ชีวิตส่วนพระองค์ ของ เจ้าหญิงเฟาซียะห์แห่งอียิปต์

ในงานอภิเษกสมรสที่วังอาบีดิน ประเทศอียิปต์ (เรียงจากซ้าย) พระเจ้าฟารุกที่ 1 แห่งอียิปต์ (พระเชษฐา), เจ้าหญิงเฟาซียะห์ และมกุฎราชกุมารเรซา ปาห์ลาวี

อภิเษกสมรสกับชาห์แห่งอิหร่าน

พระองค์ได้เข้าพระราชพิธีหมั้นกับมกุฎราชกุมารโมฮัมหมัด เรซาแห่งอิหร่านในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1938[9][10] ทั้งสองพบกันในพระราชพิธีหมั้นเพียงครั้งเดียวก่อนพระราชพิธีอภิเษกสมรส[11] พระราชพิธีอภิเษกสมรสถูกจัดขึ้นที่พระราชวังอับดีน กรุงไคโรในวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 1939[12][13] หลังจากการฮันนีมูน ทั้งสองก็จัดพิธีอภิเษกสมรสอีกครั้งที่พระราชวังหินอ่อนในเตหะราน[11] ซึ่งจัดตามพระราชประสงค์ของชาห์เรซา[14][15] การอภิเษกสมรสของทั้งสองถูกจัดขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญระหว่างเจ้าหญิงที่เป็นสุหนี่กับมกุฎราชกุมารที่เป็นชีอะห์[13][16]

สองปีต่อมาพระสวามีได้ขึ้นครองราชสมบัติ เจ้าหญิงเฟาซียะห์จึงกลายเป็น สมเด็จพระราชินีแห่งอิหร่าน พระราชินีเฟาซียะห์ทรงเป็นนางแบบให้เซซิล บีตัน ถ่ายพระฉายาลักษณ์เพื่อตีพิมพ์ลงในนิตยสารไลฟ์ (Life) โดยนายเซซิล บีตันได้กล่าวชื่นชมพระราชินีองค์นี้ว่าทรงเป็น "เทพธิดาวีนัสแห่งเอเชีย" ทั้งยังเสริมว่า "มีพระพักตร์รูปหัวใจคมซีดเผือดผิดปกติ แต่มีดวงพระเนตรสีฟ้าอันเฉียบคม"[12]

หลังจากการอภิเษกสมรส ทั้งสองพระองค์ก็มีพระธิดาด้วยกัน 1 พระองค์[17] คือ เจ้าหญิงชาห์นาซ[1][18] แต่ชีวิตสมรสของทั้งสองไม่ราบรื่นนัก พระราชินีเฟาซียะห์เสด็จกลับกรุงไคโรราวเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1945[19] และทำการหย่าร้างในอียิปต์ ทรงให้เหตุผลว่าเตหะรานนั้นด้อยพัฒนาตรงกันข้ามกับไคโรที่แลดูทันสมัยและเป็นสากล[20][21]

สมเด็จพระราชินีเฟาซียะห์ พร้อมด้วยชาห์โมฮัมหมัด เรซา และเจ้าหญิงชาห์นาซ ปาห์ลาวี พระธิดาพระองค์แรก[22]

นอกจากนี้พระราชินีเฟาซียะห์ยังทรงมีช่วงเวลาที่น่าลำบากจากความไม่ซื่อสัตย์ของชาห์ พระองค์จึงเข้าพบจิตแพทย์อเมริกันที่แบกแดดไม่นานนักก่อนที่จะเสด็จออกจากเตหะราน[19] ตรงกันข้ามรายงานของซีไอเออ้างว่าพระราชินีทรงเยาะเย้ยและละอายพระทัยเกี่ยวกับการหย่อนสมรรถภาพทางเพศของชาห์จนนำไปสู่การหย่าร้าง[21] ขณะที่บันทึกของเจ้าหญิงอัชราฟ พระขนิษฐาฝาแฝดของชาห์ได้ให้ข้อมูลว่า พระราชินีมิได้รับสั่งเรื่องการหย่ากับชาห์เลย[11]

ต่อมาทั้งสองพระองค์ได้หย่ากันที่อียิปต์เมื่อ ค.ศ. 1945 นั้นมิได้รับการยอมรับในประเทศอิหร่านนานหลายปี แต่อย่างไรก็ดีทั้งสองพระองค์ก็ได้ทำการหย่ากันอย่างเป็นทางการในอิหร่านเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1948 พระราชินีเฟาซียะห์ได้กลับมาใช้พระอิสริยยศเดิมคือ เจ้าหญิงแห่งอียิปต์ ส่วนพระราชธิดานั้นตกอยู่ในการดูแลของชาห์[23]

ทั้งนี้ทางสำนักพระราชวังได้ให้เหตุผลว่า "ด้วยสภาวะอากาศของเปอร์เซียทำให้สุขภาพของราชินีเฟาซียะห์ทรุดโทรม ดังนั้นจึงเห็นด้วยกับพระขนิษฐากษัตริย์อียิปต์ที่ต้องการจะหย่า" และชาห์ก็ออกมาประกาศว่า "ไม่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีที่มีอยู่ระหว่างอียิปต์กับอิหร่าน"[24]

