ขั้นต้น (ชิไค)

• ชื่อ : กะเท็นเคียวคตสึ (ญี่ปุ่น: 花天狂骨 โรมาจิ: Katen Kyōkotsu ทับศัพท์: บุปผาสวรรค์กระดูกคลุ้มคลั่ง)
• คำปลดปล่อย : "ดอกไม้โปรยปรายในสายลม เทพบุปผาร่ำร้อง สายลมแห่งสวรรค์ปั่นป่วน มารฟ้ากำสรวล" (ญี่ปุ่น: 花風紊れて花神啼き天風紊れて天魔嗤う โรมาจิ: hana kaze midarete, kashin naki, tenpū midarete, tenma warau)
• ลักษณะ : เดิมที กะเท็นเคียวคตสึนั้นมี 2 เล่มอยู่แล้ว เล่มใหญ่หนึ่งเล่มเล็กหนึ่ง ซึ่งต่างจากดาบของอุคิทาเกะ โดยดาบทั้ง 2 เล่มนั้น จะเปลี่ยนรูปร่างเป็นดาบที่ด้ามดาบจะมีพู่คล้ายดาบจีน คมดาบจะมีลักษณะคล้ายคมง้าวคล้ายดาบแขก ทั้งสองด้ามมีขนาดต่างกันเล็กน้อย ซึ่งใช้ในการโจมตีในลักษณะที่แตกต่างกัน แต่เคียวราคุก็สามารถสลับดาบกับมือสองข้างได้อย่างคล่องแคล่ว
• รูปร่างที่แท้จริง : เป็นผู้หญิงสองคน คนแรก(ดาบเล่มใหญ่)เป็นสาวใหญ่สวมชุดกิโมโนสีม่วงทับกันหลายชั้น มีสวมรัดเกล้ากะโหลกและสวมผ้าหนังปิดตา ชอบเล่นไพ่พร้อมกับชุนซุยและอุคิทาเกะ ส่วนอีกคน(ดาบเล่มเล็ก)เป็นเด็กสาวแต่งตัวแบบนินจา มีที่ติดผมรูปหัวกะโหลกแบบเดียวกัน มีนิสัยไม่ค่อยพูด ชอบดอกไม้ และสนิทกับนานาโอะ
• ความสามารถ :
  • แบบที่ 1 บุโชโกมะ(เอือมระอาหรรษาโดดเดี่ยว): เพิ่มความเร็วในการโจมตี และสามารถสร้างความปั่นป่วนด้วยการหมุนรอบตัวเองทำให้เกิดพายุได้ และคนที่โดนพายุนั้นครอบร่างกายแล้วจะรู้สึกเฉื่อยชา
  • แบบที่ 2 คาเงะโอนิ(อสูรเงา): สามารถทำให้ตัวผู้ใช้สามารถแฝงตัวไปในเงาคู่ต่อสู้ได้ หรือสามารถแทงดาบลงบนเงาศัตรูเพื่อสร้างความเสียหายให้แก่ศัตรูได้
  • แบบที่ 3 ทาคาโอนิ(อสูรสูง): ถ้าใครอยู่สูงที่สุดหรืออยู่สูงกว่าคู่ต่อสู้จนจบเกมส์ของกะเท็นเคียวคตสึ ก็จะเป็นผู้ชนะ ถ้าต่ำกว่าก็แพ้และต้องตาย //และถ้าใครอยู่ที่สูงกว่าจะแข็งแกร่งกว่าคู่ต่อสูง แต่ในขณะเดียวกันถ้าสตรู อยู่เหนือกว่าก็จะเสียเปรียบทันที (ท่านี้เหมือนดาบสองคม)
  • แบบที่ 4 อาไรโอนิ(อสูรสี): จะเป็นการเล่นเกมกับฝ่ายตรงข้าม โดยมีกติกาที่ว่า จะสลับกันเลือกสีที่มีความความ "เสี่ยง" ต่อ "ตัวเอง" ขึ้นมาหนึ่งสี ยิ่งสีนั้นมีเยอะบนร่างกายของเรา เราจะสามารถโจมตีใส่สีนั้นบนตัวศัตรูได้แรงยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างจากเนื้อเรื่อง ในการโจมตีครั้งแรกที่เคียวราคุโจมตีใส่สตาร์ค เคียวราคุเลือก "สีเทา" แต่สีที่เลือกนั้นไม่มีอยู่บนตัวของเคียวราคุเลยแม้แต่น้อย เมื่อเคียวราคุโจมตีใส่สตาร์คบริเวณที่มี "สีเทา" ก็จะมีความรุนแรงไม่มาก แต่ในการโจมตีนัดปลิดชีพสตาร์ค เคียวราคุเลือก "สีดำ" ก่อนโจมตีเคียวราคุถอดเสื้อคุมหัวหน้าหน่วยที่มีสีขาวทิ้งไป ทำให้ตัวของมีแค่ชุดยูกาตะสีดำทั้งตัว "สีดำ" จึงเป็นสีที่เสี่ยงที่สุดและอันตรายที่สุดสำหรับเขา ในทางกลับกันหากเคียวราคุสามารถโจมตีใส่บริเวณที่เป็น "สีดำ" บนตัวสตาร์คได้ การโจมตีนั้นจะทวีคูณความรุนแรงมหาศาล (สตาร์คเองก็รู้ถึงเรื่องนี้ และการโจมตีเพียงครั้งเดียวของสตาร์คนั้นก็มีความรุนแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะส่วนใหญ่ร่างกายเขาเป็น "สีขาว" และเทา เมื่อเขาเลือกสีขาวซึ่งเสี่ยงต่อตัวเขาเอง แน่นอนว่าเสื้อคลุมหัวหน้าหน่วย "สีขาว" จึงเป็นเป้าหมายที่รุนแรงต่อตัวเคียวราคุ)

