ระยะขอบเขต ของ เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ

ระยะขอบเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศนั้นในแต่ละประเทศจะถูกกำหนดแตกต่างกันตามสภาพพื้นที่และผลประโยชน์ของแต่ละประเทศ ซึ่งหลายครั้งมีการประกาศทับซ้อนกันระหว่างประเทศ

เอเชียตะวันออก

ญี่ปุ่น

เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศเหนือญี่ปุ่น (สีน้ำเงิน), เกาหลีใต้ (สีเขียว), จีน (สีชมพู), และไต้หวัน/สาธารณรัฐจีน (สีส้ม)

ประเทศญี่ปุ่นมีเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศที่ครอบคลุมพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเลเป็นส่วนใหญ่ ถูกกำหนดโดยกองกำลังสหรัฐหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พรมแดนของเขตด้านตะวันตกสิ้นสุดที่ 123° องศาตะวันออก ครอบคลุมพื้นที่ครึ่งหนึ่งของเกาะโยะนะกุนิเท่านั้น และทางฝั่งตะวันตกครึ่งหนึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศไต้หวัน

ในวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ญี่ปุ่นได้ประกาศขยายเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศออกไปโดยรอบเกาะโยะนะกุนิออกไปทางทิศตะวันตกประมาณ 22 กิโลเมตร เพื่อสอดคล้องกับน่านน้ำอาณาเขตของตน จนเกิดการทับซ้อนกับเขตของไต้หวัน ซึ่งทั้งสองประเทศได้พูดคุยถึงแนวปฏิบัติบริเวณดังกล่าวร่วมกันเรียบร้อยแล้ว[4]

ในขณะเดียวตามรายงานของไชนาเน็ทเวิร์กเทเลวิชั่นเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 ประเทศจีนและรัสเซียประกาศว่าไม่ยอมรับเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศของญี่ปุ่น

ไต้หวัน

แผนที่เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ของไต้หวัน แสดงการจู่โจมในเดือนกันยายน 2563 ทางตะวันตกเฉียงใต้และการข้ามเส้นกลางของช่องแคบไต้หวันโดยกองทัพอากาศปลดปล่อยประชาชนจีน

ไต้หวันมีเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศที่ครอบคลุมพื้นที่ช่องแคบไต้หวันเกือบทั้งหมด ครอบคลุมไปถึงส่วนหนึ่งของมณฑลฝูเจี้ยน เจ้อเจียง และเจียงซีของจีนแผ่นดินใหญ่ ส่วนหนึ่งของทะเลจีนตะวันออก

น่านฟ้าของเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศไต้หวันถูกออกแบบโดยกองทัพสหรัฐเช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2[5] โดยพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นข้อมูลฐานของอาณาเขตแถลงข่าวการบินไทเปอีกด้วย[6]:15

ถึงแม้การประกาศเขตจะครอบคลุมไปยังพื้นที่แผ่นดินของจีนแผ่นดินใหญ่ แต่เที่ยวบินของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนจะไม่ถูกรายงานว่าเป็นภัยคุกคาม จนกว่าจะมาถึงเส้นคั่นกลางระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่และไต้หวันบริเวณช่องแคบไต้หวัน โดยงบประมาณประมาณ 9 เปอร์เซ็นในการป้องกันประเทศของไต้หวันถูกใช้เพื่อตอบโต้สกัดกั้นการก่อกวนของประเทศจีน[7] บริเวณพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ของเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ที่ล้ำเส้นคั่นกลางช่องแคบไต้หวัน คือช่องแคบ Bashi ระหว่างไต้หวันและฟิลิปปินส์[7][2]

เกาหลีใต้

ประเทศเกาหลีใต้มีพื้นที่เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศเกือบครอบคลุมน่านฟ้าทั้งหมด[8] ยกเว้นบางพื้นที่ที่ห่างไกล[8] ซึ่งก่อตั้งโดยกองทัพอากาศสหรัฐในระหว่างสงครามเกาหลีเมื่อปี พ.ศ. 2494 เพื่อใช้สำหรับสกัดกั้นกองกำลังของลัทธิคอมมิวนิสต์ในขณะนั้น[8]

ในปี พ.ศ. 2556 เพื่อตอบโต้การประกาศเขตที่ครอบคลุมพื้นที่พิพาทโดยประเทศจีน เกาหลีใต้ประกาศขยายเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศให้ครอบคลุมพื้นที่หมู่เกาะมาราโดและฮองโด และไอโอโด (Socotra Rock) ซึ่งเป็นกลุ่มหินใต้น้ำในเขตเศรษฐกิจจำเพาะซึ่งมีเนื้อที่ทับซ้อนกันกับประเทศจีน[8]

แนวปฏิบัติเมื่ออากาศยานมีเส้นทางบินเข้าสู่หรือตัดผ่านพื้นที่เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศเกาหลี (KADIZ) จะต้องส่งแผนการบินล่วงหน้า 1 ชั่วโมงก่อนเดินทาง สำหรับเครื่องบินพลเรือนที่มีเส้นทางการปินปกติจะต้องยื่นแผนการบินไปยังศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศทุก ๆ ครั้ง ซึ่งหากทำตามแผนการบินที่ได้ยื่นไว้จะไม่มีการดำเนินการใด ๆ หากมีการเปลี่ยนแปลงแผนหรือเส้นทางการบินอย่างกระทันหัน กองทัพอากาศเกาหลีใต้จะนำเครื่องบินขึ้นเพื่อติดตามและพร้อมที่จะสกัดกั้น

หลังจากการปรับปรุงเขตระหว่างจีนและเกาหลีใต้ในปี พ.ศ. 2556 ความตรึงเครียดบริเวณพื้นทีทับซ้อนดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นเมื่ออาณาเขตแถลงข่าวการบินของทั้งสามชาติที่อยู่บริเวณนั้นทับซ้อนกัน คือเกาหลีใต้ จีน และญี่ปุ่น[9] โดยเครื่องบินรบจีนได้ล่วงล้ำเข้าสู่พื้นที่เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศเกาหลี (KADIZ) ถึง 5 ครั้งในปี พ.ศ. 2561[10]

จีน

ประเทศจีนมีพื้นที่เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศหลักอยู่เหนื่อแผ่นดินจีน ซึ่งในวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 จีนได้ประกาศจัดตั้งเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งได้รับความสนใจและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของประเทศเพื่อนบ้านและนานาชาติ โดยแบ่งเป็น 2 รูปแบบคือ รูปแบบแรก เป็นการประกาศเขตในพื้นที่ที่ไม่มีปัญหาในการประกาศเขตขณะนั้น แต่ก็ยังมีพื้นที่ครอบคลุมหมู่เกาะเซ็งกากุที่อยู่ในการควบคุมของญี่ปุ่น และไอโอโด (Socotra Rock) ซึ่งเป็นกลุ่มหินใต้น้ำที่พิพาทกับเกาหลีใต้ รูปแบบที่สอง คือเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศของจีนที่ทับซ้อนกับเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศประเทศเพื่อนบ้าน โดยบังคับใช้พื้นที่ดังกล่าวกับทั้งอากาศยานพลเรือนและอากาศยานทางทหารที่บินผ่านเข้าไป โดยไม่คำนึงถึงปลายทางของอากาศยานนั้น[11][12]

ในปี พ.ศ. 2557 กระทรวงการต่างประเทศจีนปฏิเสธรายงานที่ระบุว่ากำลังพิจารณาเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ที่คล้ายคลึงกันในทะเลจีนใต้ เนื่องจากประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนนั้นไม่ใช่ภัยคุกคามของตน[13]

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ไทย

เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศไทย (TADIZ)

ประเทศไทยกำหนดเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศไทย (Thailand Air Defense Identification Zone: TADIZ) ในบริเวณเหนือพื้นดินและผืนน้ำของประเทศไทย โดยกองทัพอากาศได้กำหนดเขตออกเป็น 2 ชั้น[14] ประกอบไปด้วย

