ประวัติ ของ เดอะชีลด์

เดอะชีลด์เป็นกลุ่มที่ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2012 ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2012) ในแมตช์การปล้ำคู่เอกระหว่าง ซีเอ็ม พังก์, จอห์น ซีนา และไรแบ็ก ในการชิงแชมป์ WWE พวกเขาได้ใส่ท่า Triple Powerbomb กับไรแบ็คบนโต๊ะผู้บรรยาย ทำให้พังก์จับกดซีนาจนชนะและป้องกันแชมป์ WWE เอาไว้ได้[11] ในศึกทีแอลซี (2012) เดอะชีลด์ได้เอาชนะไรแบ็ก และทีมเฮลโน(เคนและแดเนียล ไบรอัน)เป็นแมตช์แรกได้ในรูปแบบใช้โต๊ะ บันได และเก้าอี้ โดยเอาชนะด้วยการจับกดหรือทำให้ยอมแพ้[12] ต่อมาเดอะชีลด์ได้มารอบทำร้ายริก แฟลร์แต่ก็มีคนออกมาช่วย[13] ในรอว์ (7 มกราคม 2013) เดอะชีลด์ได้ออกมารุมทำร้ายไรแบ็ก ในระหว่างการปล้ำโต๊ะ บันได และเก้าอี้ ชิงแชมป์ WWE กับพังก์ จนพังก์สามารถป้องกันแชมป์ไปได้[14] ใน NXT (9 มกราคม 2013) รอลลินส์ต้องป้องกันแชมป์ NXTกับบิ๊กอีแบบไม่มีกฎกติกา ระหว่างแมตช์สมาชิกเดอะชีลด์ได้ขึ้นไปรุมบิ๊กอี จนเหล่านักมวยปล้ำ NXT ทั้งหมดออกมาช่วย และบิ๊กอีสามารถคว้าแชมป์ NXT ไปได้[15] ในรอยัลรัมเบิล (2013) เดอะชีลด์ได้ปรากฏตัวโดยรุมทำร้ายเดอะร็อก ระหว่างชิงแชมป์ WWE ซึ่งในตอนแรกพังก์กดนับ 3 ชนะ แต่วินซ์ แม็กแมนออกมาบอกให้เริ่มใหม่ เลยทำให้ร็อกคว้าแชมป์ไปได้[16]

ในรอว์ (28 มกราคม 2013) เดอะชีลด์จะมารุมลอบทำร้ายจอห์น ซีนา แม้ว่าเชมัสกับไรแบ็กจะออกมาช่วยแต่ก็โดนรุมทำร้าย สุดท้ายเดอะชีลด์เล่นงานซีนา ด้วยท่า Triple Powerbomb[17] ในรอว์สัปดาห์ต่อมา เดอะชีลด์โดนทีมซีนาล้อมเอาไว้ ทำให้เดอะชีลด์วิ่งหนีไปทางหลังเวทีแต่เหล่าทัพนักมวยปล้ำออกมาขวางเอาไว้ เดอะชีลด์เลยโดนทีมซีนาอัดจนน่วม ก่อนที่จะหนีไปทางอัฒจรรย์[18] ในรอว์ (11 กุมภาพันธ์ 2013) เดอะชีลด์ออกมาท้าทายทีมของซีนา ว่าถ้าอยากมีเรื่องก็ออกมาเจอกันเดี๋ยวนี้ได้เลย ปรากฏว่าไฟในสนามดับ แล้วกลุ่มของซีนาก็ออกมาไล่อัดเดอะชีลด์ จนหนีกระเจิง[19] ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2013) เดอะชีลด์เอาชนะททีมซีนาไปได้[20][21] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29 เดอะชีลด์เอาชนะเชมัส, แรนดี ออร์ตัน และบิ๊กโชว์ไปได้ในเรสเซิลเมเนียครั้งแรกของพวกเขา[22][23] ในรอว์ (8 เมษายน 2013) ดิอันเดอร์เทเกอร์ออกมาอุทิศชัยชนะให้กับพอล แบเรอร์ หลังจากที่ชนะซีเอ็ม พังก์ในเรสเซิลเมเนีย 29 เดอะชีลด์ออกมารุมล้อมอันเดอร์เทเกอร์ แต่เคนกับแดเนียล ไบรอันออกมาช่วย ทำให้เดอะชีลด์หนีไป[24] ในรอว์ (22 เมษายน 2013) เดอะชีลด์ได้เอาชนะอันเดอร์เทเกอร์, เคน และไบรอัน[25] ในสแมคดาวน์ (26 เมษายน 2013) หลังจากดีน แอมโบรสได้ปล้ำแพ้ให้อันเดอร์เทเกอร์ เดอะชีลด์ได้ลอบทำร้ายอันเดอร์เทเกอร์จนต้องพักไป[26] ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2013)แอมโบรสคว้าแชมป์ยูเอสได้จากโคฟี คิงส์ตัน คืนเดียวกันรอลลินส์กับเรนส์คว้าแชมป์แท็กทีม WWEได้จากทีมเฮลโน ทำให้เดอะชีลด์มีแชมป์ครบทุกคน[27][28] ในรอว์ (14 ตุลาคม 2013) รอลลินส์กับเรนส์เสียแชมป์แท็กทีมให้โคดี โรดส์และโกลดัสต์จากการช่วยเหลือของบิ๊กโชว์[29]

