เป็นช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ในเซาท์แคโรไลนา เบนจามิน มาร์ติน (รับบทโดย เมล กิบสัน) ทหารผ่านศึกจากสงครามอินเดียนฝรั่งเศสหรือสงครามเจ็ดปีและเป็นพ่อม่ายที่เลี้ยงดูลูกทั้ง 7 คนของเขาในฟาร์มแห่งหนึ่ง เรื่องเริ่มต้นเมื่อ เกเบรียล มาร์ติน (รับบทโดย ฮีท เลดเจอร์) ลูกชายคนโตสุดของครอบครัวกังวลใจที่อยากจะเข้าร่วมกองทัพอเมริกันเพื่อต่อสู้กับทหารอังกฤษในสงครามปฏิวัติอเมริกัน แต่เนื่องจากเบนจามิน พ่อของเขาไม่ยินยอมให้เกเบรียล เขาร่วมกับกองทัพ ทั้งนี้เพราะพ่อของเขารู้ดีถึงความน่าสะพรึงกลัวของการฆ่าผลาญและความโหดร้ายที่พ่อของเขามีประสบการณ์มาจากสงครามครั้งก่อน เขาจึงห้ามปรามเกเบรียล ไม่ให้เข้าไปเป็นผู้มีส่วนร่วมในสงครามครั้งนี้

ต่อมาเมื่อรัฐสภาของรัฐเซาท์แคโรไลนาได้ลงมติให้รัฐได้เข้าร่วมในการทำสงคราม เกเบรียลจึงตัดสินใจเข้าร่วมกับกองทัพประจำภาคพื้นทวีปและฝ่าฝืนคำสั่งของพ่อเขา เกเบรียลได้กลับไปยังบ้านของเขาหลังจากผ่านสงครามไป 2 ปี และได้รับบาดเจ็บจากความพ้ายแพ้ในสงคราม เขากลับไปพร้อมกับจดหมายที่เขารับผิดชอบให้ไปส่งแก่ผู้บังคับบัญชาการในอีกรัฐหนึ่ง คืนนั้นเองการปะทะกันระหว่างกองทัพถาคพื้นทวีปและกองทัพอังกฤษที่ปะทะกันในทุ่งโล่งใกล้ๆกับบ้านพักของครอบครัวของเขา ได้ปลุกเบนจามิน เกเบรียล และคนอื่นๆในครอบครัว และครอบครัวของเขาได้ให้การพยาบาลทหารที่บาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่ายในเช้าวันต่อมา, เช้าวันนั้นเองที่กองทหารม้าเขียวอันโหดเหี้ยมของกองทัพอังกฤษ ได้เข้ามายังบริเวณบ้านของครอบครัวมาร์ติน และได้มีคำสั่งให้สังหารทหารฝ่ายอเมริกันที่ได้รับการบาดเจ็บทั้งหมดรวมทั้งได้มีคำสั่งให้เผาบ้านของครอบครัวมาร์ตินทิ้งเนื่องจากครอบครัวของเบนจามินได้ให้การช่วยเหลือแก่ทหารฝ่ายอเมริกันและถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ อีกทั้งได้จับกุมตัวเกเบรียล ในข้อหาสายลับ โดยมีเจตนาที่จะแขวนคอเขาในภายหลัง เมื่อเกเบรียล ถูกมัดตัวแล้ว โธมัส (รับบทโดย เกรกอรี่ สมิธ) ลูกชายคนที่ 2 คนรองของเบนจามิน ได้พยายามที่จะช่วยให้เกเบรียลหนีไปแต่ไม่สำเร็จ โธมัสถูกยิงโดยหัวหน้าอันโหดเหี้ยมเลือดเย็นของกองทหารม้า วิลเลี่ยม แทวิงตัน (รับบทโดย เจสัน ไอแซ็กส์) นั้นทำให้เบนจามินเดือดดาลมากและทำให้เขาคิดถึงแผนการที่จะแย่งชิงเกเบรียลกลับคืนมา ด้วยความช่วยเหลือของลูกชายคนเล็กทั้ง 2 ของเขา เนธาน และ แซมมวล (รับบทโดย เทรเวอร์ มอร์แกน และ ไบยาน ชาฟิน) ทั้งสามคนวางแผนที่จะสังหารกองกำลังและเสบียงของอังกฤษกองหนึ่งที่ได้จำกุมตัวเกเบรียลไว้ซึ่งกำลังเดินทางผ่านเนินเขา เบนได้บอกกับลูกอีก 2 คนเขาว่า "ให้พ่อยิงก่อน จากนั้นลูกก็ค่อยยิงทหารพวกนั้น แล้วเดี๋ยวพี่ชายขิงลูกจะเป็นอิสระ"เนธาน และ แซมมวล ต่างก็กลัวโดยเฉพาะแซมมวลที่อายุพึ่งจะไม่กี่ขวบ และจากการลอบโจมตีครั้งนี้เองทำให้เนธาน และ แซมมวล ได้เห็นด้านอันโหดร้ายของพ่อของเขาเองบ้าง เนื่อจากเมื่อพ่อของเขาได้ยิงกองทหารได้ 2 ใน 3 แล้วพ่อของเขาก็ใช้มีดและขวานโทมาว์ฮอค ฟาดฟันทหารที่เหลืออย่างบ้าคลั่งด้วยความแค้นที่ทหารเหล่านั้นได้ฆ่าโทมัส เมื่อช่วยเกเบรียล ได้แล้วเขาได้กลับเข้าร่วมกับกองทัพอีกครั้งเนื่องจากมันเป็นหน้าที่ของทหาร เบนก็ได้ตัดสินใจเข้าร่วมในศึกครั้งนี้เช่นกันและได้เข้ารายงานตัวพร้อมกับลูกชายของเขาด้วย ส่วนเด็กๆที่เหลืออีก 5 คน เขาได้พาไปหลบอยู่กับบ้านป้าชาร์ล็อตต์ (รับบทโดย โจลี่ ริชาร์ดสัน) พี่สาวของภรรยาผู้ล่วงลับเบนได้เปลี่ยนแผนการรบในทันทีเนื่องจากกองทัพของเขานั้นเสียเปรียบกองทัพอังกฤษ ด้วยที่ว่ากองทัพทั้งสองต้องสู้กันด้วยปืนกลไฟในทุ่งโล่งซึ่งเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีในขณะนั้น และกองทัพอังกฤษได้รับการฝึกมาอย่างชำนาญอีกทั้งมียุทธโธปากรณ์ที่เหนือชั้นกว่า

พันเอกแห่งกองทัพภาคพื้นทวีป แฮร์รี่ บูร์เวล (รับบทโดย คริส คูเปอร์) ที่เคยร่วมรบเคียงบ้าเคียงไหล่กับเบนในสงครามอินเดีนยฝรั่งเศสมาแล้ว ได้ขอให้เบนไปรวบรวมทหารอาสามาเพื่อต้านกองทหารของ ลอร์ดควอนอว์ลลิส (รับบทโดย ทอม วิลคินสัน)ไว้ทางใต้ของเซาท์แคโรไลนาไว้ก่อน จนกว่ากองทหารจากความช่วยเหลือของฝรั่งเศส 10,000 คนจะมาถึง โดยให้ ฌอง วิลล์นูล์ฟ นายทหารของฝรั่งเศสมาช่วยฝึกทหารอาสาเหล่านั้นให้ชำนาญ เพราะ ฌอง เองก็ต้องการแก้แค้นเช่นกันที่ทหารอังกฤษเผาภรรยาและลูกสาวของเขาทั้งเป็นบนเรือกองทหารอาสาของเซาท์แคโรไลนาที่ได้รับการฝึกมาแล้วโดยการนำของเบนจามินและฌอง วิลล์นูล์ฟ ได้นำยุทธวิธีแบบกองโจรมาใช้ ด้วยการลอบโจมตีอย่างกะทันหันโดยที่กองทัพอังกฤษไม่ทันตั้งตัว ต่อมากองทหารอาสาเหล่านี้ได้โจมตีกองเสบียงสนับสนุนส่วนตัวของลอร์ดควอนอว์ลลิส (ประกอบด้วย 1.ยึดทรัพย์สินส่วนตัวของลอร์ดควอนอว์ลลิส เช่น สุนัขพันธุ์เกรทเดน บันทึกส่วนตัว เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ 2.ปลอมตัวเป็นทหารอังกฤษเพื่อเข้าไประเบิดเรือที่ขนเสบียง ยุทธภัณฑ์ ซึ่งทอดสมออยู่หน้าตึกมิดเดิลตันที่ที่ลอร์ดควอนอว์ลลิสบัญชาการอยู่) ต่อมาไม่นานเบนได้ใช้การลอบโจมตีอีกครั้งแต่ครั้งนี้เป็นแผนซ้อนแผน เนื่องจาก แทวิงตัน วางแผนหลอกเบนด้วยการส่งกองทหารที่ปลอมเป็นกองเสบียงให้เบนปล้น แต่จริงๆแล้วภายในไม่ได้มีอาหารหรือสิ่งของไดๆ แต่เป็นกองทหารจำนวนมาก ทำให้เบนจนมุมและได้เสียคนจากกองทหารอาสาจำนวนหนึ่ง โดยถูกจับกุมตัวไปยังตึกมิดเดิลตันเพื่อให้สารภาพที่ซ่อนตัวของเบนกับกองกำลังที่เหลือ ถ้าหากไม่ยอมบอก แทวิงตัน ก็จะแขวนคอทหารเหล่านั้น แต่ก็ไม่มีสักคนที่ปริปากบอก ทางด้านเบนได้คิดกลอุบายขึ้นมา โดยเขาได้ขี้ม้าพร้อมชูธงขาว อีกทั้งได้นำสุนัขพันธุ์เกรทเดน 2 ตัวของลอร์ดควอนอว์ลลิสมาด้วย เขาเข้าไปยังตึกมิดเดิลตันที่มีทหารอังกฤษประจำการอยู่จำนวนมาก เบนเข้าไปเจรจากับลอร์ดควอนอว์ลลิสด้วยการขอแลกเชลยทหาร เขาหลอกลอร์ดควอนอว์ลลิสด้วยการบอกว่าเขามีทหารอังกฤษที่จับมาได้อยู่ 18 คน แล้วเบนก็โชว์ให้ลอร์ดควอนอว์ลลิสดูบริเวญเชิงเขา ซึ่งเห็นเป็นทหารใส่ชุดเครื่องแบบทหารอังกฤษถูกมัดอยู่กับเสาไม้ และต้องการแลกกับคนของเขาที่ถูกจับไปพร้อมยังบอกอีกว่าจะนำทรัพย์สินมาคืนโดยเร็วที่สุด ลอร์ดควอนอว์ลลิสเห็นเช่นนั้นจึงมีคำสั่งให้แลกเชลย ขณะแลกกันอยู่นั้นเอง แทวิงตันได้ควบม้าเข้ามาพร้อมตรงดึงเข้าไปหาเบน พร้อมพูดกับผู้ช่วยของลอร์ดควอนอว์ลลิสอย่างโมโห เพราะตัวเขาเองชอบวิธีแบบโหดเหี้ยมดังนั้นเข้าไม่เห็นด้วยกับการแลกเชลยครั้งนี้ แต่สุดท้ายเขาถูกห้ามปรามไว้ไม่ให้ทำอะไร เขาได้แค่พยายามยั่วเบน ด้วยการเขาไปดูถูกและพูดถึงการที่เขายิงโธมัส พร้อมกับยื่นดาบให้เบน ก็เข้าไปหาเขาแล้วพูดว่า "ไม่ต้องมายื่นให้ฉันหรอก ฉันจะฆ่าแกก่อนสงครามนี้จะจบแน่" เมื่อพูดเสร็จเบนก็พากองทหารของเขากลับไปยังฐาน เมื่อทหารอังกฤษเข้าไปดูบริเวณเชิงเขาเพื่อช่วยทหารที่พวกอังกฤษเชื่อว่าเป็นเชลยของเบน แต่เมื่อเข้าไปดูแล้วพบว่าเป็นเพียงหุ่นฟางที่ส่วมชุดทหารอังกฤษ เมื่อรายงานแก่ลอร์ดควอนอว์ลลิสแล้ว ทำให้เขาโกรธและเดือดดาลมาก ลอร์ดควอนอว์ลลิสจึงให้ แทวิงตัน ใช้วิธีแบบโหดเหี้ยมด้วยการไปสืบหาครอบครัวของเหล่าทหารอาสาเหล่านั้นแล้วฆ่าทิ้ง เมื่อแทวิงตันพบบ้านของชาร์ล็อตและเด็กๆแล้ว ก็ได้บุกเข้าไปตรสจค้น แต่ชาร์ล็อตและเด็กๆได้หนีออกมาก่อนแล้ว ทำให้แทวิงตันไม่พบอะไรและได้ฆ่าหัวหน้าคนงานของชาร์ล็อตพร้อมกับเผาบ้านทิ้ง เมื่อเบนรู้ข่าวจึงมาช่วยพร้อมกับพาไปยังที่ปลอดภัย และได้อนุญาตให้เหล่าทหารอาสากลับไปพบกับครอบครัวของตัวเอง 1 สัปดาห์และให้กลับมาเจอกันที่ซ่อนตัวของเบน ในบึงแห่งหนึ่ง ในช่วงเวลานี้เองที่เกเบรียล ได้แต่งงานกับ แอนน์ ฮาวเวิร์ด (รับบทโดย ลิซ่า เบรนเนอร์) เมื่อผ่านไป 1 สัปดาห์ ทหารอาสาทุกคนก็กลับมาร่วมตัวกันอีกครั้ง

