เจ้าพระยายมราช นามเดิม
แก้ว (พ.ศ. 2347 - 1 กรกฎาคม 2414) เป็นบุตรของ
เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ดำรงตำแหน่งเป็นเสนาบดีกรมนครบาลและเจ้าเมือง
นครราชสีมาในรัชกาล
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ดำรงตำแหน่งเป็น
พระพรหมบริรักษ์ในรัชกาล
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นแม่ทัพผู้มีบทบาทสำคัญในสงคราม
อานัมสยามยุทธเจ้าพระยายมราช (แก้ว สิงหเสนี) เกิดเมื่อปีชวดพ.ศ. 2347
[1] ใน
รัชกาลที่ 1 เป็นบุตรคนที่แปดของจมื่นเสมอใจราช (สิงห์) มารดาคือท่านผู้หญิงเพ็ง ซึ่งเป็นธิดาของพระพิพิธสาลี (สังข์)
[1][2] นายแก้วมีพี่ชายร่วมมารดาเดียวกันชื่อว่านายเกษ (ต่อมาคือเจ้าพระยามุขมนตรี) ต่อมาใน
รัชกาลที่ 3 บิดาได้เลื่อนขึ้นเป็นเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ที่
สมุหนายก นายแก้วเข้ารับราชการเป็นมหาดเล็ก ภายหลังได้เป็นนายจิตรหุ้มแพร
[1] ต่อมาเป็นจมื่นสมุหพิมาน
[1] ปลัดกรมพระตำรวจขวา หลังจากที่ไปชำระปราบโจรผู้ร้ายที่เมือง
นครราชสีมา จึงได้เลื่อนขึ้นเป็นพระพรหมบริรักษ์ เจ้ากรมสนมตำรวจขวาในพ.ศ. 2384 ขุนนางกัมพูชาซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของเวียดนาม
ราชวงศ์เหงียนลุกฮือขึ้นต่อต้านการปกครองของญวน พระพรหมบริรักษ์ (แก้ว) ได้ติดตามเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์) ผู้เป็นบิดาไปในการศึกสงครามในครั้งนี้ด้วย เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์) มอบหมายให้พระพรหมบริรักษ์ (แก้ว) นำทัพเข้าโจมตีเมือง
โพธิสัตว์[3] หลังจากนั้นเมื่อฝ่ายญวนล่าถอยออกจากกัมพูชาไปอยู่ที่เมือง
โจดกแล้ว เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์) จึงมอบหมายให้พระพรหมบริรักษ์ (แก้ว) นำ
นักองค์ด้วงไปตั้งมั่นอยู่ที่เมือง
อุดงในพ.ศ. 2385 พระพรหมบริรักษ์ (แก้ว) ร่วมกับ
เจ้าพระยายมราช (บุนนาค ยมนาค) และนักองค์ด้วง ยกทัพเข้าโจมตีคลองหวิญเต๊ใน
จังหวัดอานซางของเวียดนาม แต่ทัพฝ่ายญวนสามารถต้านทานทัพของฝ่ายสยามได้ทำให้ฝ่ายสยามต้องล่าถอยกลับ พระพรหมบริรักษ์ (แก้ว) คุ้มครองนักองค์ด้วงอยู่ที่เมืองอุดงเป็นเวลาสามปี จนกระทั่งในพ.ศ. 2388 ทัพญวนนำโดย
เหงียนจิเฟือง (Nguyễn Tri Phương) ยกทัพญวนขึ้นมาโจมตีเมือง
พนมเปญ พระพรหมบริรักษ์ (แก้ว) เข้าป้องกันเมืองพนมเปญแต่ฝ่ายญวนสามารถเข้ายึดเมืองพนมเปญได้สำเร็จ พระพรหมบริรักษ์ (แก้ว) ถอยไปอยู่ที่เมืองอุดง เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์) เดินทางมาจากกรุงเทพฯเพื่อป้องกันเมืองอุดง เหงียนจิเฟืองนำทัพญวนเข้าล้อมเมืองอุดงจนกระทั่งนำไปสู่การเจรจาเพื่อยุติสงครามอานัมสยามยุทธในที่สุดพระพรหมบริรักษ์ (แก้ว) สมรสกับท่านผู้หญิงหนู
[2] เป็นธิดาของเจ๊สัวต่วน ซึ่งเป็นน้องชายของ
เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต กัลยาณมิตร)[4] นอกจากนี้ยังมีภรรยาอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่นท่านผู้หญิงเปรียม
[5] ซึ่งเป็นธิดาของ
เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอิน ณ ราชสีมา)หลังจากกลับจากศึกอานัมสยามยุทธ หลังจากที่พระยามหาเทพ (ปาน) ถึงแก่กรรม พระพรหมบริรักษ์ (แก้ว) ได้รับโปรดเกล้าฯเลื่อนขึ้นเป็นพระมหาเทพ
[1] เจ้ากรมพระตำรวจซ้าย เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองราชสมบัติในพ.ศ. 2394 ทรงแต่งตั้งพระมหาเทพ (แก้ว) ขึ้นเป็นพระยาสีหราชเดโช
[6] พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯพระราชทานอาญาสิทธิ์ให้แก่พระยาสีหราชเดโช (แก้ว) ไปปราบโจรผู้ร้ายที่เมืองนครราชสีมา
[1] ต่อมาพระยาสีหราชเดโช (แก้ว) ได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นพระยากำแหงสงครามเจ้าเมืองนครราชสีมา และต่อมาเมื่อ
เจ้าพระยายมราช (ครุฑ) ถึงแก่กรรมเมื่อพ.ศ. 2408 พระยากำแหงสงคราม (แก้ว) จึงได้เลื่อนขึ้นเป็น
เจ้าพระยายมราช เสนาบดีกรมนครบาลเจ้าพระยายมราช (แก้ว) ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม
[7] ปีมะแม พ.ศ. 2414
[1][7] อายุ 68 ปี รัชกาล
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว