เขื่อนวชิราลงกรณ เดิมมีชื่อว่า
เขื่อนเขาแหลม เป็นเขื่อนหินถมแห่งแรกของประเทศไทยที่ดาดผิวหน้าด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ตั้งอยู่บน
แม่น้ำแควน้อย เป็นเขื่อนอเนกประสงค์โดยมีวัตถุประสงค์ด้านผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นหลัก สร้างปิดกั้นแม่น้ำแควน้อยบริเวณตำบลท่าขนุน
อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ตัวอ่างเก็บน้ำอยู่ในท้องที่อำเภอทองผาภูมิและ
อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เริ่มก่อสร้างในเดือนมีนาคม
พ.ศ. 2522 เสร็จในปี
พ.ศ. 2527 หลังสร้างเสร็จ
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรม
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และ
สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ไปทรงประกอบพิธีเปิดเขื่อนเขาแหลมเมื่อวันพฤหัสบดีที่
9 มกราคม พ.ศ. 2529 และต่อมาพระราชทานชื่อใหม่ว่า "เขื่อนวชิราลงกรณ" ตามพระนามของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้นทรงดำรงพระราชอิสริยยศ
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร[1]เขื่อนมีความจุ 8,860 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเฉลี่ยปีละ 5,369 ล้านลูกบาศก์เมตร ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 3 เครื่องบริเวณปล่อยน้ำ ขนาดกำลังผลิต 100,000 กิโลวัตต์ รวมกำลังผลิต 300,000 กิโลวัตต์ ให้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยปีละ 760 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง
[1]การเดินทาง ใช้เส้นทางออกจากกรุงเทพมหานครโดย
ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4) ผ่านนครปฐมแล้วขึ้นสะพานเลี้ยวขวาเข้าสู่
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 ผ่านบ้านโป่ง ลูกแก ท่ามะกา ท่าม่วง แล้วเข้าสู่จังหวัดกาญจนบุรี จากนั้นเลี้ยวซ้ายอีกครั้งที่แยกแก่งเสี้ยน บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 ดังเดิมไปอีกประมาณ 190 กิโลเมตรบนเส้นทางทองผาภูมิ-สังขละบุรีจากการก่อสร้างเขื่อนดังกล่าว ผลปรากฏว่ามีเขตที่น้ำท่วมถึงถูกที่วัด จำนวน 2 แห่ง คือ วัดม่วงชุม
[2] กับวัดพิชัยธาราม
[3] อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี