เทียนและทฤษฎีต้นกำเนิด ของ เค้กวันเกิด

ในหลายวัฒนธรรม บุคคลที่กำลังฉลองวันเกิดจะอธิษฐานและเป่าเทียน[3][4][5] ถึงแม้จะไม่ทราบที่มาและความสำคัญของพิธีกรรมนี้ แต่ก็มีหลายทฤษฎีที่สามารถอธิบายพิธีกรรมนี้ได้

จากกรีก

ทฤษฎีหนึ่งที่อธิบายประเพณีการวางเทียนบนเค้กวันเกิดมีสาเหตุมาจากชาวกรีกยุคแรกซึ่งใช้เทียนเพื่อเป็นเกียรติแก่การประสูติของเทพธิดาอาร์เตมิสในวันที่หกของทุกเดือนตามจันทรคติ[6]

จากคนอกศาสนา

การใช้ไฟในบางพิธีกรรมมีขึ้นตั้งแต่การสร้างแท่นบูชา กล่าวกันว่าเทียนวันเกิดมีพลังสัญลักษณ์[7]

ในอดีตมีความเชื่อกันว่าวิญญาณชั่วร้ายมาเยี่ยมผู้คนในวันเกิดของพวกเขา และเพื่อปกป้องบุคคลที่เกิดมาจากความชั่วร้าย ผู้คนจะต้องล้อมรอบบุคคลนั้นและทำให้พวกเขาร่าเริง

จากเยอรมัน

ในศตวรรษที่ 18 ในเยอรมนี ประวัติศาสตร์ของเทียนบนเค้กสามารถสืบย้อนไปถึงงาน Kinderfest ซึ่งเป็นงานฉลองวันเกิดสำหรับเด็ก[8] ประเพณีนี้ใช้เทียนและเค้กด้วย เด็กเยอรมันถูกพาไปที่พื้นที่อย่างหอประชุม ที่นั่นจะมีเฉลิมฉลองในสถานที่ที่ชาวเยอรมันเชื่อว่าผู้ใหญ่ปกป้องเด็กจากวิญญาณชั่วร้ายที่พยายามจะขโมยวิญญาณของพวกเขา ในเวลานั้นยังไม่มีประเพณีการนำของขวัญมาให้ แขกจะนำความปรารถนาดีให้กับคนวันเกิด อย่างไรก็ตามหากแขกนำของขวัญมาจะถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเจ้าของวันเกิด ต่อมาดอกไม้กลายเป็นขวัญวันเกิดที่นิยมอย่างมาก[9]

จากสวิส

การอ้างอิงถึงประเพณีการเป่าเทียนได้รับการบันทึกไว้ในสวิตเซอร์แลนด์ในปี 1881 นักวิจัยวารสารคติชนวิทยาได้บันทึก "ความเชื่อทางไสยศาสตร์" ต่างๆ ในหมู่ชนชั้นกลางชาวสวิส ข้อความหนึ่งระบุว่าเค้กวันเกิดมีการจุดเทียนซึ่งสอดคล้องกับแต่ละปีของชีวิต เทียนเหล่านี้จำเป็นต้องเป่าโดยบุคคลที่กำลังเฉลิมฉลองเป็นรายบุคคล[10]

ใกล้เคียง

แหล่งที่มา

WikiPedia: เค้กวันเกิด http://www.foodandwine.com/news/blowing-out-candle... http://germanhausbarn.com/?page_id=70%7Ctitle=Germ... http://www.tokenz.com/history-of-birthday.html http://www.newenglandrecipes.org/html/birthday-cak... https://statuscrown.com/birthday-wishes/ https://www.theatlantic.com/health/archive/2017/07... https://archive.org/details/bub_gb_pE4KAAAAIAAJ https://archive.org/details/bub_gb_pE4KAAAAIAAJ/pa... https://web.archive.org/web/20200130180039/http://... https://www.independent.co.uk/life-style/blowing-o...