การแต่งงานและชีวิตเจ้าหญิง ของ เกรซ_เคลลี

ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2498 เกรซ เคลลีได้รับการขอร้องให้เป็นตัวแทนของสหรัฐฯ ในเทศกาลภาพยนตร์คาน ขณะที่อยู่ที่นั่น เธอได้รับเชิญไปร่วมงานถ่ายภาพในวังโมนาโกกับเจ้าชายเรนีเย เจ้าผู้ครองประเทศโมนาโก หลังจากผลัดผ่อนหลายครั้งจากความไม่สะดวกหลายอย่าง ในที่สุด เกรซก็ได้ไปถึงโมนาโก ที่ซึ่งทำให้เกรซได้พบกับเจ้าชาย

หลังจากกลับสหรัฐฯ และเริ่มแสดงภาพยนตร์เรื่องใหม่เรื่อง “หงส์” (The Swan - พ.ศ. 2499) ซึ่งบังเอิญสวมบทบาทเป็นเจ้าหญิง ไม่นานจากนั้น เกรซ เคลลีเริ่มมีการติดต่อสัมพันธ์กับเจ้าชายเรนีเยเป็นการส่วนตัว ในเดือนธันวาคมปีนั้น เจ้าชายก็ได้เสด็จมาอเมริกาเป็นทางการ ซึ่งมีการโจษจันว่าเสด็จเพื่อแสวงหาพระชายาเนื่องจากสนธิสัญญากับฝรั่งเศสซึ่งทำไว้เมื่อ พ.ศ. 2461 บ่งไว้ว่า เมื่อใดที่เจ้าชายแห่งโมนาโกไม่มีรัชทายาท โมนาโกจะต้องรวมกับฝรั่งเศส

เจ้าชายได้ถูกถามในการให้สัมภาษณ์ว่าพระองค์กำลังแสวงหาพระชายาใช่หรือไม่ ซึ่งพระองค์ทรงตอบปฏิเสธ และในคำถามถัดมาถามว่าสมมุติว่าใช่ พระองค์จะโปรดพระชายาแบบไหน? พระองค์ทรงพระสรวลแล้วตอบว่า “ไม่ทราบ... แต่คงจะดีที่สุดกระมัง” เจ้าชายได้ทรงพบเกรซ เคลลีกับครอบครัวของเธอ และในอีกเพียง 3 วันต่อมาเจ้าชายเรนีเยก็ขอแต่งงานกับเกรซ ซึ่งเธอตอบรับ จากนั้นพระองค์และครอบครัวของเกรซก็ได้เตรียมการแต่งงานที่โด่งดังที่สุดแห่งศตวรรษ

ข่าวการหมั้นเป็นที่ตื่นเต้นเลื่องลือ แม้จะหมายความถึงการสิ้นสุดชีวิตการแสดงของเกรซก็ตาม วงการภาพยนตร์ก็รู้ดีว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้เกรซอยู่ในวงการแสดงต่อไป จึงได้แต่อวยพรให้เธอมีความสุข

การเตรียมพระราชพิธีมงคลสมรสเต็มไปด้วยความพิถีพิถัน มีการทาสีพระราชวัง ตบแต่งใหม่ทั้งหมด รวมทั้งพิธีการเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกสู่โมนาโก ในวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2499 เกรซ เคลลีได้ลงเรือที่ท่าในนครนิวยอร์กพร้อมกับเพื่อนเจ้าสาวและครอบครัวของเธอ สุนัขพูเดิลและสัมภาระ 400 ชิ้นออกจากท่าสู่ริเวียรา มีนักข่าวมากกว่า 400 คนขอร่วมเดินทางไปด้วย แต่ก็ถูกปฏิเสธเกือบทั้งหมด ใช้เวลาเดินทาง 8 วัน มีผู้คอยต้อนรับมากกว่าสองหมื่นคนเรียงรายโห่ร้องต้อนรับเจ้าหญิงในอนาคตตามถนน

พระราชพิธีสมรสได้รับการถ่ายทอดไปทั่วยุโรป เกรซต้องจดจำชื่อตำแหน่งทางการให้ได้มากถึง 142 ชื่อ ในงานพระราชพิธีมีแขกผู้มีเกียรติและชนชั้นสูงได้รับเชิญจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก 600 คน และคาดว่ามีผู้ชมการถ่ายทอดทางโทรทัศน์รวม 30 ล้านคน เจ้าชายเรนีเยและเจ้าหญิงเกรซพระชายาได้ลงเรือยอชต์ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ท่องทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นเวลา 7 วันในคืนวันนั้นเอง

ทั้งสองพระองค์ได้พระราชธิดาพระองค์แรกหลังพระราชพิธีสมรส 9 เดือนกับ 4 วัน มีการยิงสลุต 21 นัดและประกาศเป็นวันหยุดราชการ หยุดการพนัน แจกแชมเปญฟรี และในปีเศษต่อมามีการยิงสลุต 101 นัดเพื่อต้อนรับโอรส คือเจ้าชายอัลแบร์

เจ้าชายเรนีเยและเจ้าหญิงเกรซมีพระโอรสและพระธิดา 3 พระองค์ดังนี้

เจ้าหญิงเกรซ ไม่ได้หวนกลับสู่วงการจอเงินอีก พระองค์ทรงเลือกที่จะเป็นผู้นำประเทศฝ่ายสตรี ในปี พ.ศ. 2505 ฮิตช์ค็อกได้ทูลชวนพระองค์ให้มาแสดงภาพยนตร์อีก พระองค์อยากจะลองแต่ไม่มีผู้ใดเห็นด้วยรวมทั้งเจ้าชายเรนีเย เจ้าหญิงจึงตอบปฏิเสธไป แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหญิงเกรซก็ได้เข้าสู่วงการศิลปินในรูปแบบพิเศษโดยการอ่านบทกลอนในภาพยนตร์ชุดสารคดีเมื่อ พ.ศ. 2520 พระองค์ในฐานะเจ้าหญิงได้มีบทบาทในการยกระดับสถาบันศิลปะของโมนาโก มีการจัดตั้งมูลนิธิเจ้าหญิงเกรซ ขึ้นเพื่ออุปถัมภ์ศิลปินของประเทศ

เจ้าหญิงเกรซเป็นบุคคลชั้นสูงคนแรกที่สนับสนุนการเลี้ยงทารกด้วยนมมารดา ทรงจัดงานคริสต์มาสประจำปีสำหรับเด็กกำพร้าและทรงจัดตั้งสโมสรสวนดอกไม้ขึ้นเนื่องจากที่พระองค์โปรดปรานดอกไม้มาก

เจ้าชายเรนีเยและเจ้าหญิงเกรซได้จัดงานเฉลิมฉลองวาระที่ได้ทรงอภิเษกสมรสครบ 25 ปี เมื่อ พ.ศ. 2524