• • แบบที่ 5 ดารุมะซัง กะ โคะโรนดะ(คุณตุ๊กตาล้มลุกได้ล้มลง) : เป็นการเล่นซ่อนหาของญี่ปุ่นโดยผู้หาจะต้องพูดว่า"คุณตุ๊กตาล้มลุกได้ล้มลงแล้ว"จากนั้นค่อยเริ่มค้นหา เพื่อที่จะเล่นเกมนี้ต้องให้คนนึงเป็นคนที่หาและปิดตาในขณะที่นับเลขถอยหลังคนแรกที่ถูกจับได้ว่าขยับในตอนที่นับเลขเสร็จจะเป็นคนที่แพ้ โดยเกมนี้มีอยู่3ส่วนคือ 1)คนที่หาต้องอยู่ในที่ที่คนซ่อนมองเห็น 2)หากว่าคนที่หาจับได้ว่ามีคนขยับในตอนนับเลขเสร็จคนที่ขยับจะเป็นผู้แพ้ และ3)ถ้าคนที่ซ่อนเตะตัวคนที่หาได้ก่อนที่ผู้หาจะจับใครได้คนที่ซ่อนจะกลายเป็นฝ่ายชนะ(อ้างอิงจากมังงะตอนที่645 หากใครสงสัยการการละเล่นนี้ของเคียวราคุสามารถไปอ่านได้จากตอน645เนื่องจากการละเล่นนี้อธิบายได้ยากอยู่เหมือนกัน)

• • แบบที่ 6 คาเงะโอคุระ : เป็นการสร้างร่างเงาเสมือนจริงโดนที่เงาแต่ละร่างนั้นจะมีแรงดันวิญญาณเหมือนตัวตนจริงๆสามารถใช้หลอกล่อและโจมตีศัตรูได้

• • แบบที่ 7 ยูบิกิริ : ถ้าใครคนใดคนหนึ่งพูดคำโกหกจะทำให้นิ้วเป็นอัมพาต ถ้าพูดโกหก 2 ครั้งร่างกายจะเหมือนถูกต่อยและถ้าพูดโกหก3ครั้งจะเจ็บปวดเหมือนถูกแทงจากข้างในออกมา

