอวกาศในสภาพรูปปั้นหิน เธอมีความแค้นต่อทริกเกอร์เป็นอย่างมาก ซึ่งสาเหตุยังไม่เปิดเผย เธอบุกมาที่ดาวอังคารเพื่อค้นหาร่างของทริกเกอร์ พร้อมเรียกสัตว์ประหลาด โกลบ้า มาทำลายร่างทริกเกอร์ไปพร้อม ๆ กับชาวโลกที่อาศัยบนดาวอังคาร กระทั่งพบเข้ากับเค็นโกะ ก่อนที่เขาจะรวมร่างกับทริกเกอร์ และเกิดการต่อสู้ขึ้น ภายหลังเผยว่า เธอกับทริกเกอร์มีความสัมพันธ์กันแบบคู่รัก เธอจึงเคียดแค้นต่อเค็นโกะที่มาเปลี่ยนให้ทริกเกอร์เป็นตัวแทนแสงสว่างแห่งความถูกต้อง และหาทางทำให้ทริกเกอร์กลับสู่ด้านมืดอีกครั้ง ซึ่งก็ทำสำเร็จในตอนที่ 11 แต่เค็นโกะก็สามารถพาทริกเกอร์กลับมายังด้านสว่างได้อีกครั้งในตอนที่ 12 นอกจากนี้ในตอนที่ 15 คาร์มิลล่าเผยให้เห็นว่าเธอสามารถจำแลงร่างเป็นมนุษย์ได้ ซึ่งเธอใช้ร่างนี้ลอบเข้าเขตปฏิบัติการของ GUTS-Select โดยมีลักษณะเป็นหญิงสาวในชุดเดรสสีดำสนิทนักสู้จอมพลัง ดาร์กอน (剛力闘士ダーゴン)พากย์เสียงโดย มากิ ชุนอิจิ (真木 駿一) [1][2]
  • ความสูง: 62 เมตร [1][2]
  • น้ำหนัก: 68,000 ตัน [1][2]
หนึ่งใน 3 มนุษย์ยักษ์แห่งความมืด ที่คาร์มิลล่าปลุกชีพขึ้น ขณะถูกผนึกที่ดาวเคราะห์แห่งหนึ่ง ในสภาพหัวปักดิน เป็นขุนศึกที่ชอบการต่อสู้อย่างยุติธรรม มักเข้าเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายแบบซึ่ง ๆ หน้า ด้วยการต่อสู้แบบเน้นพละกำลัง แต่ต้องแลกด้วยความเร็วในการเคลื่อนที่อันน้อยนิด ท่าไม้ตายคือ ไฟเยอร์บีทครัชเชอร์ ท่าที่รวมพลังไว้ที่หมัด แล้วยิงคลื่นกระแทกของเปลวเพลิงพุ่งขนานไปกับพื้นดินและระเบิดใส่ศัตรู[1][2] จุดมุ่งหมายของเขามีเพียงแค่ ประลองกับทริกเกอร์อย่างตรงไปตรงมาเท่านั้น ในตอนที่ 5 หลังจากโดนยูนะต่อว่า และตบหน้าเข้าให้ 1 ฉาด ดาร์กอนก็ชะงักไปและเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างในใจตั้งแต่นั้นมา จนกระทั่งในตอนที่ 10 ได้เผยว่าดาร์กอนหลงรักยูนะหลังจากที่โดนตบหน้า ทำให้เขาเริ่มติดตามยูนะไปแทบทุกที่ทุกเวลา รวมถึงได้ปกป้องยูนะจากการถูกโจมตีของสัตว์ประหลาดในบางครั้ง แม้จะดูเหมือนคนชอบใช้กำลัง แต่ภายใต้ความตึงเครียดในการต่อสู้ ดาร์กอนคือคนที่สุขุมที่สุดในกลุ่มนักวางแผนจอมปราดเปรียว ฮิวดรัม (俊敏策士ヒュドラム)พากย์เสียงโดย ทาคาฮาชิ เรียวสุเกะ (高橋 良輔) [1][2]