ขณะที่แอนน์กับครอบครัวและครอบครัวของทหารอาสาทุกคนก็กลับไปยังเมือง ซึ้งที่นั้นเองแทวิงตันได้รออยู่พร้อมกับบอกให้ทุกคนไปรวมกันตัวที่โบสถ์ประจำเมือง แล้วบอกว่าหากใครบอกที่อยู่ของเหล่าทหารอาสาจะละเว้นโทษขอหากบฏให้จึงมีชาวเมืองคนหนึ่งยอมบอก แต่แทวิงตันก็ปิดประตูโบสถ์และล็อกโบสถ์ และยังให้ทหารเผาโบสถ์พร้อมกับผู้คนภายในทั้งเป็น เมื่อข่าวว่าแทวิงตันได้กวาดล้างผู้คนบริเวณนั้นรู้ไปถึงเบน เขาจึงนำกองกำลังทั้งหมดออกช่วยเหลือ แต่เมื่อไปถึงเมืองก็ไม่พบใครเลยทุกคนได้ตายหมดแล้ว นั้นรวมถึงแอนน์ด้วย เมื่อเกเบรียลรู้เข้าเขาโกรธมาก จึงนำทหารส่วนหนึ่งออกติดตามแทวิงตัน เมื่อพบจึงเกิดการต่อสู้กัน มีคนตายจำนวนมากจากทั้งสองฝ่าย สุดท้ายเกเบรียลได้ยิงแทวิงตัน แทวิงตันล้มลงแต่ยังไม่ตาย เกเบรียลนึกว่าแทวิงตันตายแล้ว จึงหยิบมีดมาเพื่อที่จะเข้าฟาดฟัน แต่ทันใดนั้นเองแทวิงตันคว้ามีดมา แล้วแทงเกเบรียลทำให้เกเบรียลล้มลง แทวิงตันและคนที่เหลือจึงควบม้าหนีไปพร้อมกับบาดแผล เมื่อเบนตามมาก็พบเกเบรียลล้มอยู่แต่มื่อเข้าไปหาได้สักพักเกเบรียลก็สิ้นใจตาย นั้นทำให้เบนศร้าเสียใจมากที่ต้องเสียลูกเป็นคนที่ 2 เมื่อเขากลับไปพบกับพันเอกแฮร์รี่ เขาบอกว่าเขาจะไม่รบอีกต่อไปแล้ว ในขณะที่ฝั่งศพเกเบรียลนั้นเองเขาได้พบธงชาติสหรัฐอเมริกาในกระเป๋าสะพายของเกเบรียล นั้นเป็นแรงบันดาลใจให้เขาสู้ต่อไปและไม่นานหลังจากกลับมาร่วมอีกครั้งเขาได้นำพาทหารอาสา ฌอง วิลล์นูล์ฟ และพันเอกแฮร์รี่เข้าร่วมรบครั้งสำคัญ ซึ่งมันสามารถเปลี่ยนจากฝ่ายอังกฤษที่มีโอกาสชนะมากกว่ากลับมาแพ้ได้ ในขณะการสู้รับอยู่นั้นเองเบนก็มีโอกาสสังการ แทวิงตัน จนสุดท้ายฝ่ายอังกฤษถูกบุกกลับจนต้องถอยร้นกลับไป ผ่านไปไม่กี่เดือนกองทัพฝรั่งเศสก็มาถึงพร้อมกับเรือปืนขนาดใหญ่นั้นทำให้ทัพของอังกฤษต้องยอมจำนนรวมถึง ลอร์ดควอนอว์ลลิสด้วย เมื่อสงครามสิ้นสุดลงทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน เมื่อเบน, ชาร์ล็อตและเด็กๆ กลับไปยังบ้าน ก็พบว่าเหล่าทหารอาสาที่รบเคียงบ้าเคียงไหล่กันมาตลอดสงครามกำลังช่วยกันสร้างบ้านของเบน