ในรอว์ (27 มกราคม 2014) เดอะชีลด์ได้ปล้ำแท็กทีม 6 คนกับ แดเนียล ไบรอัน, เชมัส และ จอห์น ซีนา เพื่อที่จะเข้าไปปล้ำชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWEในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2014) แต่เดอะไวแอ็ตต์แฟมิลีเข้ามาก่อกวนทำให้เดอะชีลด์แพ้ฟาวล์[30] เดอะชีลด์จึงท้าเจอกับไวแอ็ตต์แฟมิลีในแชมเบอร์แต่เดอะชีลด์ก็แพ้[31] ต่อมาเดอะชีลด์ได้เป็นฝ่ายธรรมะ ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 30 ปล้ำแท็กทีม6คนชนะเคนและเดอะนิวเอจเอาต์ลอวส์ไปได้[32] วันต่อมาในรอว์หลังเรสเซิลเมเนีย (7 เมษายน 2014) แชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE แดเนียล ไบรอัน ได้มาฉลองกับผู้ชม ก่อนจะถูกทริปเปิลเอชขัดจังหวะโดยจัดแมทช์ให้ตัวเองชิงแชมป์ในคืนนั้น ก่อนหน้าแมตช์ชิงแชมป์นั้น สเตฟานี แม็กแมนได้ออกมาสั่งให้แรนดี ออร์ตันและบาทิสตาร่วมมือกันเป็นทีม เริ่มต้นจากแมตช์ชิงแชมป์แท็กทีมกับดิอูโซส์ ผลออกมาเป็นดับเบิลเคาท์เอาท์ และได้สั่งให้ เคน, บาทิสตา และ ออร์ตัน ทำร้ายไบรอันก่อนการก่อนแข่งขันจะเริ่มต้น เป็นการสร้างจุดอ่อน และทำให้ทริปเปิลเอชมีโอกาสในการชนะมากขึ้น จนเดอะชีลด์ออกมาบนเวทีและช่วยไบรอันจากการกลั่นแกล้งจัดการกับพวกกลุ่มของทริปเปิลเอช[33] ในรอว์ (14 เมษายน 2014) เดอะชีลด์ต้องปล้ำแฮนดิแคป 11 รุม 3 แต่กรรมการต้องยุติแมตช์เนื่องจากอัดกันไม่หยุด ก่อนที่ทริปเปิลเอช, ออร์ตัน และบาทิสตา จะออกมาในนามของกลุ่มเอฟโวลูชั่น เพื่อจัดการเดอะชีลด์[34] ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2014) เดอะชีลด์เอาชนะเอฟโวลูชั่นไปได้สำเร็จ[35] ดูเหมือนว่าความแค้นของกลุ่มเอฟโวลูชั่นจะยังไม่จบลง เมื่อในรอว์ (5 พฤษภาคม 2014) แอมโบรสต้องป้องกันแชมป์ยูเอสกับนักมวยปล้ำ 19 คนในแบทเทิลรอยัล โดยเชมัสคว้าแชมป์ไปได้ และจบสถิติการป้องกันแชมป์ของแอมโบรส 351 วัน[36][37] ในเพย์แบ็ค (2014) เดอะชีลด์ต้องเจอกับเอฟโวลูชั่นอีกครั้ง แบบไม่มีกฎกติกา คัดออก สุดท้ายเดอะชีลด์เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 3-0[38]