  • ความสูง: 57 เมตร [1][2]
  • น้ำหนัก: 52,000 ตัน [1][2]
หนึ่งในมนุษย์ยักษ์แห่งความมืด เชี่ยวชาญในการต่อสู้ด้วยความเร็วสูง และการต่อสู้ที่เน้นทักษะชาญฉลาด แต่พละกำลังจะน้อยกว่ามนุษย์ยักษ์แห่งความมืดตนอื่น ๆ ท่าไม้ตายคือ ฮิวดราสต์ ท่าฟาดฟันคลื่นสูญญากาศที่ปล่อยออกจากใบมีดที่อยู่ตรงแขน [1][2] ฮิวดรัมเป็นมนุษย์ยักษ์แห่งความมืดตนแรกที่คืนชีพก่อน คาร์มิลล่า และดาร์กอน เมื่อ 100 ปีก่อน จึงได้เรียนรู้ภาษามนุษย์และศึกษาเรื่องต่าง ๆ ของมนุษย์จนรอบรู้ ต่อมาจึงเผยตัวเป็นคนที่ 3 ฮิวดรัมได้พยายามจับตัวยูนะเพื่อตามหา อีเทอร์นิตี้คอร์ แต่ถูกขัดขวางโดยอิกนิส, เค็นโกะ และ อาคิโตะ แม้ว่าภายนอกจะมีบุคลิกสุขุม พูดจาสุภาพ และดูทรงปัญญา แต่เมื่อถูกขัดขวางการต่อสู้ จะเกิดอาการหัวร้อนและบ้าคลั่ง ทำให้คาร์มิลล่า และดาร์กอน ต้องเข้ามาห้าม ฮิวดรัมมีคำอุทานติดปากคือ Excellent ซึ่งจะพูดเมื่อตนรู้สึกพึงพอใจนักรบอันธการ ทริกเกอร์ดาร์ค (闇黒勇士 トリガーダーク)[26]
  • ความสูง: 53 เมตร
  • น้ำหนัก: 44,000 ตัน
ปรากฏในตอนที่ 11 เป็นร่างดั้งเดิมของ​ทริกเกอร์ ซึ่งเป็นมนุษย์ยักษ์แห่งความมืดโดยกำเนิด มีร่างกายสีเทาดำ บริเวณไหล่ทั้งสองข้างมีครีบปลายแหลม ใบหน้าดุดัน บุคลิกเงียบขรึมไม่พูดจา มีเป้าหมายที่จะแย่งชิงอีเทอร์นิตี้คอร์เช่นเดียวกันกับพวกของ​คาร์มิลล่า ท่าไม้ตายคือ ลำแสงดาร์คเซเพเรียน (ダークゼペリオン光線)ในยุคปัจจุบันได้กลับมาอีกครั้งจากพลังเวทย์คำสาปแห่งความมืดของคาร์มิล่า​ ทำให้เค็นโกะถูกแยกตัวออกมา พร้อมทั้งพลังแห่งความมืด​ที่หลับไหลอยู่ในตัวของทริกเกอร์เกิดคืนชีพขึ้นมา จนกลายร่างเป็นทริกเกอร์ดาร์ค นักรบที่ไร้จิตวิญญาณ และอาละวาดทำลายเมืองอย่างบ้าคลั่ง ย้อนกลับไปช่วงอดีต