ขั้นปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค)

• ชื่อ : กะเท็นเคียวคตสึ:คุโรมัตสิ ชินจู (แม่แบบ:Katen Kyōkotsu:Kuromatsu Shinjū)

บังไคของเคียวราคุนั้นเป็นเหมือนการปลดปล่อยแรงดันวิญญาณอันมหาสารออกมาทำให้ผู้คนที่อยู่บริเวณรอบๆรับรู้หรือสัมผัสได้ถึงแรงดันวิญญาณที่ได้ปลดปล่อยมาโดยแรงดันวิญญาณที่ถูกปลดปล่อยออกมานั้นมากขนาดทำให้ผู้คนโดยรอบมองเห็นสถาพอากาศที่มืด(แต่ที่จริงไม่ได้มืดขึ้นเป็นเพราะแรงกดวิญญาณทำให้รู้สึกมืดขึ้นอ้างอิงจากมังงะตอน648)เกิดอาการหนาวสั่น หนาวสันหลังรวมถึงมองไม่เห็นหรือไม่ได้ยินอะไรอาการที่เกิดขึ้นอาจเกิดขึ้นเฉพาะผู้มีแรงดันวิญญาณไม่สูงมากแต่สำหรับผู้มีแรงดันวิญญาณสูงอาจเกิดเพียงแค่อาการตกใจหรือเหงื่อตกเช่นอิจิโกะกับอัสคิน โดยบังไคของเคียวราคุนั้นแบ่งออกเป็น4ขั้นคือ

• • • ขั้นแรก Temeraikzu no wakachiai (ความลังเลของการแบ่งบันบาดแผล) : ในขั้นนี้หากตัวผู้ใช้หรือศัตรูมีบาดแผลที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้กัน บาดแผลนั้นจะเกิดขึ้นบนตัวของผู้ใช้หรือศัตรูเสมือนว่าเป็นการแบ่งปันกัน(เช่นตอนที่เคียวคาคุต่อสู้กับลีเล่ บาร์โรในการต่อสู้นั้นเคียวราคุได้มีแผลจากการถูกลีเล่โจมตี3แห่งเมื่อเคียวราคุบังไคในขั้นนี้แผลที่เคียวราคุได้รับก็จะไปปรากฏบนตัวของลีเล่เช่นเดียวกัน)

• • • ขั้นที่สอง Zanki no shitone (หมอนแห่งความละอาย) : ในขั้นนี้จะมีจุดด่างดำจะปรากฏบนกายศัตรูเปรียบเสมือนกับคนที่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ในขณะที่นอนอยู่บนเตียงความโศกเศร้าที่เกิดขึ้นก็กลายเป็นโรคที่รักษาไม่ได้ทำให้ศัตรูได้รับบาดเจ็บและทรมารอย่างมากจากขั้นนี้

• • • ขั้นที่สาม Dangyo no fuchi (ห้วงลึกที่ไร้ชีวิต) : เป็นการใช้แรงวิญญาณสร้างห้วงน้ำขนาดใหญ่ออกมารอบตัวผู้ใช้โดยตัวผู้ใช้และศัตรูจะตกไปอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของห้วงน้ำและต้องแข่งกันว่าใครจะหมดแรงดันวิญญาณก่อนกันถ้าแรงดันวิญาณหมดก็จะตกไปสู่ใต้ห่วงลึกที่ไร้ชีวิตและตายลง

• • • ขั้นสุดท้าย Itokiribasami chizome no nodobue (กรรไกรตัดด้ายที่ลำคอเปื้อนเลือด) : เคียวราคุจะสร้างด้ายที่ทำจากแรงดันวิญญาณออกมาจากนิ้วมือเป็นด้ายยาวเพื่อใช้สำหรับตัดคอศัตรูเมื่อศัตรูถูกตัดคอก็จะเสียชีวิตลง