ดังนั้นสมเด็จพระราชินีเฟาซียะห์จึงกลับมาดำรงพระยศเป็นเจ้าแห่งอียิปต์และซูดานตามเดิม ส่วนพระเชษฐาของเจ้าหญิงเฟาซียะห์คือพระเจ้าฟารุกที่ 1 แห่งอียิปต์ ก็ได้ทำการหย่าร้างกับสมเด็จพระราชินีฟารีดาในสัปดาห์เดียวกัน[23][25] ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวเป็นที่สนใจของโลกตะวันตกอย่างมาก[26]

เจ้าหญิงเฟาซียะห์ กับอิสมาอีล พระสวามี

การสมรสครั้งที่สอง

เจ้าหญิงเฟาซียะห์แห่งอียิปต์ ได้สมรสอีกครั้งเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 1949 กับพันเอกอิสมาอีล ฮุซัยน์ ชีรีน เบย์ (ค.ศ. 1919-1994)[1] ที่ถูกจัดขึ้นที่พระราชวังคุบบา อิสมาอีลซึ่งเป็นพระญาติห่าง ๆ ของพระองค์ เป็นบุตรคนโตของฮุซัยน์ ชีรีน กับเจ้าหญิงอามีนะห์ บีห์รุซ[27][28] ขณะนั้นเขาได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมและกองทัพเรือของอียิปต์ หลังจากการสมรสทั้งสองได้พำนักในที่ดินส่วนพระองค์ที่มาอ์ดีในกรุงไคโร[28][29] และพำนักที่บ้านอีกแห่งในอะเล็กซานเดรีย[30]

ทั้งคู่มีบุตร-ธิดา 2 คน[31] คือ นาดียะห์ (ค.ศ. 1950-2009) และฮุซัยน์ (เกิด ค.ศ. 1955)[1]

พระบุตร

เจ้าหญิงเฟาซียะห์แห่งอียิปต์ ทรงให้ประสูติกาลพระโอรส-ธิดา รวมกัน 1 พระองค์ กับอีก 2 คน โดยเป็นชาย 1 คน และหญิง 2 คน ซึ่งเป็นบุตรจากการสมรสครั้งแรก 1 พระองค์ และจากการสมรสครั้งที่สองอีก 2 คน คือ

  1. เจ้าหญิงชาห์นาซแห่งอิหร่าน (ประสูติ: ค.ศ. 1940) เสกสมรสครั้งแรกกับอาร์เดชีร์ ซาเฮดี ภายหลังทรงหย่าและเสกสมรสกับโคสเลา จาฮันบานี มีพระธิดาจากการสมรสครั้งแรกหนึ่งพระองค์[32] และโอรสธิดาอย่างละคนจากการสมรสครั้งที่สอง[32] ปัจจุบันประทับอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์[32][33]
  2. นาดียะห์ ราชิด (เกิด: 19 ธันวาคม ค.ศ. 1950[34] - ค.ศ. 2009) สมรสครั้งแรกกับยูซุฟ ซะบาอัน นักแสดงชาวอียิปต์[30] มีธิดาด้วยกัน 1 คน คือ ซีไน ฟารามาวี (ค.ศ. 1973) ต่อมาได้สมรสครั้งที่สองกับมุสตอฟา ราชิด มีธิดาด้วยกัน 1 คน คือ เฟาซียะห์ ราชิด[35]
  3. ฮุซัยน์ ชีรีน (เกิด ค.ศ. 1955) พระโอรสที่เกิดกับอิสมาอีล ฮุซัยน์ ชีรีน เบย์[35]

ใกล้เคียง

เจ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี เจ้าหญิงไอโกะ โทชิโนะมิยะ เจ้าหญิงดิสนีย์ เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร เจ้าหญิงอัตสึ (ละครโทรทัศน์) เจ้าหญิงเฟาซียะห์แห่งอียิปต์ เจ้าหญิงยูริโกะ พระชายาในเจ้าชายทากาฮิโตะ เจ้าหญิงวิกตอเรีย มกุฎราชกุมารีแห่งสวีเดน เจ้าหญิงชาร์ลอตต์แห่งเวลส์ (ค.ศ. 1796–1817) เจ้าหญิงคาโกะแห่งอากิชิโนะ

แหล่งที่มา

WikiPedia: เจ้าหญิงเฟาซียะห์แห่งอียิปต์ http://www.thenational.ae/news/world/a-forgotten-e... http://www.uq.net.au/~zzhsoszy/states/islamic/egyp... http://www.egy.com/maadi/10-11-25.php http://www.egy.com/maadi/maadistreetnames.php http://www.egyptedantan.com. http://books.google.com/books?id=3D5FulN2WqQC&pg=P... http://books.google.com/books?id=YztwygDqvvYC&pg=P... http://books.google.com/books?id=fyrZHsYlhCwC&pg=P... http://news.google.com/newspapers?id=0P8sAAAAIBAJ&... http://news.google.com/newspapers?id=Y4lVAAAAIBAJ&...