พระราชประวัติ ของ อูกมหาราช

อูกเป็นพระโอรสของพระเจ้ารอแบร์ที่ 1 แห่งฝรั่งเศสกับเบียทริซแห่งแวร์ม็องดัว บุตรสาวของแอร์แบร์ที่ 1 แห่งแวร์ม็องดัว ทรงเป็นพระภาติยะของเอิดที่ 1 เคานต์แห่งปารีส พระมารดาของพระองค์เป็นลูกหลานของจักรพรรดิชาร์เลอมาญ บุตรชายคนโตของพระองค์ คือ อูก กาแป ซึ่งกลายเป็นกษัตริย์แห่งฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 987[1] เป็นที่รู้กันว่าครอบครัวของพระองค์เป็นเชื้อพระวงศ์รอแบเตียง[2] บางครั้งพระองค์ถูกเรียกว่า "อูกขาว" เนื่องจากสีผิวที่ขาวซีด

ในปี ค.ศ. 922 เหล่าบารอนของราชอาณาจักรแฟรงก์ตะวันตกได้ก่อกบฏต่อพระเจ้าชาร์ลที่ 3 ผู้เรียบง่ายแห่งราชวงศ์การอแล็งเฌียง (ซึ่งหนีการโจมตีออกไปนอกประเทศ) และเลือกพระเจ้ารอแบร์ที่ 1 บิดาของอูกเป็นกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรแฟรงก์ตะวันตก เมื่อพระเจ้ารอแบร์ที่ 1 สิ้นพระชนม์ที่สมรภูมิซัวส์ซงส์ในปี ค.ศ. 923 อูกปฏิเสธที่จะรับบัลลังก์ มันจึงถูกส่งต่อให้กับพระเจ้ารูดอล์ฟแห่งฝรั่งเศส พระเชษฐภรรดา ทว่าพระเจ้าชาร์ลหันไปขอความช่วยเหลือในการกอบกู้บัลลังก์กลับคืนมากับแอร์แบร์ที่ 2 เคานต์แห่งแวร์ม็องดัว ลูกพี่ลูกน้องที่จับพระองค์จำคุกแทนที่จะช่วยพระองค์ แอร์แบร์ใช้นักโทษของตนเป็นเครื่องมือไล่ตามความทะเยอทะยาน ด้วยการข่มขู่ว่าจะปล่อยตัวพระเจ้าชาร์ลจนกระทั่งพระองค์สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 929[3] จากนั้นแอร์แบร์ที่ 2 แห่งแวร์ม็องดัวก็ต่อสู้กับพระเจ้ารูดอล์ฟและอูกมหาราช ข้าราชบริพารของกษัตริย์ ท้ายที่สุดพระเจ้ารูดอล์ฟกับแอร์แบร์ที่ 2 ก็บรรลุข้อตกลงร่วมกันในปี ค.ศ. 935[4]

ในปี ค.ศ. 936 เมื่อพระเจ้ารูดอล์ฟสิ้นพระชนม์ อูกได้ควบคุมอาณาเขตทั้งหมดที่ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำลัวร์กับแม่น้ำเซน ยกเว้นอาณาเขตที่ถูกยกให้ชาวนอร์มันในปี ค.ศ. 911[5] ทรงมีบทบาทสำคัญที่ทำให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 4 เดินทางกลับมาจากอังกฤษในปี ค.ศ. 936[6] แต่ในปีเดียวกันนั้นเมื่อทรงแต่งงานกับเฮดวิกแห่งซัคเซิน พระธิดาของพระเจ้าไฮน์ริชที่ 1 นักล่านกแห่งราชอาณาจักรแฟรงก์ตะวันออก (เยอรมนี) และพระขนิษฐาของจักรพรรดิออทโทที่ 1 มหาราช ก็เกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างพระองค์กับพระเจ้าหลุยส์ที่ 4[7] หลังการสิ้นพระชนม์ของพระมหากษัตริย์ในปี ค.ศ. 954 ดยุคของชาวแฟรงก์และเคานต์แห่งปารีสผู้ทรงอำนาจเป็นบุคคลแรกที่สนับสนุนและยอมรับพระเจ้าโลแทร์เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งของพระองค์