  • เขตพิสูจน์ฝ่ายเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศล่วงหน้า (Thailand Air Defense Identification Buffer Zone: TAD-BUZ) กำหนดระยะ 100 ไมล์ทะเลจากเขต TADIZ เป็น 2 ชั้นคือ
    • เขตนอก (Twilight Zone: TIZ) คือระยะตั้งแต่ 50-100 ไมล์ทะเลจากเขต TADIZ
    • เขตใน (Midnight Zone: MIZ) คือระยะตั้งแต่ 0-50 ไมล์ทะเลจากเขต TADIZ
  • เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ (Thailand Air Defense Identification Zone: TADIZ) กำหนดเป็นเส้นเหนือเขตแดนประเทศไทยบนพื้นดิน รวมไปถึงบนผืนน้ำลากคลุมพื้นที่เศรษฐกิจจำเพาะ

สำหรับเครื่องบินที่จะเข้ามาในเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศไทย (TADIZ) หากอากาศยานอยู่ภายในพื้นที่จะต้องยื่นแผนการบิน IFR หรือ VFR ต่อศูนย์ควบคุมการบินในสนามบินนั้น ๆ เพื่อดำเนินการส่งต่อมายังศูนย์ควบคุมพื้นที่กรุงเทพมหานคร (VTBBZRZX) โดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย อากาศยานที่เดินทางจากภายนอกเขต TADIZ จะต้องยื่นรายงานต่อผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศอย่างน้อย 10 นาที หากไม่สามารถติดต่อหอควบคุมการบินได้อาจจะติดต่อกับสถานีควบคุมการสกัดกั้นภาคพื้นในพื้นที่ดังกล่าว[15]

เครื่องบินขับไล่และโจมตีของกองทัพอากาศไทย

สำหรับการปฏิบัติเมื่อมีอากาศยานไม่สามารถระบุตัวตนเข้ามาในระยะของเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศไทย (TADIZ) หรืออากาศยานปฏิบัตินอกแผนการบิน ออกนอกเส้นทางการบิน หรือเบี่ยงออกจากเส้นทาง 10 ไมล์ทะเลเหนือพื้นดิน 20 ไมล์ทะเลเหนือพื้นน้ำจากเส้นทางที่กำหนดให้ กองทัพอากาศไทยจะดำเนินการส่งอากาศยานขึ้นบินเพื่อสกัดกั้น และพิจารณาการใช้อาวุธได้หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง และเจ้าของเครื่องบินจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ ในภารกิจสกัดกั้น[15]

ในกรณีอากาศยานจากภายนอกเขต หากอากาศยานนั้นบินเข้ามาในระยะเขตนอก (Twilight Zone) อากาศยานนั้นจะถูกกำหนดเป็นเป้าหมายไม่ทราบฝ่าย และหากเข้ามาในระยะเขตใน (Midnight Zone) และยังพิสูจน์ทราบไม่ได้จะดำเนินการสั่งการให้อากาศยานขึ้นติดต่อสื่อสารด้วยสายตา เพื่อแสดงตัวตน และดำเนินการผลักดันหรือดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมต่อไป[15]

เอเชียใต้

บังคลาเทศ

เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ของบังคลาเทศ

ประเทศบังคลาเทศมีการประกาศเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศเหนือจากพรมแดนออกไปทางทะเลตามพิกัดต่อไปนี้

  1. 21°07′44.80″N 89°13′56.50″E / 21.1291111°N 89.2323611°E / 21.1291111; 89.2323611
  2. 18°15′54.12″N 89°21′47.56″E / 18.2650333°N 89.3632111°E / 18.2650333; 89.3632111
  3. 16°43′28.74″N 89°25′54.37″E / 16.7246500°N 89.4317694°E / 16.7246500; 89.4317694
  4. 20°13′06.30″N 92°00′07.60″E / 20.2184167°N 92.0021111°E / 20.2184167; 92.0021111
  5. 20°03′32.00″N 91°50′31.80″E / 20.0588889°N 91.8421667°E / 20.0588889; 91.8421667
  6. 17°52′34.06″N 90°15′04.66″E / 17.8761278°N 90.2512944°E / 17.8761278; 90.2512944

ทุกเที่ยวบินของอากาศยาน ทั้งอากาศยานพลเรือน อากาศยานทหาร ทั้งของบังคลาเทศเองและต่างชาติที่มีต้นทางภายในเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ และเที่ยวบินที่จะเข้าสู่เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ จะต้องได้รับการอนุญาตล่วงหน้าและผ่านกระบวนการ Air Defense Clearance (ADC)