เค็นโกะกับทริกเกอร์ดาร์คต่อสู้กันภายในจิตใจ จนกระทั่งทั้งคู่สามารถเข้าถึงจิตใจของแต่ละฝ่ายได้ ทริกเกอร์ดาร์คจึงคลายความเกรี้ยวกราด และยอมรับแสงสว่างในจิตใจ หลอมรวมจิตใจเป็นหนึ่งเดียวกัน พร้อมกับรับพลังเสี้ยวหนึ่งจากอีเทอร์นิตี้คอร์มาด้วย หลังจากนั้นเค็นโกะได้กลับมายังยุคปัจจุบันพร้อมพลังใหม่ กลิตเตอร์ทริกเกอร์อีเทอร์นิตี้ และเอาชนะตนเองในอดีตได้สำเร็จ ส่วนทริกเกอร์ดาร์คในยุคปัจจุบันได้พ่ายแพ้จนสูญสลายไป อนึ่ง ตอนที่ 12 ได้เฉลยว่า ทริกเกอร์นั่นคือตัวเค็นโกะเอง ซึ่ง เค็นโกะคือร่างอวตารมนุษย์ ที่ทริกเกอร์ส่งไปเกิดจากจิตสุดท้ายก่อนกลายสภาพเป็นรูปปั้นหินอย่างไรก็ตามอิกนิสได้ซึมซับเอาเศษเสี้ยวพลังบางส่วนของทริกเกอร์ดาร์คเอาไว้ในร่างกายก่อนที่ทริกเกอร์ดาร์คสูญสลาย โดยมีจุดประสงค์บางอย่างแอบแฝง จนกระทั่งในตอนที่ 16 อิกนิสได้นำ GUTS สปาร์คเลนส์ และ แบล็งค์ไฮเปอร์คีย์ ที่ขโมยมาจากห้องวิจัยจาก GUTS-Select ถ่ายพลังความมืดจากทริกเกอร์ดาร์คที่อยู่ในตัวดูดซับมาลงไป ทำให้เขาใช้แปลงร่างเป็นทริกเกอร์ดาร์คได้ในที่สุด ซึ่งทริกเกอร์ดาร์คตนนี้ เป็นตัวตนที่แยกมาจากตัวตนทริกเกอร์ดั้งเดิมโดยสิ้นเชิง และเมื่อใช้ไฮเปอร์คีย์สัตว์ประหลาด จะมีลักษณะที่ถูกเพิ่มเติมคือ ส่วนปากของทริกเกอร์ดาร์คจะอ้าออก เผยให้เห็นเขี้ยว และท่าทางที่เหมือนกับสัตว์ร้าย พร้อมทั้งใช้ความสามารถของไฮเปอร์คีย์สัตว์ประหลาดนั้น นอกจากนี้ยังเผยว่าสามารถใช้อาวุธ เซอร์เคิลอาร์มส์ เช่นเดียวกับทริกเกอร์ โดยสามารถใช้กับคีย์สัตว์ประหลาดได้ ท่าไม้ตายคือ อิมแพ็คซอร์ดฟินิช (インパクトソードフィニッシュ) เป็นการติดตั้งไฮเปอร์คีย์ของ ไซกอร์ก เข้ากับเซอร์เคิลอาร์มส เมื่อติดตั้งตัวใบมีดมีออร่าที่มีหนามสีแดงรอบตัวใบมีด ทว่าอิกนิสก็ยังควบคุมพลังของทริกเกอร์ดาร์คไม่ได้ และเกิดอาการคลั่งทุกครั้งที่แปลงร่างคำประกาศในการแปลงร่างของอิกนิสคือ "ความมืดสีดำ ที่ฉาบย้อมอนาคต!" (未来を染める、遅刻の闇!, มิไร โวะ โซเมะรุ ชิโคคุ โนะ ยามิ !)