ในรอว์ (2 มิถุนายน 2014) โรแมน เรนส์มีคิวเจอกับแรนดี ออร์ตัน โดยออร์ตันออกมาพร้อมกับทริปเปิลเอชที่ถือค้อนมาด้วย ทำให้เดอะชีลด์พากันไปหยิบเก้าอี้มาเตรียมไว้ ทริปเปิลเอชบอกว่าบาทิสตามันหนีไปแล้ว แต่เราก็มีแผน 2 เสมอ... ว่าแล้วรอลลินส์ก็เอาเก้าอี้ฟาดใส่เรนส์จากด้านหลัง จากนั้นก็ฟาดแอมโบรสอีกคน ปิดรายการโดยมีรอลลินส์ยืนอยู่กับแรนดี ออร์ตันและทริปเปิลเอชเป็นอันยุติบทบาทกลุ่มเดอะชีลด์[39][40] ในรอว์ (9 มิถุนายน 2014) ทริปเปิลเอชได้สั่งจัดแมตช์ไวแอ็ตต์แฟมิลีเจอกับเดอะชีลด์แบบ 3 ต่อ 3 ทว่าสมาชิกของเดอะชีลด์มีเพียง 2 คน ทริปเปิลเอชบอกว่าถ้าหาคู่ไม่ได้ก็ต้องสู้แบบ 2 ต่อ 3 คืนเดียวกัน แอมโบรสและเรนส์จับคู่กับจอห์น ซีนาชนะไวแอ็ตต์แฟมิลีไปได้[41][42] ในสแมคดาวน์ (13 มิถุนายน 2014) แอมโบรสกับเรนส์ออกมาพูดถึงเรื่องที่ออร์ตันได้เข้าร่วมมันนีอินเดอะแบงก์โดยไม่ต้องผ่านรอบคัดเลือกว่าเอาแต่ใช้เส้นไม่เลิก เรนส์บอกว่าเขากับแอมโบรสก็อยากจะเป็นแชมป์เหมือนกัน ทริปเปิลเอชโผล่มาทางจอยักษ์ และบอกว่าเสียใจด้วยนะ เหลือที่ว่างอีกแค่ที่เดียวเท่านั้น ดังนั้นจะใช้วิธีการโยนเหรียญตัดสิน ผลการโยนเหรียญคือแอมโบรสจะได้โอกาสปล้ำรอบคัดเลือกเพื่อเข้าสู่มันนีอินเดอะแบงก์ โดยเจอกับเบรย์ ไวแอ็ตต์ และเรนส์กับลูกน้องของเบรย์จะต้องโดนแบนจากข้างเวทีด้วย ส่วนเรนส์ต้องเจอกับแบด นิวส์ บาร์เร็ตต์ทันที โดยเรนส์ชนะฟาล์ว เพราะกลุ่มทรีเอ็มบีออกมาขัดจังหวะ ในแมตช์ระหว่างแอมโบรสกับไวแอ็ตต์นั้น รอลลินส์ได้มาก่อกวนทำให้แอมโบรสแพ้หมดสิทธิ์เข้าร่วม[43] ในรอว์ (16 มิถุนายน 2014) รอลลินส์มีแมตช์เจอกับดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ ระหว่างแมตช์แอมโบรสก็โผล่มาอัดรอลลินส์ จนกรรมการยุติแมตช์ไป หลังแมตช์ทริปเปิลเอชโผล่มาทางจอยักษ์ และสั่งให้แอมโบรสเจอกับบาร์เร็ตต์ทันที แต่รอลลินส์มาก่อกวน ทำให้แอมโบรสไปวิ่งไล่อัดรอลลินส์จนกรรมการนับ 10 แพ้ คืนเดียวกันเรนส์ได้ชนะแบทเทิลรอยัล 20 คน และได้เข้าร่วมไต่บันไดชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE และเป็นการแยกทีมอย่างเป็นทางการของกลุ่มเดอะชีลด์[6][44]