หากอากาศยานที่ล่วงล้ำเข้ามาและไม่ผ่านขั้นตอนการยืนยันตัวตนหรือกระบวนการ Air Defense Clearance (ADC) จะถูกกองทัพอากาศบังคลาเทศบินขึ้นสกัดกั้น[16]

อินเดีย

ประเทศอินเดียกำหนดเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 20 โดยอากาศยานที่จะบินผ่านเข้ามาจะต้องแจ้งล่วงหน้า 10 นาทีก่อนเข้าเขต โดยแบ่งเป็น 6 เขต[17] เหนือเขตแดนประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบไปด้วย

  1. เหนือพรมแดนปากีสถาน
  2. เหนือพรมแดนเนปาล
  3. เหนือพรมแดนจีน
  4. เหนือพรมแดนด้านตะวันออกที่ติดต่อกับประเทศบังคลาเทศ ภูฏาน พม่า
  5. เหนือทะเลทางตอนใต้ของประเทศ
  6. เหนือทะเลทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ

การบังคับใช้เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศของประเทศอินเดียนั้นเป็นหน้าที่ของกองทัพอากาศอินเดีย โดยตรวจสอบผ่านระบบเรดาร์ และดำเนินการด้วยอากาศยานหรือจรวดพื้นสู่อากาศในพื้นที่ดูแลเฉพาะของกองทัพบกและกองทัพเรืออินเดีย สำหรับการสกัดกั้นตามสถานการณ์[17]

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่การบินพลเรือนจะช่วยยืนยันหมายเลข Air Defense Clearance (ADC) ให้กับอากาศยานที่บินเข้ามาในพื้นที่เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศเพื่อจัดการจราจรทางอากาศในกรณีที่มีความจำเป็น[18]

อเมริกาเหนือ

สหรัฐและแคนาดา

เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ระหว่างสหรัฐและแคนาดาในปี พ.ศ. 2553

ประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดาได้กำหนดเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศร่วมกันในภาคพื้นทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐดูแล 2 เขตในอเมริกาเหนือ คือ เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศของสหรัฐ และเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศบริเวณรัฐอลาสก้า และอีก 2 เขต นอกทวีปอเมริกาเหนือ คือ เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศฮาวาย และเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศกวม

ในขณะที่แคนาดาดูแลอีก 2 เขตในทวีปอเมริกาเหนือ คือ เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศนอกชายฝั่งทะเลแปซิฟิกเหนือชายฝั่งบริติชโคลัมเบีย และอีกส่วนครอบคลุมหมู่เกาะอาร์กติกของแคนาดาและเมืองในมหาสมุทรแอตแลนติก

ภายใต้กฎหมายของสหรัฐ พื้นที่ดังกล่าวมีผลบังคับใช้กับเครื่องบินพาณิชย์ที่ต้องการเข้าสู่น่านฟ้าสหรัฐเท่านั้น[19] สำหรับการบัญชาการและควบคุมการป้องกันภัยทางอากาศนั้นถูกพัฒนาขึ้นในปี พ.ศ. 2493 โดยแบ่งเขตเป็น 5 เขตในทวีปอเมริกาเหนือ หากการตรวจสอบทางวิทยุสื่อสารไม่สามารถทำได้จะส่งเครื่องบินของกองทัพอากาศสหรัฐขึ้นตรวจสอบผู้บุกรุกด้วยสายตา

ใกล้เคียง

แหล่งที่มา

WikiPedia: เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ http://www.caab.gov.bd/aip/sup/aipsup01-18.pdf http://glcmumbai.com/lawreview/volume9/03JoshuaAbh... http://www.indiandefencereview.com/news/integrated... http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20131201000... http://www.taipeitimes.com/News/front/archives/201... http://news.xinhuanet.com/english/china/2014-02/02... http://english.yonhapnews.co.kr/national/2013/11/2... http://english.yonhapnews.co.kr/national/2018/08/2... http://aviationdevelopment.org/eng/sites/default/f... //doi.org/10.1007%2Fs12198-011-0083-2