สัตว์ประหลาดและมนุษย์ต่างดาวใหม่ล่าสุด

สัตว์ประหลาดสุดยอดดึกดำบรรพ์ความมืด โกลบ้า (超古代闇怪獣 ゴルバー)[26]
  • ความสูง: 65 เมตร
  • น้ำหนัก: 70,000 ตัน
ปรากฏตัวในตอนที่ 1 สัตว์ประหลาดที่ปรากฏตัวบนดาวอังคาร จากการเรียกของคาร์มิลล่า ปรากฏตัวเพื่อมาจู่โจมโดมที่ทีมสำรวจกำลังค้นหาโบราณวัตถุจากดาวอังคารอยู่ ในส่วนของรูปร่างลักษณะนั้นเป็นสัตว์ประหลาดที่รวมเอกลักษณ์ของ โกลซ่า และ เมลบ้า เข้าไว้ด้วยกัน สามารถโจมตีด้วย กระสุนแสงจากดวงตาที่ส่วนหัวเมลบาด้านหลัง และคลื่นแสงจากหน้าผากได้สัตว์ประหลาดใต้ดินดึกดำบรรพ์ โอกะกุบิล่า (古代地底獣 オカグビラ)
  • ความสูง: 66 เมตร
  • น้ำหนัก: 35,000 ตัน
ปรากฏตัวในตอนที่ 4 เดิมเป็นสัตว์ประหลาดที่อาศัยอยู่ใต้ทะเลลึก แต่วิวัฒนาการตนเองมาอาศัยอยู่ใต้ดิน ลักษณะโดยรวมเหมือนกุบิล่าดั้งเดิมทุกประการมังกรคลั่งทำลายล้าง เดสดราโก้ (破滅暴竜 デスドラゴ)[26]
  • ความสูง: 50 เมตร
  • น้ำหนัก: 60,000 ตัน
ปรากฏตัวในตอนที่ 5 เป็นสัตว์ประหลาดที่ถูกเรียกชื่อว่าเป็น สัตว์ประหลาดแห่งการเริ่มต้น (始まりの怪獣) เนื่องจากในอดีตเมื่อ 6 ปีก่อนมันปรากฏตัวขึ้นและอาละวาดทำลายเมือง เป็นเหตุให้พ่อแม่ของอาคิโตะเสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้น หลังจากนั้นประธานชิซึมะก็รับอาคิโตะมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม สังเกตได้ว่าเขาของมันถูกทำลายไปข้างหนึ่ง ซึ่งเป็นผลจากการปะทะกับกองกำลัง TPC ในอดีตเทพทำลายล้างดาวเคราะห์ ซาตานเดลอส (惑星破壊神 サタンデロス)[26]
  • ความสูง: 60 เมตร
  • น้ำหนัก: 80,000 ตัน
ปรากฏตัวในตอนที่ 6 เป็นหุ่นยนต์ที่ฮิวดรัมสร้างขึ้นและดัดแปลงมาจากข้อมูลพื้นฐานจากกิกะเดลอส มีความสามารถกางสนามพลังบาเรียที่ป้องกันการโจมตีได้ทั้ง ลำแสงและทางกายภาพ โดยทำลายพื้นที่เป็นเวลา 1 ชั่วโมง เมื่อหมดเวลาก็จะทำการพักโดยที่กางสนามพลังบาเรีย มีจุดอ่อนคือเครื่องสร้างบาเรียบริเวณหน้าอก ซึ่งทางทีม GUTS-Select จึงต้องร่วมมือกับอิกนิส เพื่อหาทางทำลายจุดอ่อนนี้มารอสูรอวกาศในตำนาน เม็ทสึออก้า (宇宙伝説魔獣 メツオーガ)[26]
  • ความสูง: 69 เมตร
  • น้ำหนัก: 69,000 ตัน
ปรากฏตัวในตอนที่ 16 เป็นสัตว์ประหลาดที่ถูกเรียกออกมาจากลูกอุกาบาตที่พุ่งชนยังโลก มีจุดเด่นคือส่วนปากขนาดใหญ่ ที่สามารถปล่อยลำแสงอานุภาพสูงและสามารถดูดกลืนกินได้หมดทุกที่มารอสูรอวกาศในตำนานใหม่ เม็ทสึโอโรจิ (新宇宙伝説魔獣 メツオロチ)[26]
