ประเภทและสภาพความเป็นอยู่ ของ เกตโตนาซี

สถานการณ์ในเกตโตนั้นโหดร้าย ในกรุงวอร์ซอ ประชากร 30% ถูกบังคับให้อาศัยอยู่ในพื้นที่ 2.4% ของนคร โดยมีความหนาแน่นถึง 7.2 คนต่อห้อง[2] พวกยิวไม่ได้รับอนุญาตให้ออกนอกเกตโต ดังนั้นพวกเขาจึงต้องพึ่งการลักลอบและการปันส่วนอาหารที่พวกนาซีจัดให้ ในกรุงวอร์ซอ การปันส่วนนั้นอยู่ที่ 253 แคลอรีต่อชาวยิวหนึ่งคน เปรียบเทียบกับ 669 แคลอรีต่อชาวโปแลนด์หนึ่งคน และ 2,613 แคลอรีต่อชาวเยอรมันหนึ่งคน ด้วยสภาพความเป็นอยู่ที่แออัด อาหารที่ไม่เพียงพอและการสุขาภิบาลที่แทบไม่มี ทำให้ชาวยิวหลายแสนคนเสียชีวิตด้วยโรคระบาดหรือความหิวโหย[4]

เกตโตสามารถแบ่งออกได้เป็นสามประเภท เกตโตปิดหรือปิดผนึกส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในโปแลนด์และสหภาพโซเวียตภายใต้การยึดครองของนาซี เกตโตเหล่านี้ถูกล้อมด้วยกำแพงอิฐ รั้วหรือรั้วลวดหนามซึ่งขึงไว้ระหว่างเสา ยิวไม่ได้รับอนุญาตให้อาศัยอยู่ในพื้นที่อื่นใด หากฝ่าฝืน ทางการเยอรมันประกาศว่าจะถูกประหารชีวิต สภาพความเป็นอยู่ในเกตโตปิดนั้นเลวร้ายที่สุด ย่านที่ยิวอยู่อาศัยนั้นแออัดและขาดสุขอนามัยอย่างยิ่ง การอดอยาก การขาดแคลนอาหารเป็นประจำ การขาดแคลนความอบอุ่นในฤดูหนาว และพนักงานเทศบาลที่ไม่เพียงพอนำไปสู่การแพร่ระบาดของโรคระบาดบ่อยครั้ง เช่น โรคบิดและไข้รากสาดใหญ่ จนนำไปสู่อัตราการตายที่สูง[5] เกตโตนาซีส่วนใหญ่เป็นประเภทนี้[1]

เกตโตเปิด ซึ่งไม่มีกำแพงหรือรั้วล้อม เกิดขึ้นส่วนใหญ่ในช่วงต้นของสงครามโลกครั้งที่สองในโปแลนด์และสหภาพโซเวียตภายใต้การยึดครองของนาซี แต่ยังพบในทรานส์นิสเตรียของยูเครน ซึ่งถูกยึดครองและปกครองโดยทางการโรมาเนีย มีข้อจำกัดอย่างเคร่งครัดในการเข้าและออกจากเกตโตเหล่านี้[1]

เกตโตได้ถูกกำจัดหรือทำลายในช่วงปลายของการล้างชาติโดยนาซี เป็นเวลาระหว่างสองถึงหกสัปดาห์เท่านั้น ในสหภาพโซเวียตภายใต้การยึดครองของนาซี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในลิทัวเนีย และโซเวียตยูเครน เช่นเดียวกับในฮังการี เกตโตเหล่านี้ถูกปิดผนึกอย่างแน่นหนา ประชากรยิวที่ถูกคุมขังไว้ในนั้นรอแต่ถูกเนรเทศหรือถูกยิงโดยพวกเยอรมัน ซึ่งบ่อยครั้งด้วยความช่วยเหลือของกองกำลังฝ่ายสนับสนุน[1]