ในซัมเมอร์สแลม (2017) แอมโบรสและรอลลินส์ได้ร่วมทีมกันคว้าแชมป์รอว์แท็กทีม WWEจากซีซาโรและเชมัส[45][46] ทำให้แอมโบรสเป็นสมาชิกเดอะชีลด์คนแรกที่ได้แชมป์แกรนด์สแลมและแชมป์ทริปเปิลคราวน์[47] ในรอว์ (9 ตุลาคม 2017) เดอะชีลด์ร่วมมือกันจัดการกลุ่มของเดอะมิซจนราบคาบ และปิดฉากด้วยท่า Triple Powerbomb ใส่มิซก่อนยืนโพสท่าประสานกำปั้นบนเวที คืนเดียวกันเดอะชีลด์ได้ออกมาจัดการบรอน สโตรว์แมนด้วย Triple Powerbomb ใส่โต๊ะผู้บรรยาย[48] ในทีแอลซี (2017)เดอะชีลด์ต้องปล้ำแฮนคิแคป 5 ต่อ 3 เจอกับเดอะมิซ, เชมัส, ซึซาโร, บรอน สโตรว์แมน และเคน[49] แต่ทว่าเรนส์เกิดป่วยกระทันหัน ทำให้เคิร์ต แองเกิลมาร่วมทีมแทนเรนส์[50] และทีมแองเกิลคว้าชัยชนะไปได้[51] ในรอว์ 6 พฤศจิกายน แอมโบรสและรอลลินส์เสียแชมป์แท็กทีมคืนให้ซีซาโรและเชมัสจากการก่อกวนของเดอะนิวเดย์[52] สัปดาห์ต่อมาเดอะชีลด์ได้ประกาศท้าเจอกับนิวเดย์ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2017)[53] ซึ่งเดอะชีลด์ชนะไปได้[54] คืนต่อมาในรอว์ 20 พฤศจิกายน เรนส์สามารถคว้าแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัลได้จากเดอะมิซ ทำให้เป็นสมาชิกเดอะชีลด์คนที่สองที่ได้แชมป์แกรนด์สแลมและแชมป์ทริปเปิลคราวน์ต่อจากแอมโบรส[55] ในเดือนธันวาคม 2017 แอมโบรสได้รับบาดเจ็บทำให้เดอะชีลด์ต้องยุติบทบาทลง ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 34 รอลลินส์ก็ได้คว้าแชมป์อินเตอร์จากแมตช์ 3 เส้าทำให้เป็นแชมป์แกรนด์สแลมและแชมป์ทริปเปิลคราวน์คนสุดท้ายของเดอะชีลด์

หลังจากแอมโบรสหายเจ็บกลับมาก็ทำให้เดอะชีลด์ได้กลับมารวมทีมกันอีกครั้งโดยเปิดศึกกับ บรอน สโตรว์แมน, ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ และดรูว์ แม็กอินไทร์[56] ก่อนที่เรนส์จะพักการปล้ำและต้องสละแชมป์ยูนิเวอร์แซล WWEเพราะป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือลูคีเมีย และในคืนเดียวกันแอมโบรสได้หักหลังรอลลินส์เป็นการแตกกลุ่มเดอะชีลด์อีกครั้ง ในรอว์ 25 กุมภาพันธ์ 2019 เรนส์ได้กลับมาจากโรคลูคีเมียและรวมทีมกับรอลลินส์ต่อมาในคืนนั้นพวกเขาช่วยแอมโบรสจากการถูกเล่นงานโดย อีไลแอส, บ็อบบี แลชลีย์, ดรูว์ แม็กอินไทร์ และ แบรอน คอร์บิน[57] ในสัปดาห์ต่อมาพวกเขาช่วยแอมโบรสจากการทำร้ายของทั้งสี่หลังจากนั้นทั้งสามก็แสดงท่าโพสท่าของพวกเขาอย่างเป็นทางการรวมกลุ่มเป็นครั้งที่สามและเป็นครั้งสุดท้าย[58] วันที่ 10 มีนาคม เดอะชีลด์สามารถเอาชนะทีม คอร์บิน, แลชลีย์ และ ดรูว์ แม็กอินไทร์ ได้ในฟาสต์เลน 2019[59]

แหล่งที่มา

WikiPedia: เดอะชีลด์ http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/2013/10/15/211... http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/PPVReports/201... http://slam.canoe.com/Slam/Wrestling/2013/04/22/20... http://slam.canoe.com/Slam/Wrestling/2013/04/26/20... http://slam.canoe.com/Slam/Wrestling/2014/01/28/21... http://slam.canoe.com/Slam/Wrestling/2014/06/01/21... http://slam.canoe.com/Slam/Wrestling/MatMatters/20... http://www.f4wonline.com/component/content/article... http://www.f4wonline.com/component/content/article... http://www.profightdb.com/pwi-500/2013.html