  • ความสูง: 66 เมตร
  • น้ำหนัก: 66,000 ตัน
ปรากฏตัวในตอนที่ 16 เป็นมารอสูรอวกาศที่เกิดใหม่จากซากศพของเม็ทสึออก้า สามารถสร้างสนามพลังที่ใช้ดูดซึมจากส่วนที่ยื่นออกมาซึ่งอยู่ตรงด้านหลัง แล้วดูดกลืนพลังงานเข้าแล้ว พร้อมกับปล่อยลำแสงสะท้อนจากเกลียวพลังงานที่ถูกสร้างขึ้นบริเวณบนหัวของเม็ตสึโอโรจิ

สัตว์ประหลาดและมนุษย์ต่างดาวอื่นๆ

สัตว์ประหลาดดูดเลือด กิไมร่า (吸血怪獣 ギマイラ)ปรากฏตัวในตอนที่ 2 และออกอาละวาดที่ใจกลางเมือง มีอาวุธคือลิ้นที่มีรยางค์มากมาย สำหรับดูดพลังงานจากสิ่งมีชีวิตที่ตกเป็นเหยื่อของมัน หลังจากปะทะกับทริกเกอร์ ก็ถูกลำแสงเซเพเรียนยิงใส่ระยะเผาขนจนร่างระเบิดเป็นผุยผงสัตว์ประหลาดแปรรูปความมืด กาซอร์ต (変形闇怪獣 ガゾート)ปรากฏตัวในตอนที่ 3 กำเนิดมาจากกลุ่มก้อนของฝูง คริตเตอร์ สิ่งมีชีวิตที่อาศัยในชั้นบรรยากาศ ไอโอโนสเฟียร์ ซึ่งมาลูรุได้วิเคราะห์ว่า กาซอร์ตตัวนี้ แตกต่างจากกาซอร์ตโดยทั่วไป ตรงที่สร้างมาจากพลังงานความมืดของฮิวดรัม จึงมีลักษณะดวงตาเป็นสีแดงและนิสัยดุร้ายกว่าปกติสัตว์ประหลาดมาสคอตจิ๋ว เดบัน (マスコット小怪獣 デバン)ปรากฏตัวในตอนพิเศษ เป็นสัตว์ประหลาดขนาดเล็กมีช่องของตัวเองชื่อว่า เดบันแชนแนล คอยทำเนื้อหาเรื่องราวข้อมูลเกี่ยวกับวีรกรรมของนักรบอุลตร้าทั้งอดีตและปัจจุบันโจรสลัดอวกาศ มนุษย์ดาวบารอสซ่า (รุ่นที่ 4) (海賊宇宙人 バロッサ星人 (四代目))ปรากฏตัวในตอนที่ 7 เป็นน้องชายของชาวดาวบารอสซ่า ในจักรวาลที่มีอุลตร้าแมนเซตและหน่วยสโตเรจ ได้เข้ามาที่โลกมนุษย์ด้วยการขโมยหุ่นประจัญบานหมายเลข 3 คิงโจสโตเรจคัสตอม ทั้งนี้ได้มาพร้อมกับเคดาเมียร์ สัตว์ประหลาดจิ๋วที่สามารถพูดภาษามนุษย์ได้ ทั้งนี้ในการไล่ล่า บารอสซ่ารุ่นที่ 4 ได้เรียกบูลตั้นขึ้นมา เพื่อให้เซตและสเปซเซเวนเกอร์ดูดเข้าไปในยังมิติอื่น แต่ตนเองและหุ่นที่ขโมยก็พลาดท่าถูกดูดเข้าไปในประตูมิติด้วยเช่นกัน ในระหว่างช่องว่างมิติได้เข้าต่อสู้กับฮารุกิและได้ฟันอุลตร้าเซตไรเซอร์ของฮารุกิจนชำรุดและได้ขโมยเซตโฮลเดอร์ที่บรรจุอุลตร้าเมดัลซึ่งเป็นขุมพลังหลักในการแปลงร่างสัตว์ประหลาดโจรสลัดลูกเจี๊ยบ เบบี้ซานเดรียส เคดาเมียร์ (海賊雛怪獣 ベビーザンドリアス ケダミャー)ปรากฏตัวในตอนที่ 7 เป็นคู่หูของบารอสซ่ารุ่นที่ 4 เป็นสัตว์ประหลาดที่สามารถพูดภาษามนุษย์ได้ จึงทำหน้าที่ในการแปลคำพูดที่บารอสซ่ารุ่นที่ 4 พูดและสามารถสนทนาโต้ตอบได้ หลังจากบารอสซ่า รุ่นที่ 4 ถูกปราบ มันก็บินหายไปในที่สุดหุ่นประจัญบานหมายเลข 