เจงกีส ข่าน (
มองโกเลีย: Чингис Хаан, Chinggis Khaan, Činggis Qaɣan;
/ˈɡɛŋɡɪs ˈkɑːn/ หรือ
/ˈdʒɛŋɡɪs ˈkɑːn/,
[2][3];
อังกฤษ: Genghis Khan; ประมาณ ค.ศ. 1155/ค.ศ. 1162 – 18 สิงหาคม ค.ศ. 1227) จักรพรรดินักรบชาว
มองโกลผู้พิชิต ผู้ก่อตั้ง
จักรวรรดิมองโกล เดิมมีนามว่า เตมูจิน (Temüjin) ตามสถานที่เกิดริมฝั่ง
แม่น้ำโอนอน เป็นผู้นำครอบครัวแทนบิดาเมื่ออายุเพียง 13 ปี และต้องดิ้นรนต่อสู้ขับเคี่ยวกับชนเผ่าต่าง ๆ ที่เป็นอริอยู่หลายปี ปราบเผ่า “
ไนแมน” ทางด้านตะวันตก พิชิตชนชาติ “
ตันกุต” (เซี่ยตะวันตก) และยอมรับการจำนนของชาว “
อุยกูร์”ในปี พ.ศ. 1749 เตมูจิน ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น "เจงกีส ข่าน" และจากปี พ.ศ. 1754 ด้วยการรบพุ่งหลายครั้ง เจงกีส ข่าน สามารถยึดครองจีนตอนเหนือ
จักรวรรดิคารา-คิไต (Qara Khitai Empire)(เหลียวตะวันตก)
จักรวรรดิคาเรสม์ และดินแดนอื่น ๆ อีกหลายแห่ง นับถึงเวลาเมื่อเจงกีส ข่าน สิ้นพระชนม์ จักรวรรดิมองโกลได้แผ่ขยายตั้งแต่
ทะเลดำไปจด
มหาสมุทรแปซิฟิก โดยทั้งหมดเริ่มที่จีนตอนเหนือ หลังจากยึดจงตู (ปัจจุบันคือกรุงปักกิ่ง) ได้แล้ว เจงกีส ข่าน ได้ส่งทูตไปยัง
เปอร์เซีย แต่ทาง
สุลต่านตัดหัวคนที่เขาส่งไป เจงกีส ข่าน สั่งระดมพลไปบุกเปอร์เซีย เมืองทุกเมืองที่ต่อต้านจะถูกปล้นชิงและทำลาย หลังการยึด เจงกีส ข่าน ได้สั่งทหาร 10,000 คนบุกไปทางเหนือ โดยไม่ได้ถูกหยุดเลยจนถึงสุดขอบทะเลยังใกล้เคียงตะวันออกกลางเจงกีส ข่าน มีชีวิตอยู่ตรงช่วงประมาณ 1 ศตวรรษ ก่อน
พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ขึ้นครองราชย์และสถาปนา
กรุงสุโขทัย พระองค์ได้รับการยกย่องโดยทั่วไปว่าเป็นนักการทหารที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของโลก นอกจากความสำเร็จในทางการทหารแล้ว เจงกีส ข่าน ยังสร้างระบบอักษรขึ้นใช้ใน
จักรวรรดิมองโกล โดยดัดแปลงมาจาก
อักษรอุยกูร์ พระองค์รวบรวมชนเผ่าเร่ร่อนต่าง ๆ ของมองโกลเข้าเป็นชาติเดียวกัน และปกครองโดยถือหลักเปิดกว้างต่อความเชื่อทางศาสนา นอกจากนี้พระองค์ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นคงใน
เส้นทางสายไหม ทำให้โลกมุสลิม เอเชียตะวันออก และยุโรป สามารถค้าขายและติดต่อสื่อสารถึงกันได้ภายหลังเจงกีส ข่าน สิ้นพระชนม์ โอเกได ข่าน พระราชโอรสของเจงกีส ข่านได้นำทัพกลับไปที่ใกล้ตะวันออกกลาง แต่ในขณะที่จะเข้า
เวียนนา โอเกได ข่านได้สิ้นพระชนม์ก่อน ทำให้การปะทะกันไม่อาจเกิดขึ้น