เมนูนำทาง
เซต้ากันดั้ม เนื้อเรื่องเซต้ากันดั้มเป็นโมบิลสูทสำคัญที่พัฒนาโดยบริษัทแอนาไฮม์อิเล็กทรอนิกตามโครงการโปรเจกต์เซต้าเพื่อพัฒนาโมบิลสูทที่สามารถแปลงร่างได้ ในช่วงแรกของการพัฒนาเซต้ากันดั้มนั้นประสพปัญหาสำคัญที่โครงสร้างซึ่งใช้กับโมบิลสูทโดยทั่วไปนั้นไม่สามารถใช้การได้ จนกระทั่งได้โครงสร้างแบบมูฟเอเบิ้ลเฟรมของกันดั้มมาร์คทูว์มาศึกษา ซึ่งในขณะนั้นคามิล บีดันนักบินของกลุ่มต่อต้านสหพันธ์โลกซึ่งเป็นอดีตผู้ชนะการแข่งขันออกแบบจูเนียร์โมบิลสูทได้ออกแบบเซต้ากันดั้มไว้เป็นโมบิลสูทในจินตนาการ แต่อัสโตนาจิ เมดอสโซ วิศวกรประจำยานอากาม่าได้นำมาปรับปรุงแล้วส่งไปให้แอนาไฮม์อิเล็กทรอนิกพิจารณาและกลายเป็นรูปแบบของเซต้ากันดั้มที่สมบูรณ์
เซต้ากันดั้มมีไบโอเซ็นเซอร์ที่เป็นระบบไซคอมมิวขนาดเล็กทำให้นักบินที่เป็นนิวไทป์สามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เซต้ากันดั้มสามารถแปลงร่างเป็นยานเวฟไรเดอร์เพื่อเร่งความเร็วและสามารถบินในชั้นบรรยากาศโลกได้ ซึ่งเกราะด้านหลังของเซต้ากันดั้มจะเป็นพลังก์อาร์เมอร์สำหรับกันความร้อนขณะการเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลกในร่างเวฟไรเดอร์ บีมเซเบอร์ของเซต้ากันดั้มจะเก็บไว้ที่เอวและสามารถใช้ยิงเป็นบีมกันในร่างเวฟไรเดอร์ได้ ที่แขนของเซต้ากันดั้มติดตั้งเกรเน็ดลันเชอร์สองลำกล้อง และสามารถใช้งานไฮเปอร์เมก้าลันเชอร์ซึ่งเป็นบีมลันเชอร์อานุภาพสูงซึ่งพัฒนามาจากเมก้าบาซูก้าลันเชอร์ของเฮียะกุชิกิให้มีขนาดเล็กลงและใช้งานได้ง่ายขึ้น ส่วนปลายของไฮเปอร์เมก้าลันเชอร์ติดบีมเซเบอร์ไว้จึงสามารถใช้เป็นเหมือนดาบยาวได้ บีมไรเฟิลของเซต้ากันดั้มก็สามารถใช้เป็นบีมเซเบอร์ได้
เซต้ากันดั้มได้รับการประจำการบนยานอากาม่าโดยเป็นโมบิลสูทประจำตัวของคามิว บีดันตลอดช่วงศึกกรีปส์ ในช่วงสงครามนีโอซีอ้อนครั้งที่หนึ่งซึ่งคามิวอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถควบคุมโมบิลสูทได้อีก เซต้ากันดั้มซึ่งยังประจำการบนยานอากาม่าได้เป็นโมบิลสูทของนักบินรุ่นใหม่ คือจูโด้ อาชิตะและต่อมาได้เปลี่ยนไปให้ลู ลูก้า
เมนูนำทาง
เซต้ากันดั้ม เนื้อเรื่องใกล้เคียง
เซต้า เซต้ากันดั้ม เต้าหู้ เต้าฮวย เต้าเต๋อจิง เต้าหู้ยี้ เต้านม เต้าหู้เหม็น เต้าเจี้ยว เต้าซี่แหล่งที่มา
WikiPedia: เซต้ากันดั้ม