1 รุ่นปรับปรุง สเปซเซเวนเกอร์ (特空機1号改 宇宙セブンガー)ปรากฏตัวในตอนที่ 7 เป็นหุ่นเซเวนเกอร์ที่ได้รับการอัพเกรดขึ้นมา ทำให้สามารถทำการวาร์ป และออกปฏิบัติการในอวกาศได้ นักบินในขณะนั้นคือ โยโกะหุ่นประจัญบานหมายเลข 3 คิงโจสโตเรจคัสตอม (特空機3号 キングジョー ストレイジカスタム)ปรากฏตัวในตอนที่ 7 หุ่นประจัญบานที่ถูกบารอสซ่ารุ่นที่ 4 ขโมยไป และหลบหนีสู่อวกาศ กระทั่งถูกมิติของบูลต้อนส่งมายังโลกมนุษย์อีกจักรวาล โดยได้ถูกหล่นมายังในสนามกีฬาเมืองชิราฟุเนะซึ่งเป็นที่อยู่ของพวกเค็นโกะ อย่างไรก็ตามได้ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้งจากการแทรกแซงระบบเครือข่ายสื่อสารของดาด้าทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้นมา จนสุดท้ายฮารุกิจำใจด้วยการทำลายหุ่นยนต์นี้ที่ถูกดาด้าครอบงำ หลังจากที่ปราบดาด้าลงได้ เซตได้นำซากชิ้นส่วนของคิงโจสโตเรจคัสตอมมาเก็บเพื่อไปซ่อมแซมในจักรวาลของตัวเองสัตว์ประหลาดจากมิติที่สี่ บูลตั้น (四次元怪獣 ブルトン)ปรากฏตัวในตอนที่ 7 สัตว์ประหลาด 4 มิติที่เกิดจากชิ้นส่วน 2 ชิ้นที่บารอสซ่าประกอบขึ้น มีพลังในการเปิดประตูมิติและดูดกลืนศัตรูเข้าไปอมนุษย์สามหน้า ดาด้า (三面怪人ダダ)ปรากฏตัวในตอนที่ 8 สิ่งมีชีวิตลึกลับที่เข้ามาแทรกแซงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ต่างๆ ในเมืองชิราฟุเนะ รวมไปถึงได้เจาะระบบเข้าไปยัง เนิร์สเดสเซและคิงโจสโตเรจคัสตอม มี 3 รูปแบบที่ปรากฏตัวคือ PDO-3A, PDO-B และ PDO-Cทั้งนี้ดาด้าที่ปรากฏตัวนั้นมาจาก อุลตร้าแมนพาวเวิร์ด จึงมีชื่ออีกหนึ่งชื่อคือ พาวเวิร์ดดาด้า (パワードダダ)มารอสูรคำสาปศิลาแห่งความมืด การ์กอลกอน (石化闇魔獣 ガーゴルゴン)ปรากฏตัวในตอนที่ 9 เป็นสัตว์ประหลาดที่คาร์มิลล่าปลุกขึ้นมาสัตว์ประหลาดแปลงกาย ซารารัส (変身怪獣 ザラガス)ปรากฏตัวในตอนที่ 10 เป็นสัตว์ประหลาดที่อยู่ใต้ดินในเมืองคุวาฮาราชิ ถูกตื่นขึ้นมาเนื่องจากดากอนได้เหยียบสัมผัสพื้นดินที่ซารารัสหลับอยู่ มีความสามารถในการวิวัฒน์ร่างกายตนเองให้ทนต่อการโจมตีต่าง ๆ และสามารถยิงแสงความเข้มสูงจากรูตามร่างกายได้ ทางเดียวที่จะเอาชนะมันคือ โจมตีอย่างต่อเนื่องก่อนที่มันจะวิวัฒน์ตัวเองอีกครั้งแอบโซลูท ทาร์ทารัส (アブソリュートタルタロス)ปรากฏตัวในตอนที่ 14 สุดยอดมีชีวิต เผ่าแอบโซลูเทียน จาก เดอะคิงดอม นักรบร่างสีทองที่เคยประมือกับเหล่านักรบอุลตร้ามาแล้วครั้งหนึ่ง มีพลังต่อสู้ที่ร้ายกาจและทัดเทียมกับเหล่าน้กรบอุลตร้า