เคมบริดจ์แอนะลิติกา (
อังกฤษ: Cambridge Analytica, ย่อ: CA) เป็นบริษัทที่ปรึกษาการเมืองบริติชซึ่งใช้การทำเหมืองข้อมูล การเป็นนายหน้าข้อมูล (data brokerage) และการวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกับการสื่อสารยุทธศาสตร์สำหรับกระบวนการเลือกตั้ง
[5][6] บริษัทฯ ก่อตั้งเป็นสาขาหนึ่งของเอสซีแอลกรุ๊ป (SCL Group)
[7] ครอบครัวของรอเบิร์ต เมอร์เซอร์ (Robert Mercer) ผู้จัดการกองทุนบริหารความเสี่ยงชาวอเมริกันผู้สนับสนุนอุดมการณ์อนุรักษนิยมทางการเมืองหลายอุดมการณ์ เป็นเจ้าของบริษัทฯ บางส่วน
[7][8] ปัจจุบันบริษัทฯ มีสำนักงานในกรุง
ลอนดอน นครนิวยอร์ก และ
วอชิงตัน ดี.ซี.[9]ซีอีโอ อเล็กซานเดอร์ นิกซ์ (Alexander Nix) กล่าวว่า CA เกี่ยวข้องในการแข่งขันทางการเมืองในสหรัฐ 44 ครั้งในปี 2557;
[10] ในปี 2558 บริษัทฯ ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลแก่การรณรงค์ประธานาธิบดีของเท็ด ครูซ ในปี 2559 CA ทำงานให้กับการรณรงค์ประธานาธิบดีของ
ดอนัลด์ ทรัมป์[11] ตลอดจนการรณรงค์
ลีฟ.อียูให้การถอนตัวจาก
สหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร บทบาทของ CA ในการรณรงค์เหล่านี้เป็นข้อโต้เถียงและเป็นหัวข้อการสืบสวนทางอาญาที่กำลังดำเนินอยู่ในสหรัฐและสหราชอาณาจักร
[12][13][14] นักรัฐศาสตร์ตั้งคำถามถึงข้ออ้างของ CA เกี่ยวกับประสิทธิภาพของวิธีการการกำหนดเป้าหมายผู้ออกเสียงเลือกตั้งของบริษัทฯ
[15][16]ในเดือนมีนาคม 2561 สื่อหลายสำนักเผยแพร่ข่าววัตรปฏิบัติธุรกิจของเคมบริดจ์แอนะลิติกา
เดอะนิวยอร์กไทมส์ และ
ดิออฟเซิร์ฟเวอร์ รายงานเรื่องการละเมิดข้อมูลของ
เฟซบุ๊กและเคมบริดจ์แอนะลิติกา ซึ่งถูกนักวิจัยภายนอกใช้สารสนเทศส่วนบุคคลที่ได้มาจากผู้ใช้เฟซบุ๊กจากบริษัทฯ เพื่อความมุ่งหมายทางการเมือง โดยอ้างว่าเก็บรวบรวมสารสนเทศดังกล่าวเพื่อความมุ่งหมายทางวิชาการ ไม่นานจากนั้น ข่าวช่อง 4 แพร่สัญญาณการสอบสวนนอกไม่เปิดเผยแสดงภาพนิกซ์โอ้อวดเกี่ยวกับการใช้โสเภณี ปฏิบัติการล่อสินบน และฮันนีเทรพ (honey trap) เพื่อทำให้นักการเมืองที่เป็นเป้าหมายของการวิจัยของฝ่ายตรงข้าม (opposition research) เสียชื่อเสียง และกล่าวว่าบริษัทฯ "ดำเนินการรณรงค์ดิจิทัลทั้งหมดของ (ดอนัลด์ ทรัมป์)" กรรมการสารสนเทศสหราชอาณาจักรสนองต่อรายงานของสื่อโดยออกหมายค้นเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทฯ
[17][18] เฟซบุ๊กแบนเคมบริดจ์แอนะลิติกามิให้โฆษณาบนแพลตฟอร์ม โดยกล่าวว่าเฟซบุ๊กถูกหลอก
[19][20] วันที่ 23 มีนาคม 2561 ศาลสูงบริติชอนุมัติหมายค้นของสำนักงานกรรมาธิการสารสนเทศเพื่อค้คนสำนักงานกรุงลอนดอนของเคมบริดจ์แอนะลิติกา
[21]ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้เฟซบุ๊ก 50 ล้านคนได้มาจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก 270,000 คนที่แบ่งปันข้อมูลโดยใช้แอพ "ดิสอีสยัวร์ดิจิทัลไลฟ์" (thisisyourdigitallife) โดยอนุญาตให้แอพภายนอกนี้เข้าถึงข้อมูลของพวกเขาได้ย้อนไปในปี 2558 เหตุนี้ยังให้สารสนเทศเกี่ยวกับเครือข่ายเพื่อนกับบุคคลเหล่านั้นแก่แอพ ผู้พัฒนาแอพละเมิดเงื่อนไขการใช้งานของเฟซบุ๊กโดยมอบข้อมูลแก่เคมบริดจ์แอนะลิติกา
[22]