ประวัติ ของ เขตมิสซังท่าแร่-หนองแสง

เขตมิสซังท่าแร่-หนองแสงมีต้นกำเนิดมาจากการที่คณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีสได้ส่งมิชชันนารีมาทำการประกาศข่าวดีที่ภาคอีสานมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1881 ต่อมาในปี ค.ศ. 1889 สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 13 โปรดให้ตั้งมิสซังลาวเป็นเขตผู้แทนพระสันตะปาปาโดยแยกออกมาจากมิสซังสยามตะวันออก มีศูนย์การบริหารที่โบสถ์นักบุญอันนา หนองแสง เมื่อสยามเสียดินแดนทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงแก่จักรวรรดิฝรั่งเศส มิสซังลาวจึงถูกแบ่งออกเป็น 3 มิสซัง โดยส่วนภาคอีสานของสยามยังเป็นมิสซังลาว ในปี ค.ศ. 1950 มิสซังลาวได้เปลี่ยนชื่อเป็นมิสซังท่าแร่ และมิสซังท่าแร่-หนองแสงในปี ค.ศ. 1960 ตามลำดับ

สมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 6 ทรงยกสถานะมิสซังท่าแร่-หนองแสงขึ้นเป็นอัครมุขมณฑลในปี ค.ศ. 1965 ทำให้ประมุขมีสมณศักดิ์เป็นอัครมุขนายก แต่ทางราชการไทยยังคงเรียกว่าเขตมิสซังท่าแร่-หนองแสง

ปัจจุบัน (ค.ศ. 2015) เฉพาะในเขตบ้านท่าแร่ อำเภอเมืองสกลนคร มีจำนวนครัวเรือนทั้งสิ้น 2,574 ครัวเรือน ประชากรรวมทั้งสิ้น 13,154 คน กระจายอยู่ใน 8 หมู่บ้าน 2 ตำบล ซึ่งทุกคนนับถือศาสนาคริสต์โรมันคาทอลิกทั้งหมด นับเป็นชุมชนชาวโรมันคาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และในช่วงเทศกาลคริสต์มาสของทุกปี นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1982 เป็นต้นมา จะมีประเพณีแห่ดาวคริสต์มาสที่ประดับด้วยหลอดไฟสีสันต่าง ๆ มีความสวยงาม ไปตามชุมชน นับเป็นสถานที่เดียวในโลกอีกด้วยที่มีประเพณีเช่นนี้[2]

ใกล้เคียง

เขตมินาโตะ (โตเกียว) เขตมิสซังท่าแร่-หนองแสง เขตมิสซังกรุงเทพฯ เขตมิสซังเชียงใหม่ เขตมิสซังจันทบุรี เขตมิสซังนครราชสีมา เขตมิสซังอุบลราชธานี เขตมิสซังราชบุรี เขตมิสซังสุราษฎร์ธานี เขตมิสซังอุดรธานี