อีกทั้งสามารถข้ามมิติเวลาไปมาได้อย่างอิสระ ปรากฏตัวต่อหน้ามนุษย์ยักษ์แห่งความมืดพร้อม ๆ กับเดียโบโล เพื่อประกาศสงครามชิงอีเทอร์นิตี้คอร์ อย่างไรก็ตามหลังจากที่เดียโบโลพ่ายแพ้ ทาร์ทารัสได้เปลี่ยนเป้าหมายจากเดิมที่ต้องการจะชิงอีเทอร์นิตี้คอร์ มาเป็นวางแผนที่จะยึดครองดินแดนแห่งแสงซึ่งเป็นที่อยู่ของเนบิวล่า M78แอบโซลูท เดียโบโล (アブソリュートディアボロ)ปรากฏตัวในตอนที่ 14 สุดยอดสิ่งมีชีวิต เผ่าแอบโซลูเทียนคนที่ 2 ที่ปรากฏตัว เป็นนักรบจอมพลังร่างสีทองผู้มีพละกำลังมหาศาล เชี่ยวชาญในวิชาเพลงหมัด มีลักษณะเด่นคือหมวกเกราะที่มีเขาอันใหญ่โต ท่าไม้ตายประจำตัวคือ โกริคิ ฮากิวเค็น (剛力破牛拳, หมัดกระทิงกัมปนาท) ในการต่อสู้บนโลกได้ปะทะกับอุลตร้าแมนทริกเกอร์จนเอาชนะได้แต่ถูกริบุทเข้ามาโจมตีไว้ แต่ว่าในครั้งที่ 2 ได้ปรากฏบนฐานทัพหลักของ TPU จากแผนการ โอปอเรชั่นดราก้อน ของ GUTS-Select โดยทำการดึงพลังงานของพลังงานอานุภาคแอบโซลูทในตัวพร้อมทั้งพวกคาร์มิลล่าที่มาช่วยเอาไว้จนทำให้แผนการสำเร็จ และได้สู้กับทริกเกอร์อีกครั้งและริบุท จนถูกกำจัดไปในที่สุด แต่ว่า แอบโซลูทฮาร์ทของเดียโบโลยังหลงเหลืออยู่ทำให้ฟื้นฟูกลับมาได้เหมือนเดิมสัตว์ประหลาดจักรกลประหลาด เดียโวลิก (奇機械怪獣 デアボリック)ปรากฏตัวในตอนที่ 14 เครื่องจักรสงครามชีวะ ที่ถูกเรียกโดยทาร์ทารัสปรากฏตัวขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับทริกเกอร์มังกรอวกาศเนิร์ส (宇宙竜ナース)ปรากฏตัวในตอนที่ 15 เป็นต้นแบบของยานเนิร์สเดสเซ ถูกเก็บไว้ในฐานที่ปฏิบัติการของ TPU

ใกล้เคียง

อุลตร้าแมนทริกเกอร์ นิวเจนเนอเรชั่นทีก้า อุลตร้าแมนเบลซาร์ อุลตร้าแมนเดกเกอร์ อุลตร้าแมน Z อุลตร้าแมนเมบิอุส อุลตร้าซีรีส์ อุลตร้าแมนซีโร่ อุลตร้าแมนจี๊ด อุลตร้าแมนทีก้า อุลตร้าแมนไดน่า

แหล่งที่มา

WikiPedia: อุลตร้าแมนทริกเกอร์_นิวเจนเนอเรชั่นทีก้า https://j-hero.com/ch7hd-cartoonweekend-2021/ https://twitter.com/ultraman_series https://www.youtube.com/watch?v=-clA3vphzCM https://www.youtube.com/watch?v=12OmXy7i9Vs https://www.youtube.com/watch?v=4rstkYu10gc https://www.youtube.com/watch?v=6TOBGDBF3Nk https://www.youtube.com/watch?v=8ixBUW0snxg https://www.youtube.com/watch?v=9nPbky3SGGE https://www.youtube.com/watch?v=A7Jdgem3h_s https://www.youtube.com/watch?v=CAkrcUTuymM